ความสุขเอ่อล้น “แพทริเซีย” เผยวันแต่ง “โน้ต วิเศษ” 20 ธ.ค. 65 ลั่น จัดใหญ่เกินคาด 2วันเต็มๆ
ใกล้วันวิวาห์เข้ามาทุกที ล่าสุด นางเอกสาว “แพทริเซีย กู๊ด” ก็พกออร่าเจ้าสาวมาร่วมงาน “Central 75th Anniversary Grand Opening Mega Party” พร้อมอัพเดตถึงความคืบหน้างานแต่งกับแฟนหนุ่ม “โน้ต วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์” และเล่าโมเมนต์งานปาร์ตี้สละโสดที่จัดใหญ่คล้ายเป็นงานซ้อมแต่ง อีกทั้งนางเอกสาวยังบอกด้วยว่า แต่งปุ๊บก็พร้อมมีทายาทเลย
ใกล้วันแต่งแล้วออร่าเจ้าสาวจับ
“ขอบคุณค่ะ แต่จริงๆ ยังไม่รู้สึกนะยังไม่ได้เข้าคอร์ส ยังไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ”
สวยมาจากข้างในเพราะข้างในมันอิ่มเอิบแล้ว?
“ก็หวังว่านะคะ (ยิ้ม) พยายามค่ะ เพราะเราก็อยากให้วันจริงสวยเนอะ รูปก็จะอยู่กับเราไปอีกนาน เรา พี่เขาและทุกคนที่เห็นภาพแล้วประทับใจค่ะ (ยิ้ม)”
ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วตื่นเต้นไหม?
“เร็วไปหมดค่ะ ตอนนี้เอาจริงๆ ก็เครียดอยู่นะ เพราะมันเร็วกว่าที่คิดจริงๆ (ยิ้ม)”
ตอนแรกเราวางแพลนไว้ว่าปีหน้า หลังถ่ายละครเสร็จเลยแต่แฟนเราเซอร์ไพรส์เราก่อนเนอะ?
“ไม่เซอร์ไพรส์หรอก ไปดูฤกษ์กันค่ะ แล้วได้ฤกษ์วันที่ 20 ธันวาก็จะทำพิธีภายในบ้าน แต่ 22 ธันวาจัดเลี้ยงเลย ไหนๆ ก็จัดแล้วอยากให้จบภายในปีนี้”
แฟนตามใจเราทุกอย่างเลย?
“เรียกว่าตามใจก็ได้ค่ะ (ยิ้ม) แต่จริงๆ เราก็คุยกันตลอดแหละค่ะ ทุกอย่างตกลงกัน เห็นด้วยกันทั้งคู่ค่ะ (ยิ้ม)”
แขกประมาณกี่คน?
“ตอนแรกอยากได้งานเล็ก ที่นั่งกัน ให้ทุกคนที่มาเข้าถึงตัวเรา ไม่ใช่มางานไม่ได้เจอบ่าวสาว แต่พอไปดูสถานที่ เชิญคนนู้นคนนี้ เรียกว่ากลายเป็นงานไซซ์กลางแล้วกันค่ะ (800 คนเกินไหม?) ตอนนี้เกิน 800 ไม่ได้ค่ะ จำนวนการ์ดที่ทำไว้ก็คือ 400 แต่ทุกคนอาจจะมาเป็นคู่ เราก็เลยจำกัดที่ 800”
ตอนนี้ก็มีการไปลองชุดเจ้าสาวแล้ว?
“ลองแล้ว (ยิ้ม) มีทั้งชุดไทยแล้วก็ชุดนอกค่ะ อยากใส่อะไรที่เป็นตัวเรามากที่สุด แล้วก็ไม่อยากอะไรเยอะ ขอแค่ชุดที่เร็วที่สุดและเรามั่นใจก็พอค่ะ”
แต่ก็มีเปลี่ยนชุดในงาน?
“วันละ 2 ชุดเองค่ะ มี 2 วัน วันที่ 20 ธันวา ฤกษ์ทำพิธีสวมแหวนภายในบ้าน อาจจะมีสัมภาษณ์กับนักข่าววันนั้น วันที่ 22 ธันวา จะเป็นงานฉลองค่ะ”
ด้วยความที่งานกระชั้นชิดการจัดงานมันสะดุดบ้างไหม?
“โชคดีที่มีแพลนเนอร์ ถ้าหนูกับพี่โน้ตทำกันเองคือไม่ได้เลย เรามีคนช่วยประสานงาน ช่วยเตรียมทุกรายละเอียดแล้วกันค่ะ เราเป็นแค่ฝ่ายเคาะค่ะ”
งานตอนนี้กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว?
“หนูว่าก็ประมาณ 80% คือตอนนี้รายละเอียดยังเหลือเยอะ แต่หลักๆ อย่างเช่น สถานที่อะไรแบบนี้ได้แล้ว (ยิ้ม)”
ธีมงานของเราเป็นแบบไหน?
“เป็นธีมสดใสค่ะ เป็นงานกลางวัน คืออยากจะให้ทุกคนมาฟีลอยู่ในสวน เพราะเขาก็ขอหนูที่อังกฤษ ก็เลยทำไมเราไม่ยกสวนอังกฤษมาที่ไทย (ย้อนโมเมนต์ตอนนั้นกันเลย?) นิดนึง (หัวเราะ)”
เดรสโค้ทสีอะไร?
“ก็จะเป็นแนวซัมเมอร์พาสเทล น่ารักๆ สดใสค่ะ”
เข้าวิวาห์แล้วก็พร้อมมีทายาทเลย?
“พร้อม แต่ก็ดูงานก่อนเนอะ (ยิ้ม) เราก็ไม่อยากมีปัญหาเรื่องงาน ขอรับผิดชอบที่มีก่อน แล้วก็หลังจากนั้นค่อยว่ากัน”
แต่เขาก็วางไว้หลายคนอยู่นะ
“ไม่ถามหนูเลย (หัวเราะ) หนูบอกว่าขอดูคนแรกก่อนแล้วหลังจากนั้นค่อยว่ากัน”
ตอนแรกต้องแฝดเลยไหม?
“ไม่ค่ะ หนูว่าธรรมชาติแหละ หนูรู้สึกว่ามันไม่ง่ายนะ การที่เราต้องไปปรึกษาหมอ ขั้นตอนมันยาก ปล่อยธรรมชาติในเมื่อร่างกายเรายังได้ ถ้าร่างกายเราไม่ไหวเมื่อไหร่ค่อยปรึกษาแพทย์”
ทุกวันนี้การเตรียมงานมันมีภาวะการกดดันบ้างไหม?
“เครียดที่รีบนี่แหละค่ะ มันไม่มีเวลาเตรียมตัว ก็พยายามทำให้ดีที่สุดแล้วก็เป็นตัวเราให้มากที่สุดค่ะ
ตอนนี้งานมีอะไรบ้างที่เราจะต้องรีบเคลียร์ให้หมด?
“หลักๆก็จะเหลือเรื่องเดียวเลยค่ะ เกมรักทรยศ แต่ว่าเพิ่งเริ่มถ่ายเพราะฉะนั้นก็น่าจะอีกสักพักเลยแต่คือต้นปีมีแน่นอนค่ะ เรื่องนี้ก็เครียดมาก ขนาดบทหนูไม่ได้เป็นบทนำนะคะ แต่เวลาไปกองทีไรทำไมโอ้โหบทมันหนักขนาดนี้”
คำสัมภาษณ์ของพี่โน้ตล่าสุด ทำเอาสาวๆหลายคนอิจฉาบอกว่า ถึงไม่ขอตอนนี้ยังไงคนนี้ก็คือเจ้าสาวของเขา?
“โหเห็นแล้วก็เขินเหมือนกันนะ ก็ดีใจนะคะที่เขาชัวร์ในตัวเรา เราก็พร้อมมากค่ะ”
พร้อมเป็นแม่ศรีเรือนไหม?
“ก็คือต้องปรึกษาคุณแม่ก่อนค่ะ ต้องปรึกษาหลายเรื่องเลยค่ะตอนนี้”
เล่าถึงปาร์ตี้สละโสดหน่อย?
“ปาร์ตี้สละโสดตอนแรกจะจัดที่ร้านอาหารซัก 40 คนชวนไปชวนมากลายเป็น 100 กว่าคน ก็เลยต้องเปลี่ยนสถานที่ให้สถานที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย อันนี้ก็ต้องมีแพลนเนอร์เหมือนกันค่ะ ก็ต้องขอบคุณพี่แป้ง พาร์ทเนอร์ มาก ที่ทำให้งานออกมาสวยขนาดนั้น เพราะว่าถ้าเกิดให้แพทกับพี่โน้ตจัดกันเองก็คงจะไม่ได้รายละเอียดเยอะขนาดนั้น”
แล้วในงานวันนั้นเป็นยังไงบ้าง?
“ก็คือจริงๆมีโชว์เยอะ อยากให้คนที่มาในงานรู้สึกสนุกกับการสละโสด เพราะว่าไหนๆเราก็จัดด้วยกันแล้ว มันก็ต้องเอ็นเตอร์เทนทั้งฝ่ายหญิงฝ่ายชาย”
จริงๆบนเวทีก็มีซีนหวานได้อวดเพื่อนอยู่เนาะ?
“จริงๆส่วนใหญ่เป็นแดนเซอร์ให้บรรยากาศสนุกๆมากกว่า”
มีโมเมนต์ซึ้งไหม?
“ก็จะมีเพื่อนๆของทั้งสองฝ่ายพูดอวยพร สปีดในงานแต่งเนี่ย แต่ไม่ใช่งานแต่ง เขาก็อวยพรกันและกัน คือเป็นคนซึ้งง่าย แล้วเวลาที่เพื่อนพูดอะไร เวลาเหมือนอวยพรเราเราก็น้ำตามาตอนไหนก็ไม่รู้”
พี่ชมพู่ก็มาด้วย?
“ใช่ค่ะ ทางครอบครัวของพี่โน้ตก็มากันเกือบครบเลย”
เขาได้พูดต้อนรับสะใภ้เล็กหรือยัง?
“ยังเลยค่ะวันนั้นยังไม่ได้มีโอกาสได้พูดคุยเลยค่ะ เพราะว่าหนูกับพี่โน้ตก็คือเดินกันทั่ว อย่างมากก็คือทักทายพูดคุย หรือแม้กระทั่งถ่ายรูปยังไม่มีเลยยังไม่ได้ถ่ายรูปด้วยกันเลย”
แต่ทุกอย่างก็เป็นไปตามแพลนในสิ่งที่เราอยากให้เป็น?
“คือจริงๆดีมาก ดีเกินคาด จนเริ่มเกร็งว่างานแต่งเราจะดีขนาดนี้หรือเปล่า”
คือหลายคนก็แซวว่างงานนี้เหมือนงานแต่ง เป็นการซ้อมแต่งไปเลย?
“ใช่ค่ะมันก็ดูจริงจังกว่าที่เราคิดไว้ ตอนนี้ก็ลุยงานจริงต่อแล้วค่ะ”
ตอนนี้ความรู้สึกของเรามันแฮปปี้ขนาดไหน?
“คือก็แฮปปี้นะคะ ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะมีโมเมนต์นี้เร็วขนาดนี้ในชีวิต”
อย่างที่ทราบว่าคู่เราก็โดนกระแสมามากพอสมควร อะไรที่มันพิสูจน์กันและกันให้ถึงเส้นชัยจนจะไปใช้ชีวิตคู่กันได้ขนาดนี้?
“คือเราเป็นตัวเราตั้งแต่ต้นตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน คือคนข้างนอกอาจจะไม่ได้เห็นในมุมต่างๆของเรา แต่มันคือความสม่ำเสมอที่เรามีให้กันทำให้เราสามารถฝ่าทุกอย่างไปได้”
อย่างการเป็นแฟนกันมันทำให้เราทั้งสองคนมีการปรับตัวเข้าหากันยังไง?
“โห เยอะมากในความที่เขาโตกว่าหนูประสบการณ์เขาก็จะเยอะกว่า ด้วยความที่หนูเด็กกว่า หนูก็จะมีความ ขี้อ้อน หนูว่ามันอยู่ที่ความบาลานซ์ให้กันและกัน คือประสบการณ์มันสามารถทำให้เราปรับและมันทำให้ความรักครั้งนี้มันดีขึ้น หนูรู้สึกว่า ณ ตอนนี้มันก็อยู่ในจุดที่มันก็ดีและลงตัวทั้งคู่”
