ชาร์เลท เมินคอมเมนต์ว่า ไม่สวย ลั่นเสียเวลาชีวิต หลังขึ้นแท่นนางเอกเต็มตัวครั้งแรก ขอบคุณเอฟซีติดตามกันมาตั้งแต่เป็นดาราเด็ก

จากดาราเด็กเล่นละครตั้งแต่วัย 3 ขวบ ก้าวขึ้นมาเป็นนางเอกเต็มตัวครั้งแรกในวัย 17 สำหรับนางเอกสาวลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ชาร์เลท วาศิตา แฮเมเนา ที่กำลังมีผลงานละครเรื่อง “พระนคร 2410” ทางช่องวัน31

โดย ชาร์เลท ได้เปิดใจกับ ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ ถึงความรู้สึกที่ได้รับโอกาสพิสูจน์ความสามารถ หลังบ่มเพาะประสบการณ์ในวงการมากกว่า 15 ปี ขึ้นแท่นรับบทนางเอกเต็มตัว พร้อมตั้งรับกระแสต่างๆ พร้อมเผยเคยโดนคอมเมนต์ว่า ไม่สวย ไม่เก่งพอ

กดดันไหม ขึ้นแท่นเป็นนางเอกเต็มตัว? “ไม่ค่อยค่ะ เพราะคิดตั้งแต่แรกแล้วว่าเรายังเป็นนางเอกไม่ได้ต่อให้เราทำงานมานานแล้ว มีประสบการณ์มาพอสมควร ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง มันจะออกมาดีหรือเปล่า ทุกครั้งที่คนมาบอกว่าดีมาก ชาก็พูดว่าจริงเหรอ ทั้งที่ก็หาข้อผิดพลาดในงานไม่ได้ ชาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตระหนกแพนิกอะไร อาจจะเป็นเพราะเราไม่มั่นใจตัวเองขนาดนั้น รู้สึกตกใจในระดับนึงพอมาเป็นนางเอก พอรู้ว่าตัวเองแพนิกก็เลยจะไม่คาดหวัง เพราะถ้าไม่คาดหวังเราจะไม่ผิดหวัง ก็เลยไม่กดดันตัวเอง เพราะว่าถ้ากดดันตัวเองเราทำไม่ได้แน่ๆ พยายามไม่กดดันและทำให้เต็มที่ค่ะ”

ชาไม่ได้กดดันที่คำว่า นางเอก ชามายด์กับคำว่านักแสดงมากกว่า เราเป็นนักแสดงที่ดีมั้ย ถ้าคนชมว่าเป็นนางเอกที่สวยกับคำว่านักแสดงที่ดี ชาแฮปปี้กับคำว่านักแสดงที่ดีมากกว่าเพราะมันคืออาชีพเรา ถ้าจะพูดว่ากดดันพอสมควร ก็น่าจะเป็นเรื่องของงานมากกว่าคำว่านางเอกค่ะ”

เป็นดาราเด็กไม่เคยหายไปจากวงการ? “เหตุผลที่สำคัญที่สุดคือโอกาสที่ผู้ใหญ่ทุกคนหยิบยื่นให้เรามา ไว้ใจให้เราได้ทำ แล้วเราก็แฮปปี้ชอบมันด้วย ยิ่งเขามั่นใจในตัวเรา เรายิ่งอยากจะคอนเฟิร์มว่าเราทำได้ ความตั้งใจของเราในทุกๆ งานกับโอกาสที่เขาให้มาน่าจะเป็นสิ่งที่เรายังก้าวต่อเรื่อยๆ ค่ะ”

ตอนเป็นเด็ก มีงอแงบ้างมั้ย? “ไม่ค่อยเลยค่ะ เพราะพี่ๆ ในกองเขาเล่นกับเรา เหมือนเราไปโรงเรียน ทุกคนเอ็นดูเล่นกับเรา ก็เลยไม่เคยรู้สึกเบื่อ เพราะมันเป็นหน้าที่ด้วยค่ะ มันไม่มีเวลามางอแง ข้อดีที่เราอยู่ในวงการมาตั้งแต่เด็ก เราไม่เคยหลงกับสิ่งต่างๆ ในวงการ เพราะเราเห็นพี่ๆ ที่เขาเติบโตไปแล้ว เราอาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ มันทำให้เราได้เห็นก่อน เราได้รู้ก่อน แล้วบวกกับเราไม่ได้เป็นคนมั่นใจในตัวเอง ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ตั้งใจทำงาน เราพยายามทำอย่างเงียบๆ ตั้งใจอย่างเงียบๆ ไม่ได้หวังว่าเรื่องนี้ต้องได้รางวัล พอเราไม่ได้วางเป้าหมายไว้ข้างหน้ามาก เราก้าวทีละก้าว บางคนอาจจะรีบก้าวกระโดดบางครั้งมันอาจจะล้ม แต่ถ้าเราก้าวดีๆ ทีละก้าว มันจะมั่นคง ต่อให้เราเก่งแค่ไหนมันก็ต้องมีคนบอกว่าเราไม่เก่ง ต่อให้ทำดีแค่ไหน มันก็ต้องมีคนว่าทั้งดีและไม่ดี เราเหลิงไปมันก็เหนื่อยเปล่าๆ เรารู้หน้าที่ตัวเองดีที่สุด ค่อยๆ ไปดีกว่า

เป็นดารามีชื่อเสียง คนพูดถึงในแง่มุมต่างๆ ตั้งรับกับกระแสข่าว ที่จะเกิดขึ้นอย่างไร? “ตอนนี้มันมีคอมเมนต์ที่ทั้งดีและไม่ดี แต่ว่าตอนเด็กๆ เราจะไม่ได้มีคอมเมนต์ที่ไม่ดีเพราะเรายังเด็ก เขาจะชมน่ารัก แต่พอเราโตขึ้นก็จะมีคอมเมนต์ว่า ไม่สวย ก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้น ตอนแรกชาก็น่าจะโกรธ แต่พอมาคิดมันก็คือหนึ่งความคิดเห็น เขามีสิทธิ์ที่จะคิดแบบนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าชาเก่ง แต่เขาไม่เห็นการทำงานของเราทั้งหมด เขาไม่เห็นว่าเราพยายามแค่ไหน เขาง่ายมากที่นั่งเฉยๆ แล้วกดพิมพ์ส่ง เขาใช้เวลาพิมพ์ 5 วิมั้ง แล้วถ้าหนูมานั่งโกรธ 5 เดือนมันเสียเวลาชีวิตมาก ก็เลยไม่ค่อยแคร์ค่ะ แต่ถ้ามันเป็นเรื่องที่เขาว่าเราน้องพูดจาไม่น่ารักเลย น้องพูดจาไม่เพราะ อันนี้คือเขาพยายามเตือนสติให้เราแก้ไข แต่ถ้าจุดไหนที่มันเป็นแค่ความคิดเขา หนูก็ไม่ได้แคร์มากเพราะเรารู้ตัวเองดีว่าเราทำโอเคหรือไม่โอเค ขอบคุณทุกประสบการณ์ที่ได้เห็นและเรียนรู้ที่ผ่านมา มันช่วยเราได้เยอะมาก ไม่ใช่แค่การทำงาน แต่การใช้ชีวิตชาว่าก็ช่วยได้เยอะ”








Advertisement

มีเช็กฟีดแบ็กจากแฟนคลับที่ติดตามเรามาตั้งแต่เด็กไหม? “ต้องบอกว่าหนูเพิ่งมาเล่นโซเชียล ปกติเป็นคุณแม่เล่น ซึ่งคุณแม่ดูคิวให้ จัดทุกอย่างเรื่องเสื้อผ้า หน้าที่หนูคือทำงาน แล้วมันเยอะไปสำหรับเขา บางทีต้องโพสต์อินสตาแกรมเวลานี้ ก็เลยคิดว่าเดี๋ยวเราดูแลแอ๊กเคาต์ด้วยตัวเอง พอเราเริ่มโตขึ้นก็เลยเพิ่งมาลองเล่น รู้สึกว่าโซเชียลมีเดียมันค่อนข้างมีอิทธิพลในระดับหนึ่งเลย หนูเคยเห็นมีมตัวเองตอนเล่น ดอกส้มสีทอง เฮ้ย คนเขายังจำเราได้กันอีกเหรอ แล้วเขาก็เอาภาพปัจจุบันเราไปแปะเปรียบเทียบ มันมีคนจำเราได้จริงๆ จากตอนเราเด็ก ขอบคุณที่เขายังจำได้ ขอบคุณที่เขาพูดว่าเขาจะติดตามต่อ ขอบคุณที่เขายังซัพพอร์ตเราอยู่ค่ะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน