จอนนี่ แอนโฟเน่ อวดหน้าใหม่ หลังผ่าตัดยกทั้งหน้า แจงเหตุย้ายช่อง หุ้นส่วนขอแยกทาง ตั้งเป้าอายุ 55 วางมือธุรกิจ คิดลงเล่นการเมือง เตรียมใจรับมือโดนด่า

เปิดใจครั้งแรก จอนนี่ แอนโฟเน่ ดารารุ่นเก๋า กับการไปอัพหน้าจนทายอายุไม่ถูกกันเลยทีเดียว บอกได้สมดั่งใจหน้าดูสดชื่น พร้อมเผยถึงเรื่องของการย้ายช่อง และปัญหากับหุ้นส่วนจนต้องแยกทาง และความตั้งใจอยากลงเล่นการเมืองหลังจากนี้ ทุกประเด็นสุดแซ่บในรายการคุยแซ่บSHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มีธัญญ่า ธัญเรศ อาจารย์เป็นหนึ่ง และหนิง ปณิตา ดำเนินรายการ

ไปทำหล่อมา? “ใช่ครับ ครบ 1 เดือนพอดีเลยเรียกว่าอัพเดตดีกว่า เขาทำให้ฟรีแล้วเราอยากทำพอดี ดูรีวิวหาข้อมูลจนน่าวางใจ เขาถามทำคู่กันเลยมั้ยกับคุณนก(จริยา) คุณนกบอกถามฉันหรือยัง งั้นเราทำนำไปก่อนเลย เราเห็นพี่โน่(นีโน่ เมทนี) เขาไปดูดไขมันที่แผ่นอก เราก็อยากทำด้วย แต่พอไปตรวจของเราไม่ใช่ไขมัน มันเป็นโรคเต้านมโต คุณหมอบอกผ่าได้ แทนที่จะทำหน้าเลยไปผ่าหน้าอกก่อนเอาก้อนเนื้อนี้ออก แล้วเขาก็ดูดไขมันแถมให้เลย พอทำเสร็จแล้วเราเริ่มสนุก”

ก่อนหน้านั้นแอนตี้เรื่องการทำศัลยกรรม? “ไม่ชอบ เพราะไอดอลเรายับหมดทุกคน อย่างอาหนิง นิรุตติ์ เท่ห์แบบยับๆ สมัยหนุ่มใครให้บำรุงหน้า ผมบอกไม่ต้อง เพราะผมมีในหัวผมแล้วว่าจะเป็นยังไงเลยไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้”

อะไรดลใจให้คิดเปลี่ยนเลย? “คนเราแต่ละคนไม่ได้เป็นอย่างนั้นได้ทุกคน พอเรามียับๆ ลองไปเทียบกับเขา เราไม่ได้เท่แบบเขา เราไม่ได้เป็นอย่างอาหนิงได้ ผมว่าแต่ละคนมีแบบของตัวเองว่าควรเป็นยังไง ผมเห็นว่ามาถึงครึ่งชีวิตแล้ว ถ้าเราอยากจะทำอะไรทั้งทีก็ทำมันตอนนี้ ทำตอนนี้ก็ยังไม่เยอะนิดๆ หน่อยๆ เก็บๆ”

หลังจากหน้าอกแล้วทำอะไรต่อ? “หน้าเลยครับทีนี้ ดึงเลยดีกว่า ตัดสินใจ 5 นาที นี่แบบ face off เลย ตั้งแต่เข้าห้องผ่าตัดจนถึงตอนนี้ยังไม่รู้สึกเจ็บเลย บางคนความเจ็บอาจจะไม่เท่ากัน”








Advertisement

กลัวเรื่องโหงวเฮ้งเปลี่ยนไหม? “มีครับ ผมว่ามันเป็นงานฝีมือมาก เราบอกหมอเอาแบบธรรมชาติ ผมยังชอบผมอยู่แต่ขอให้สดชื่นขึ้นสดใสขึ้น ไม่ได้ว่าต้องดูเด็กลง ผมไม่อยากให้ผิวหน้ามันห้อยดูหน้าเหนื่อย วันจะเข้าห้องผ่าตัดเรานั่งนึกในใจจะทำทั้งทีเอาให้มันเยอะๆ ไปเลยดีกว่าเผื่อไว้อีก 10 ปีข้างหน้า พอไปเจอหมอบอกยกให้เป็นตาจีนไปเลยได้มั้ย หมอบอกผมไม่ทำให้ เขาอธิบายให้ฟังว่าของเราไม่ได้เพราะมีเคราถ้าดึงเยอะเคราจะไปขึ้นหู”

ศัลยกรรมต้องวางยาสลบ แต่ตัวเองมีประสบการณ์ไม่ดีเกี่ยวกับวางยาสลบ? “วางยาสลบบ่อยเพราะไฟไหม้ ทุกครั้งที่ขัดแผลไฟไหม้ต้องวางยาสลบ ตื่นมาเหมือนหลอน เป็นคนแพ้ยาสลบหรืออะไรไม่ทราบ เวลาฟื้นยาสลบจะมีอาการไม่เหมือนคนอื่นเขา จะเพ้อเหมือนเราเมาอะไรสักอย่าง มีโวยวาย เรารับรู้หมดแต่คอนโทรลตัวเองไม่ได้ เลยค่อนข้างหลอนยาสลบจะไปยุ่งกับหมอวิสัญญีพอสมควร จะไปบอกให้เขาฟัง เขาก็ปรุงยาให้ในการวางยา ตื่นมาคราวนี้เป็นอีกด้านหนึ่งกลับนั่งนิ่ง สงบเลย นั่งสำรวจตัวเองเจ็บตรงไหนบ้าง”

ฟื้นขึ้นมาเห็นหน้าตัวเองความรู้สึกเป็นยังไงบ้าง? “มันบวมก่อนเลย อาการแรกที่ตกใจเลยคือเวลาเราส่องกระจกเราเห็นหูตัวเองหรือเปล่า พอเราไม่เห็นมันเลยแปลกๆ มันบวม พอผ่านไป 1-2 วัน มันยุบอย่างเร็วเลย”

แล้วตอนนี้ผ่านไป 1 เดือน เวลาส่องกระจก? “ยังหล่อไม่เสร็จ ยังบวมอยู่”

กระแสหลังทำ? “ที่เราไปเห็นนะ ทุกคนเขาก็ชอบ หน้าตาสดชื่น มันก็เป็นแบบที่เราอยากได้ ตอนครบ 1 อาทิตย์ตัดไหม โรงพยาบาลเอารูปขึ้นคนก็แบบทำไมมันบวม ผมมีไอจีแต่ไม่ได้เล่นเองให้น้องเล่นเพราะไม่ค่อยมีเวลา ตอนหลังเลยเล่นเองคนจะได้ไม่พูดกันไปเรื่อยเดากันไปเรื่อย จะได้ถ่ายตัวเองให้เขาดูได้เลยอัพเดตให้เองว่ามันเปลี่ยน”

ภรรยาว่าไงบ้าง? “เขาก็แอบอิจฉาความสวยของผม ผมยุให้ทำ ให้มันดูสดชื่น ไม่ได้ให้เปลี่ยนหน้า แต่ที่ผมทำคือ lift up ไม่มีใส่อะไรแปลกปลอม หน้าเราก็ยังเป็นหน้าเราอยู่ หน้าตึงขึ้น”

มีคนชวนฉีดปากด้วย? “ที่โรงพยาบาลเขามาชวนว่าเติมปากอีกหน่อย คุณนกนั่งอยู่ข้างๆ บอกไปไกลๆ เลยฉีดเมื่อไหร่ไม่ต้องมาเดินข้างฉัน เราเลยเบรกไว้ก่อน ลองไปดูเขาฉีดแล้วเป็นยังไง สำหรับผมยังไม่น่าฉีด”

ทำไมถึงกล้าบอกว่าศัลยกรรม? “ไม่รู้จะปิดทำไม เราไม่ได้ทำบนหน้าใคร ทำบนหน้าตัวเอง เราไม่ได้ไปทำให้ใครเขาเดือดร้อน มันเป็นความสุขส่วนตัวเป็นความชอบของเราเองที่อยากทำให้หน้าสดชื่น เราไม่ได้เปลี่ยนหน้าตัวเองเลยไม่รู้สึกว่าต้องปิดบัง เรื่องการดูแลหน้าตาหรือศัลยกรรมผมว่าปัจจุบันนี้มันเป็นเรื่องไม่ต้องปิด”

จะทำอะไรต่อ? “แปลงเพศเลยครับ (หัวเราะ) ไม่มีครับหมดแล้ว”

กระแสบางคนบอกหน้าเดิมดีกว่า? “หน้ามันก็ไม่ได้เปลี่ยน อาจจะยังไม่เข้ารูปบ้าง มันยังบวมอยู่ ถ้าหน้าเดิมรอไว้หนวดอีกแป๊บนึง ตอนนี้ต้องทำแผลเราเลยไว้ไม่ได้”

ถามเรื่องการย้ายช่องเกิดปัญหาอะไร? “มันมี 2 เรื่อง เรารู้สึกว่าอยากหยุดทำงานกับที่เดิมก่อน ด้วยมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายในการร่วมงานกัน ตั้งแต่โควิดเศรษฐกิจมันดิ่งลงมาก ลูกค้าโฆษณาสปอนเซอร์ไม่มีกำลังซื้อเยอะพอสมควร ปรับเปลี่ยนจาก time sharing เป็นเก็บค่าเช่า เราคำนวณต้นทุนแล้ว แต่ไม่ได้ทะเลาะกันนะครับ คุยกันด้วยเหตุด้วยผลว่าเราไปไม่ไหวจริงๆ อย่าเรียกว่าแยกย้ายแต่เราขอหยุดก่อน เราดูแล้วว่าในอีก 1 ปีข้างหน้าก็น่าจะกลับมายังไม่มากนัก ถ้าโดนค่าเช่าเวลาเข้าไปอีกก็น่าจะแพงเพราะช่องใหญ่ เราก็น่าจะขาดทุนเยอะเพราะเราปิดต้นทุนนี้ไม่ได้ เราเลยขอหยุดก่อน อีกอันเราไปทำงานกับทางเทโรฯ ซึ่งมีการย้ายเหมือนกัน เราต้องตามเทโรฯ ไปอีกช่องหนึ่ง ไปทางวิกหมอชิต ทำรายการขึ้นรายการใหม่ ทำละคร ไม่ได้ทะเลาะกับใครเราคุยกันด้วยเหตุด้วยผล”

ปรับตัวยังไง? “เปลี่ยนเยอะมาก ผมอยู่มาเกือบ 30 ปี ส่วนอีกช่องคนดูคนละกลุ่มกันเลย เราไม่เคยทำงานเสิร์ฟเขามาก่อน ต้องเปลี่ยนเยอะมาก วิธีคิดเรื่องงาน วิธีทำงานต้องเปลี่ยนไปหมด”

ทางช่องเดิมน้อยใจบ้างไหม? “มันไม่มี เพราะว่าเราไม่ได้ย้ายเพราะทะเลาะ เราหยุดเฉยๆ ตอนแรกผมกะอยู่เฉยๆ อยู่กับบ้านหลบโควิดอย่างเดียวเลย บังเอิญมีคนมาชวนให้ไปช่วยงานที่เทโรฯเป็นจังหวะเดียวกับที่เทโรฯ ย้ายมาทำงานอีกช่องหมอชิต เราก็เลยต้องทำงานกับเทโรฯ ที่ช่อง”

มีข่าวแยกทางกับอดีตหุ้นส่วน? “ผมมีหุ้นส่วนหลายคน แยกกันเพราะว่าเขาอยากแยก เราก็แล้วแต่ตามสบาย ผมเป็นคนเพื่อนเยอะ หุ้นส่วนเยอะ มีหลายบริษัท มันเหมือนการมีแฟน ถ้าแฟนขอเลิกเราจะไม่ตีโพยตีพาย เขาคงคิดไม่เหมือนกับเราแล้วจะแยกกันก็ตามสบาย เราไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน”

หลายคนคิดว่าแยกกันต้องทะเลาะกัน? “ผมไม่มีนะ เขามีหรือเปล่าผมไม่ทราบ ผมก็บอกเขาว่าเฉยๆ ผมไม่ได้มีปัญหาอะไร หุ้นส่วนคนอื่นไม่ทราบว่าเขายังไง แต่ตัวผมไม่มีอะไรเลย”

ความเปลี่ยนแปลงใหญ่เลย? “ปีที่แล้วก็มี เอาตรงๆ นะปิดไป 2-3 บริษัทเลย เราไม่ใจหายนะ เพราะเศรษฐกิจมันแย่จริงๆ”

จะลาวงการบันเทิง? “ไม่ได้ลาวงการบันเทิงครับ เราตั้งเป้าชีวิตเราไว้ว่าในแต่ละช่วงอยากให้เป็นยังไง ในเรื่องของธุรกิจการทำงานวงการบันเทิงก็ถือเป็นธุรกิจ วางมือจากงานที่เราต้องทำธุรกิจซักอายุ 55 อันนี้นึกในใจไว้ก่อนหน้านี้ ตอนนี้ 52 เราก็เริ่มดูไว้ แต่ในช่วงนี้ที่ผ่านมาเป็นช่วงโควิดเจอคนที่ลำบากมาก ไปช่วยเหลือคน ผมได้นั่งกลับมาคิด ชีวิตเราตั้งแต่อายุ 17 เข้าวงการจนถึงทุกวันนี้ ได้หาเงินมาด้วยวงการบันเทิง ทั้งความนิยมชมชอบของคนดู วงการให้ทุกสิ่งทุกอย่าง รวมถึงมีครอบครัว เจอภรรยา มีลูก มีเงินเลี้ยงครอบครัว คิดว่าหลังจากนี้ถ้าอยากวางมือจากธุรกิจแล้ว สิ่งที่อยากทำเลยก็คืออยากไปเล่นการเมือง ไปดูแลพี่น้องประชาชนบ้าง ด้วยความรู้ความสามารถที่เรามี เราน่าจะทำงานให้บ้านเมืองบ้าง ให้ประเทศชาติบ้าง ให้ประชาชนบ้าง จะไปอยู่ที่ไหนอันนี้ยังไม่ได้ตกลง

การเมืองอาจมีถูกด่ากลัวไหม? ไม่ได้กลัวครับ ต้องโดนอยู่แล้ว เตรียมใจแล้ว พี่นกก็เตรียมใจแล้ว พี่นกไม่ค่อยโอเคมันต้องมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ เราก็ปิดหูปิดตาบ้าง ไม่ต้องไปรับทั้งหมดคนเรา ไม่งั้นมันจะทำให้สิ่งที่เราตั้งใจอยากทำ ไม่ได้ทำ

คลิปสัมภาษณ์ จอนนี่ แอนโฟเน่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน