สายป่าน ขึ้นศาลสืบพยาน คดีครูสอนดำน้ำโพสต์หมิ่นประมาท เชื่อในความยุติธรรม กู้ชื่อเสียงธุรกิจกลับมาเหมือนเดิม

วันที่ 6 ธ.ค. ที่ ศาลอาญา รัชดา นักแสดงสาวชื่อดัง สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข เดินทางมาขึ้นศาล พร้อมด้วย ทนายเกรียงชัย วิศิษฏ์สรอรรถ เพื่อสืบพยานกรณีครูสอนดำน้ำโพสต์หมิ่นประมาทผ่านโซเชี่ยล ทำลายชื่อเสียงและธุรกิจฟินดำน้ำ โดยศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องเนื่องจากคดีมีมูลความผิดจริง หลังนัดตรวจพยานหลักฐานและกำหนดวันนัดสืบพยานไปเมื่อคราวก่อน

ทั้งนี้ สายป่าน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นศาลสืบพยานว่า “ในส่วนของความคืบหน้าถือว่าเยอะ ถ้าเกิดไม่มีอะไรผิดพลาดครั้งนี้ก็น่าจะเป็นรอบหลังๆ แล้ว หลายคนอาจจะมองว่าระยะเวลามันนานแต่ว่าจำนวนครั้งไม่ได้เยอะ เลยรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน แล้วตัวป่านเองก็เข้าใจได้ด้วย”

“ระหว่างที่ต้องรอหลายๆ อย่างเราก็ทำงานกรุบกริบไป ถึงแม้จะไม่ได้เยอะเท่าเดิม แต่ก็อดทนได้เพื่อความยุติธรรม ถามว่าเหนื่อยหรือท้อไหม ไม่เลยค่ะ ป่านเชื่อในเรื่องของความยุติธรรม ดังนั้นต่อให้นานแค่ไหน ถ้าเกิดความยุติธรรมมันมีอยู่จริงๆ มันก็คงปรากฏให้เห็น

ยืนยันเรียกค่าเสียหายจำนวน 5 ล้านบาท? “เขาไม่เห็นพูดอะไร เลยคิดว่าเขาก็คงโอเคมั้งคะ แต่ว่า ณ ตอนนี้เขาก็ยังปฏิเสธอยู่ แต่ถ้าเกิดเขารู้สึกว่ามันเยอะเกินไปเราก็ไม่เคยปิดโอกาส ถามว่ามีโอกาสไกล่เกลี่ยไหม จริงๆ ป่านเปิดรับมาตลอดตั้งแต่วันแรกที่ประทับรับฟ้องแล้ว หลังจากวันนั้นก็รอให้เขาโทรมา ไม่ต้องโทรมาโดยตรงก็ได้ ให้ทนายกับทนายคุยกันก็ได้ แต่ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้อย่างที่ทุกคนรู้ว่ามัน 2 ปีกว่าแล้วก็ยังไม่มีฟีดแบ็กหรืออัปเดตอะไร แล้วก็ยังไม่มีการติดต่อกลับมา”

ตั้งแต่เกิดเรื่องมาใช้เวลานานไหมกว่าที่จะกอบกู้ชื่อเสียงในเรื่องของการทำธุรกิจขึ้นมาได้อีก? “ณ ตอนนี้ก็ยังไม่มีการแก้ข่าวใดใดให้เราเลย จริงๆ ถ้าเป็นคนในแวดวงดำน้ำทุกคนจะค่อนข้างทราบดีอยู่แล้วว่า 2 ปีที่แล้วมันเกิดเรื่องราวอะไรขึ้น หลายคนก็ยังจำอยู่ แล้วพอพูดชื่อแบรนด์ป่านบางคนก็ยังเอ๊ะ! ยังติดใจอยู่”








Advertisement

“ตรงนี้ป่านเลยรู้สึกว่ามันก็ยังไม่ได้กลับมาหมด คนมันเคยล้มมันก็ต้องมีแผลเป็นให้เห็น แต่ถ้าในวันนั้นมันไม่มีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นป่านก็คงจะเดินทางที่มันสะดวกสบายกว่านี้ แต่พอมันมีแบบนี้แล้วเราไม่ได้ล้มเอง มีคนมาผลักเรา เราก็เลยอยากให้แผลเป็นตรงนี้มันหายไปสักทีหนึ่ง เพื่อที่จะได้กลับมาทำธุรกิจอย่างลื่นไหล”

“จริงๆ ป่านอยากเคลียร์และให้มันคลีนทุกอย่างเพราะว่าเราทำธุรกิจด้วยความบริสุทธิ์ใจ แล้วเราไม่เคยคดโกงใคร อย่างที่ทุกคนรู้ว่างานในวงการเป็นงานที่โอเคและป่านทำมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว แต่ว่าธุรกิจมันเป็นสิ่งใหม่ที่ป่านอยากทำ แล้วก็รู้สึกว่ามันสามารถดูแลตัวเองและครอบครัวได้ในอนาคต”

“แต่การที่เราทำธุรกิจแล้วมีคนมาดิสเครดิต มันเลยรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมเลยสำหรับคนที่อยากจะลงทุนทำอะไร ดังนั้นที่ป่านเริ่มเรื่องราวทั้งหมดของการฟ้องร้องเพราะเราอยากให้การทำธุรกิจของเรามันเป็นธุรกิจที่สะอาด แบบนั้นมันจะแฟร์กว่าเพราะเราไม่เคยอยากเป็นคู่แข่งกับใคร อยากมีแต่คู่ค้า อยากมีแต่เพื่อนฝูงที่ทำงานค่ะ”

ด้าน ทนายเกรียงชัย เสริมว่า “วันนี้มาสืบพยานหลังจากศาลไต่สวนมูลฟ้องและประทับรับฟ้องเรียบร้อย แต่ว่าคดีก็เลื่อนจากโควิดไปอย่างที่ทราบกันเลยร่นมาค่อนข้างนาน ตอนนี้ก็เป็นช่วงปลายแล้ว พอสืบเสร็จก็ทำแถลงการณ์ปิดคดี 30 วัน หลังจากนั้นก็นัดคำฟังพิพากษาต่อไป คาดว่าต้นปีหน้าน่าจะเรียบร้อย”

“สำหรับในเรื่องที่คู่กรณีทำความผิดมันชัดเจนอยู่แล้ว วันนี้ก็มาสืบพยานในเรื่องค่าเสียหายเป็นหลัก เพราะทั้งสองฝ่ายตกลงกันก็ยอมรับคำเบิกความในชั้นไต่สวนคือในส่วนที่ศาลประทับรับฟ้อง แต่ว่าเขาก็ให้การปฏิเสธ แต่ทั้งนี้หลักฐานมันชัดเจนอยู่แล้วว่ามีการกระทำความผิดจริงและเกิดความเสียหายจริง”

“นอกจากค่าเสียหาย 5 ล้านแล้ว มีกำหนดด้วยว่าทางคู่กรณีจะต้องขอโทษผ่านสื่อ จริงๆ ความเสียหายของน้องมันหลายสิบล้าน เพราะมีเรื่องธุรกิจและงานบันเทิงด้วยที่มีหลักฐานชัดเจน แต่น้องก็เรียกแค่ 5 ล้าน แล้วก็ให้ทำการขอโทษผ่านสื่อและเฟซบุ๊กของเขาด้วยเพราะว่ามันอยู่ในวงการดำน้ำเหมือนกันจะได้ชัดเจน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน