กระแต รับเคยทะเลาะแตกหักกับน้อง ประกาศไม่ร่วมเวที กระต่าย ท้อหนักคนบูลลี่อ้วน ไม่อยากร้องเพลงอีก เผยปาฏิหาริย์องค์พระพิฆเนศ เงินหายได้คืนสามแสน

กระแต อาร์สยาม และ กระต่าย อาร์สยาม เปิดความสัมพันธ์พี่น้องที่เลี้ยงกันมาด้วยลำแข้ง เคลียร์คำครหากระแตใช้เส้นดันน้องสาวกระต่ายเข้าวงการ พร้อมเผยกระต่ายโดนบูลลี่นอยด์หนักมาก ย้อนเล่าเหตุการณ์พี่น้องแตกคอกันถึงขึ้นไม่ร้องเพลงร่วมเวทีเดียวกันมาแล้ว ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง One31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และบูม สุภาพร เป็นพิธีกร

จริงหรือเปล่าตอนเด็กทะเลาะกัน ต่อยกันจริง? กระแต : “พี่น้องหลายๆ คู่น่าจะเป็น ตีกันไปตีกันมาก็เริ่มแรง พอแรงปุ๊บก็ซัดกันเลย ต่อยกัน”

กระต่าย : “พี่สาวเขามันเขี้ยวเราก็จะหยิกเรา เริ่มแรงไง ส่วนใหญ่กระแตเริ่มก่อน”

ถึงจะทะเลาะกันยังไง คู่นี้ทำทุกอย่างด้วยกัน แข่งขันร้องเพลง? กระแต : “ทำด้วยกันทุกอย่าง ต่อยมวย ประกวดร้องเพลงก็ไปด้วยกัน ทำทุกอย่างด้วยกัน”

ไม่ว่าจะแข่งอะไรแต่ส่วนใหญ่พี่สาวจะชนะ เราไม่งอน? กระต่าย : “ไม่งอนค่ะ เพราะเขาชนะที่ 1 ของจังหวัด หรือที่ 1 ของภาค เราก็ที่ 2 แต่ครั้งนึงถ้าชนะพี่แตรจะประสบความสำเร็จแล้ว แต่เราภูมิใจเขาเก่งจริงๆ โดยเฉพาะเพลงลูกทุ่งมันร้องยาก ต้องเก็บรายละเอียดมันต้องเอื้อน หนูขี้เกียจซ้อมน้อยกว่าเขาเยอะ”

กระแต : “เป็นพี่น้องที่ไม่เหมือนกัน แตรจะมีวินัย ไฮเปอร์ ทำอะไรทำสุด แต่คนนี้จะฉลาดแกมโกง เขาจะขี้เกียจ เขาจะไปสู่ความสำเร็จด้วยทางลัด เช่น ถ้าซ้อมมวยต้องวิ่งรอบใหญ่ 10 รอบ เขาจะวิ่งแล้วลัดสนาม แต่วิ่งเท่ากัน คุณพ่อก็เห็นแต่เขาปล่อย เพราะเวลาชกจริงนางก็จะไม่แข็งแรง”

กระต่าย : “ตอนที่ชกมวยสมัยก่อนชกมวยหญิงยังไม่เป็นที่นิยมมาก เวลาต่อยแพ้ชนะก็ได้ค่าตัวเท่ากัน 300 จะต่อยให้ชนะทำไม ก็ต่อยๆ ให้จบไปซะ”

เวลาร้องเพลงบางบ้านรู้สึกกดดันพี่ชนะตลอดเลย เราไม่มีโมเมนต์นั้นเลยเหรอ? กระต่าย : “ไม่มีเลย ดีแล้ว สุดท้ายรางวัลก็เข้าบ้านเรา แต่หนูว่าหนูสบายนะ เขาชนะ ซ้อมหนัก หนูไม่ต้องซ้อมหนักหนูก็มีเขาเลี้ยง”

 

หลายคนไม่ทราบว่ากระต่ายเข้าวงการได้ตอนแรกเพราะไปเป็นเงาเสียงให้พี่สาว? กระต่าย : “มันไม่เชิงเป็นเงาเสียง ตอนนั้นหนูจบ ปวช.บัญชีมา หนูก็ตามแม่กับพี่มาทำงาน หนูก็ไปขายซีดีเวลาร้องคอนเสิร์ตสมัยก่อนจะมีคนขายซีดี พี่แตรร้องอยู่บนเวทีหนูก็ไปขาย 2 แผ่น 100”

กระแต : “เสียงไม่มีวันนั้น ไม่สบาย ไม่มีเสียงเลย นางก็ร้องอยู่หลังเวทีลิปซิงค์ให้หนู เขาร้องได้เสียงเหมือนหนูเลย ทุกวันนี้ขนาดเพลงเมรีที่ร้องคู่กัน คนยังเข้าใจว่าเสียงแตรคนเดียวเลย”

กระต่าย : “พอลิปซิงค์ให้บ่อยๆ มีอยู่งานนึงคือโป๊ะ เขาหยุดร้องแต่หนูยังร้องอยู่ พี่เขาก็เลยชวนขึ้นเวที”

กระแต : “ก็เริ่มพาน้องขึ้นเวที คือเราเกรงใจเจ้าภาพ เขาจ้างเรา เราไม่รู้ว่าการเอาคนอื่นขึ้นเวทีด้วยจะยังไง”

เคยบอกเจ้าภาพมั้ยว่าวันนี้มีน้องสาวมาด้วย? กระแต : “แรกๆ ไม่ได้บอกหลังๆ ก็จะบอกว่าซื้อกระแต ได้กระต่ายด้วยนะ ก็เริ่มมีชื่อเรื่อยๆ คนก็ชอบนางเพราะนางสายเอ็นเตอร์เทน ตลกโดยธรรมชาติของนาง”

แต่จริงๆ ความถนัดของทั้งสองคนคืออีกคนลูกทุ่ง อีกคนสตริง? กระแต : “น้องจะเน้นสากล ไทยสากล ต่ายทำได้ทุกอย่างเหมือนกระแตเลยนะคะ ต่อยมวย เต้นก็เก่งเหมือนกัน แต่นางขี้เกียจถึงขนาดที่ว่า ไปนั่งดูเขาซ้อมแป๊ปเดียวแล้วมันก็ไปนั่ง แล้วพอเอาจริงมันเต้นได้ ทำได้ทุกอย่างเท่ากระแตแต่เป็นคนไม่ตั้งใจกับอะไร”

 

กระต่ายเข้าวงการได้เพราะพี่ผลักดัน ใช้เส้นพี่จริงมั้ย? กระต่าย : “จริงค่ะ(หัวเราะ)”

กระแต : “เราพูดกันแบบเรียลๆ มันมีส่วนจริงอยู่แล้ว แน่นอนใครก็ต้องรู้ว่ากระแตมีชื่อแล้ว เอาน้องมาเราก็อยากดันน้อง พูดตรงๆ มีพี่มีน้องก็อยากให้พี่น้องเข้าวงการ เราก็มีโอกาสพาน้องเข้าก็พาเข้า แต่ต่อให้หนูจะดันเข้ามากแค่ไหนแต่ความสามารถเขาไม่ได้ช่วยมันก็เท่านั้น แต่ว่าน้องมีของอยู่แล้ว”

ตอนแรกไม่ได้ร้องเก่งขนาดนี้ ตอนเข้าใหม่ๆ โดนด่าเยอะมาก เราถูกเปรียบเทียบตลอดเลย? กระต่าย : “เขาก็จะบอกว่าเอาอีอ้วนนี่มาทำไม คอมเมนต์รุนแรงมาก”

กระแต : “ตลกคนเมนต์ว่าทำไมไม่ให้กำลังใจ น่าจะมองความสามารถน้อง บอกน้องว่าคอมเมนต์แบบนี้ไม่ต้องไปใส่ใจเลย ไม่ได้พัฒนาเราให้ดีขึ้น ไม่ได้ติเพื่อก่อ”

กระต่าย : “หนูไม่ได้มีผลงานเพลงเดี่ยวเป็นของตัวเอง ก่อนหน้านี้ร้องกับพี่สาว จะร้องกันคนละท่อน คนยังไม่เชื่อว่าเป็นเสียงหนู เขาก็เข้าใจว่าเป็นพี่แตรร้องคนเดียว แม้กระทั่งเมรีที่ออก เขาก็ยังคิดว่าเป็นเสียงพี่แตร หนูมาแสดงเป็นยักษ์ในมิวสิค เขาก็บอกว่าไม่ต้องเอาอียักษ์อีอ้วนมาก็ได้ เอากระแตมาคนเดียว ก็จะมีบ้าง”

มีคอมเมนต์อะไรที่ทำให้เราจุก ไม่ร้องแล้วเพลง? กระต่าย : “ไม่สวย อ้วน ถ้าไม่ได้พี่ก็ไม่ได้เข้าวงการหรอก ไม่มีประโยชน์เอามาทำไม เกะกะ”

กระแต : “นางชอบคิดเยอะ คิดเยอะแล้วนอยด์ เป็นคนมีปมอยู่แล้ว”

ก็เลยเลิกร้องเพลงไป 7-8 ปี เลย? กระแต : “ใช่ นางแพชชั่นหมด”

กระต่าย : “หมายถึงว่าไม่ได้เลิกร้องคอนเสิร์ตนะคะ หมายถึงไม่ทำเพลงแล้ว ขี้เกียจ ไม่อยากออกแล้ว” กระแต : “แล้วก็ปล่อยตัว ตอนแรกไม่ได้อ้วนขนาดนี้นะ ขึ้นมาแค่ 70”

แล้วตอนที่หยุดออกเพลง ไปทำอะไร ถ้าไม่ได้ออกคอนเสิร์ตกับพี่สาว? กระต่าย : “ก็ขายของ เพราะหนูชอบค้าขาย ทำเสื้อผ้าคนอ้วนขายที่เมเจอร์ รัชโยธิน ก็ขายดีเลยเพราะหนูมีสไตล์ที่ชัดเจน คนที่มีรูปร่างอ้วนหรือท้วมส่วนใหญ่จะใส่แต่ชุดสีดำ หนูเป็นคนชอบเสื้อผ้าสีสัน เป็นคนอ้วนที่มั่นหน้า”

เห็นสนิทกันแบบนี้เคยทะเลาะถึงขั้นไม่คุยกันเลย ไม่ขึ้นเวทีเดียวกันด้วย? กระแต : “มีครั้งเดียวเลย เป็นช่วงที่น้องนอยด์โดนคอมเมนต์นี่แหละ เขาก็เครียด เหมือนมั่นใจอยากพิสูจน์ว่าฉันไม่ได้อยู่ในร่มเงาพี่ เขาพูดมาคำหนึ่ง แตรได้ยินแล้วก็งอแงไม่ชอบเหมือนกัน เขาพูดว่าถ้าไม่มีหนูเจ้าภาพก็ไม่เอาพี่แตรหรอก หนูมีส่วนช่วยทำให้พี่แตรมีงาน เราก็มั่นหน้ามั่นโหนกมากเลยนะ งั้นงานต่อไปไม่ต้องมา แม่ไม่ต้องรับงานคู่เลยนะ ต่างคนต่างงอน ไม่รับงานประมาณเกือบ 2 เดือน ก็คือขึ้นคนเดียวก็ได้”

แล้วเหนื่อยมั้ยขึ้นคนเดียว? กระแต : “ก็เหนื่อยเพราะหนูเป็นคนเต้น ทุกครั้งปัจจุบันเขาจะเข้ามา สลับให้เราไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ได้พัก 1 คนมันไม่เท่ากับ 2 หัวอยู่แล้ว ก็กลับมาคุยกัน น้องก็ไปขายเสื้อผ้า ฝนตกก็ไปตากฝน”

ตอนนั้นที่ทะเลาะกัน หลัง 2 เดือนผ่านไป ใครหันหาใครก่อน? กระต่าย : “ก็คุยกัน แม่ก็มาเชื่อม เราก็รู้สึกว่ามันก็เหนื่อยไปช่วยพี่ร้องเพลง แม่ก็เล่าให้ฟังว่าพี่แตรลงมาก็เหนื่อยจะเป็นลม หมดแรงตลอด เราก็รู้สึกว่าทะเลาะกันก็ไม่มีประโยชน์ ไปช่วยทำงานดีกว่า หาเงินเข้าบ้าน เพราะรายได้มันหายไป เมื่อก่อน 30 วันเราวิ่งงานเกือบ 40 งานเลย”

เงินสามแสนหายไปไหน? กระต่าย : “สืบเนื่องมาจากทำร้านเสื้อผ้าคนอ้วน ก็จะเบิกเงินสดเพื่อไปจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า ไปซื้อของเข้าร้าน เป็นเงินก้อนแล้วไปลืมที่ปั๊มน้ำมัน ตอนนั้นไปเล่นตอนเสิร์ต เราก็เอากระเป๋าไปด้วยเพื่อไปซื้อกาแฟ เราไปเข้าห้องน้ำคนพิการเอาวางตรงชักโครกแล้วจังหวะแม่มาเร่งว่าเจ้าภาพจะเปลี่ยนเวลาขึ้นคอนเสิร์ตก็เลยตกใจ เข้าห้องน้ำเสร็จก็ออกเลย มารู้ตัวอีกทีหลังจากลงจากคอนเสิร์ตแล้ว กินข้าวแล้ว เข้าโรงแรมแล้ว ตอนแรกนึกไม่ออกเข้าใจว่าลืมอยู่บ้าน นึกไปนึกมาว่าลืมไว้ปั๊มน้ำมัน แล้วจำไม่ได้ว่าปั๊มไหน ก็เลยแวะทุกปั๊มเลย ขณะที่แวะทุกปั๊มหนูก็อธิษฐานเลย แต่สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ เขาไหว้เทพกันแต่หนูไม่ไหว้ หนูรู้สึกว่าเทพอะไรหัวเป็นช้าง ตอนนั้นเรายังไม่รู้จักพระองค์ ก็เลยไม่เชื่อ แต่พี่เขาบอกว่าไหว้สิมันดีนะ ไปไหนหมอดูก็ทักว่าเรามีองค์พระพิฆเนศ วันนั้นก็เลยลองของสักหน่อยอธิษฐานว่าถ้าหนูเจอเงินสามแสนครบทุกบาททุกสตางค์ หนูจะกินเจถวาย 3 เดือน ซึ่งในชีวิตนี้วันเดียวก็ไม่กิน”

พอเราอธิษฐานแบบนั้นปุ๊ปเกิดอะไรขึ้น? กระต่าย : “ไปแวะจนถึงปั๊มที่เราทำกระเป๋าหาย เด็กปั๊มก็บอกว่าใช่กระเป๋าใบนี้มั้ย เราก็ตกใจ แต่เปิดเข้าไปเงินหาย ก็เลยอธิษฐานคุยกับองค์เทพว่าหนูกินให้แค่เดือนครึ่งพอนะคะ เพราะว่าตังค์ไม่เจอ แต่วันนั้นก็ทิ้งเบอร์ไว้ให้ด้วย”

กระแต : “เหมือนเขาเปิดกล้องวงจรปิดเห็นว่าเด็กในปั๊มนั่นแหละเอาไป ก็เลยได้คืนทั้งหมด”

กระต่าย : “อีกวันนึงที่เราเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมมีคนโทรศัพท์มาว่าคุณกระต่ายหรือเปล่า เพราะตอนนั้นเราบอกไปว่าเราเป็นกระต่าย เขาบอกว่ามีคนเอาเงินมาคืน หนูก็เลยนึกว่าตายห่ากูต้องกินเจ 3 เดือนเลยมั้ยเนี่ย”

กระแต : “ก็เลยเป็นจุดที่ให้เริ่มศรัทธา”

พูดเรื่องหัวใจกันนิดนึง จะแต่งแล้วเหรอ? กระแต : “ก็ประมาณไม่เกิน 2 ปีนี้ค่ะ ก็คุยกันใกล้จะถึงเป้าที่ต้องการแล้ว”

คลิปสัมภาษณ์ กระแต-กระต่าย อาร์สยาม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน