“ตุ๊ก เดือนเต็ม” เปิดสาเหตุการเสียชีวิตของเพื่อนรัก “ลินดา ค้าธัญเจริญ” ปอดติดเชื้อ

วันที่ 27 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางแบบและนักแสดงเจ้าบทบาท ลินดา ค้าธัญเจริญ ได้จากไปอย่างสงบเมื่อเช้าที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลจุฬา ด้วยอาการปอดติดเชื้อ หลังป่วยด้วยโรคมะเร็ง และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ จนสิ้นอายุขัยในวัย 66 ปี


การจากไปของนักแสดงดังสร้างความเศร้าโศกแก่ครอบครัว ญาติมิตร เพื่อนสนิท และแฟนๆ โดยนักแสดงรุ่นใหญ่ ตุ๊ก เดือนเต็ม สาลิตุล ซึ่งเป็นเพื่อนรักของ ลินดา ค้าธัญเจริญ ได้โพสต์อาลัยลงในอินสตาแกรม ใจความว่า อาลัยรัก ลินดา ค้าธัญเจริญ 27 พฤศจิกายน 2565 ในช่วงชีวิตหนึ่งของคนเรา ต่างเดินทางผ่านช่วงเวลาที่สวยงาม ช่วงเวลาที่ทุกข์ร้อน ผ่านร้อนผ่านหนาว จนถึงก้าวสุดท้ายของชีวิต ลินดาเพื่อนรักได้เดินทางผ่านทุกสิ่งดังกล่าวมาแล้วอย่างสวยสง่างาม ในวันที่ลินดามีชื่อเสียงเป็นดาราอันดับหนึ่งของประเทศ ลินดาสวยเก๋ที่สุดเป็นที่รักของทุกคน จนถึงวันนี้ลินดาก็ยังสวยที่สุด ใบหน้าอิ่มสวยไม่มีเปลี่ยนแปลง ก้าวสุดท้ายในโลกมนุษย์ของดาจบลงแล้ว ขอให้ก้าวใหม่ของดาเดินทางสู่ภพภูมิที่สวยงาม ในโลกใบใหม่ที่พวกเราต่างต้องเดินทางไปถึงด้วยกันทุกคน ขอบคุณดาเพื่อนรัก และขอบคุณสวงสวรรค์ ที่อนุญาตให้ตุ๊กได้ทำหน้าที่เพื่อนที่ดี เป็นกัลยาณมิตรต่อกันตลอดระยะเวลา 18 ปีเต็ม จนวันสุดท้ายของชีวิต รักและระลึกถึงลินดาเพื่อนรักเสมอ

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวข่าวสด โทรศัพท์ไปสอบถาม ตุ๊ก เดือนเต็ม ถึงการเสียชีวิตของเพื่อนสนิท ซึ่งได้เผยว่า ลินดาเสียชีวิตจากภาวะปอดติดเชื้อ วันนี้(27พ.ย.65) เวลา 07.40 น. ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ตนไม่ได้อยู่ด้วยแต่คุณเล็กคนที่เฝ้าโทรศัพท์มาแจ้ง ก่อนหน้านี้ลินดามีอาการหายใจไม่ค่อยดี ความดันตก จึงถูกนำตัวส่งมาที่โรงพยาบาลจุฬาฯ แอดมิตตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.65
ตนมีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมลินดาล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(25พ.ย.65) อาการที่เห็นคือไม่ค่อยดี ไม่ค่อยรู้สึกตัวแล้ว ลืมตาได้บ้างแต่มีอาการเบลอเนื่องจากค่าไตสูงมาก ร่างกายไม่สามารถขับของเสียออกมาได้ และไม่สามารถรับอะไรได้แล้ว สาเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้เกิดจากปอดติดเชื้อ ส่วนโรคมะเร็งและโรคอะไรอีกหลายอย่างหายไปหมดแล้ว ลินดาไม่ได้เป็นมะเร็งมานานแล้วแต่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งจะต้องมีการเจาะคอตั้งแต่ตอนที่เป็นมะเร็ง รวมถึงให้อาหารทางหน้าท้องด้วย โอกาสที่จะมีการติดเชื้อเป็นไปได้ง่าย 18 ปีแล้วที่เขาป่วยติดเตียงมาแบบนี้

ที่ผ่านมาตนดูแลทุกข์สุขของเพื่อนคนนี้มาทุกเรื่อง ตั้งแต่เริ่มต้นที่เขาล้มแล้วเด็กในบ้านโทรมาหาตน ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ตนไม่เคยปล่อยมือเขาเลย พอถึงวันนี้ก็รู้สึกใจหายเพราะเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้สองสามครั้งแล้ว แต่ว่าก็ผ่านมาได้ทุกครั้ง จริงๆ ตนดีใจเพราะว่าการที่เขานอนอยู่ตรงนี้เหมือนการรับกรรม มันเป็นความทุกข์ ถ้าคนที่จากไปอย่างมีความสุขเขาเรียกว่าหมดบุญ แต่คนที่จากไปอย่างมีความทุกข์เขาเรียกว่าหมดกรรม ฉะนั้นวันนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เขาจะได้เดินทางไปในที่ที่ดีๆ ไม่ต้องนอนอยู่บนเตียง และไม่มีอะไรต้องห่วง

“สิ่งที่อยากจะบอกเพื่อนก็คือวันนี้เพื่อนมีความสุขจริงๆ แล้ว ได้บอกบินโบยบินไปแล้ว เปลี่ยนเสื้อผ้าให้สวยสดงดงามแล้ว ภาพจำที่ไม่เคยลืมเลยของเพื่อนคนนี้ก็คือรอยยิ้มและน้ำเสียงคำพูดของเขาที่ไม่เหมือนใครค่ะ” ตุ๊ก เดือนเต็ม กล่าว

ในส่วนของกำหนดการพิธีสวดพระอภิธรรมและฌาปนกิจ ลินดา ค้าธัญเจริญ จะมีพิธีรดน้ำศพในวันที่ 28 พ.ย. เวลา 16.00 น. ที่ ศาลา3 วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน สวดพระอภิธรรมวันที่ 28-30 พ.ย. และประชุมเพลิงในวันที่ 1 ธันวาคม

 

สำหรับ ลินดา ค้าธัญเจริญ มีชื่อเล่นว่า ดา เกิดเมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2499 เป็นนักแสดงและนางแบบชาวไทย มีผลงานสร้างชื่อจากภาพยนตร์เรื่อง “แก้ว” ของเปี๊ยก โปสเตอร์ ที่แสดงร่วมกับ ทูน หิรัญทรัพย์ เมื่อปีพ.ศ.2523 และ “ผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด” จากบทประพันธ์ของโบตั๋น กำกับโดย วิจิตร คุณาวุฒิ เมื่อพ.ศ. 2528 โดยมีผลงานแสดงละครและเดินแบบมาต่อเนื่อง ซึ่งผลงานส่วนใหญ่เป็นงานแสดงละคร ประสบความสำเร็จเคยได้รับรางวัลตุ๊กตาทองทีวีมหาชน นักแสดงนำฝ่ายหญิงยอดนิยม ปีพ.ศ. 2525 จากละครเรื่อง “สงครามพิศวาส” ทางช่อง 3 ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์บ้านเมือง โดยได้รับรางวัลคู่กันกับรัชนู บุญชูดวง จากละคร “พรหมไม่ได้ลิขิต” ทางช่อง 9 จากการโหวตให้คะแนนโดยผู้อ่านหนังสือพิมพ์บ้านเมือง ทั่วประเทศ

ด้านชีวิตส่วนตัว ลินดาได้พบรักและสมรสกับนักธุรกิจด้านเพชรพลอย ก่อนจะหันไปร่วมหุ้นกับสามีทำธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับจิวเวลรี่และด้านซาลอน ทำให้หายไปจากวงการบันเทิง แต่สุดท้ายก็ได้แยกทางกับสามี

 

 

ในปี 2547 ลินดาประสบอุบัติเหตุหกล้มในห้องน้ำ เนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตก เป็นอัมพฤกษ์นอนติดเตียงมานาน 13 ปี และสามารถกลับมารักษาตัวที่บ้านได้เมื่อปี 2563 แต่พออาการจะเริ่มดีขึ้นก็มาป่วยเป็นมะเร็งที่บริเวณโคนลิ้น และในที่สุดก็พบว่ามะเร็งลุกลามจนรักษายาก หลังเข้ารับการรักษาตัวอยู่นานจนเงินที่เก็บสะสมไว้เริ่มร่อยหรอ จึงย้ายมารักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬา และโชคดีอย่างหาที่สุด จากการได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ จนสิ้นอายุขัยในวัย 66 ปี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน