ขาเตียงแข็งแรง! พีท ทองเจือ คำมั่นลูกผู้ชาย ครอบครัว สำคัญสุด เจ็ง รับไม่ได้เรื่องมีชู้ ให้กำลังใจ ปิ่น เก็จมณี หัวอกคนเป็นแม่เสียสละ เผยเคล็ดลับ มัดใจสามี

หลังจากมีกระแสข่าวลือนักร้องยุค 90 เซ็นใบหย่า ถูกเล็งเป้าไปที่หนุ่ม เจ เจตริน และ ปิ่น เก็จมณี ทำเอาสะเทือนวงการบันเทิงอย่างหนัก จนเมื่อไม่นานมานี้ เจ็ง วิไลลักษณ์ ภรรยา พีท ทองเจือ ได้คอมเมนต์ให้กำลังใจ ปิ่น เก็จมณี ผ่านอินสตาแกรมในฐานะหัวอกผู้หญิงคนเป็นแม่

ล่าสุด พีท และ เจ็ง ที่มาร่วมงาน Brandthink Tomorrow is NOW ณ ชั้น 4 สยามดิสคัฟเวอรี่ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าว

เป็นคู่รักที่รักกันยาวนาน โดนเปรียบเทียบกับคู่ของ “เจ-ปิ่น”? เจ็ง : “เอาจริงๆ เราก็ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรทั้งสิ้น แต่แค่ในมุมของผู้หญิงคนนึงที่เป็นแม่เป็นภรรยา เราไม่รู้ว่าพี่ปิ่นเจอเหตุการณ์อะไร หรือเกิดอะไรขึ้น เราก็ไม่กล้าไปถามหรือละลาบละล้วงอะไร แต่ก็รู้สึกสงสาร ในมุมผู้หญิงก็อยากให้พี่ปิ่นสู้ๆ ไม่ว่าเหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้นก็แล้วแต่ อยากให้กำลังใจพี่ปิ่นค่ะ”

พีท : “ผมไม่ทราบเรื่องอะไรเลย เรื่องตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลยทุกวันนี้ (หัวเราะ) ไม่มีโอกาสไปคิดถึงเรื่องคนอื่นเลย”

เจ็ง : “ใช่ค่ะ พูดกับพี่พีทว่ารู้ข่าวพี่เจมั้ย พี่พีทถามว่าข่าวอะไรเหรอ(หัวเราะ) เขาไม่ทราบเลย”

พีท : “ตอนนี้ผมทำงานเยอะ เวลาพักผ่อนน้อย ไม่ค่อยได้ติดตามอะไรมาก เพราะมีหน้าที่ที่เราต้องทำ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับใครก็แล้วแต่ ก็ขอให้ทุกคนพบทางออกที่ดีที่สุด ที่กระทบคนรอบข้างรอบตัวน้อยที่สุด หรือมันกระทบกระเทือนจริงๆ ก็ขอให้คนรอบข้างเข้าใจสิ่งที่มันเกิดขึ้น เพราะท้ายสุดแล้วสิ่งที่ดีที่สุดของทุกๆ คนในโลกเลยคือครอบครัว วันนี้คนนึงอาจจะต้องไปเรียนต่างประเทศ คนนึงอาจจะต้องไปทำงานอยู่ที่ซาอุฯ หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่สุดท้ายแล้วเวลาที่เพื่อนทิ้งเรา เวลาที่เราเรียนจบจากโรงเรียน เวลาที่เราออกจากที่ทำงานและต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ในชีวิต สุดท้ายแล้วทุกครั้งก็มีครอบครัวนี่แหละเป็นสิ่งสำคัญ ฉะนั้นจะอะไรก็แล้วแต่ขอให้นึกถึงคนในครอบครัว และหันมาหรือว่าถ้าอยู่ไม่ใกล้กัน ก็ให้กำลังใจกันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ถามว่าถ้าในฐานะเพื่อนก็เป็นห่วงแหละ ใช้คำว่าเราก็ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นยังไงนะ แต่ขอให้เป็นแบบนั้น”

เจ็ง : “ใช่ แอบเป็นห่วงค่ะ เพราะว่าเรามีครอบครัว มีลูกเหมือนกัน ไม่อยากให้เหตุการณ์ที่เราคิดว่ามันเป็นแบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวใครก็แล้วแต่ เรื่องแบบนี้จริงๆ มันเซ้นซิทีฟมาก บางทีคนมองภาพด้านนอกมันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็นข่าวก็ได้ มันอาจจะมีรายละเอียดลึกๆ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เราเป็นคนนอก เราอาจจะไม่เข้าใจ ได้แต่ให้กำลังใจ และเอาใจช่วยว่าให้เขาผ่านเรื่องราวเหตุการณ์นั้นไปให้ได้ในทางที่ดีที่สุด”

ในมุมของครอบครัว มองว่าการมีบ้านเล็กบ้านน้อยมันเป็นยังไง? เจ็ง : “ถ้าในมุมของผู้หญิงนะ เราไม่โอเค จ็งเป็นคนนึงเลยที่กล้าพูดว่าเจ็งรับไม่ได้ ไม่รู้นะ เราไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนั้น คือตอนที่เจ็งแต่งงานกับพี่พีท เจ็งพูดกับพี่พีทสองเรื่อง พูดชัดเจนเลยว่า หนึ่งห้ามโกหกกัน สองคือเรื่องมือที่สาม จะทำอะไรก็แล้วแต่เรื่องอื่นให้อภัยได้และปรับความเข้าใจได้ แต่ถ้าสองเรื่องนี้เกิดขึ้นและเรารู้ เราจับได้ คือไม่ต้องคุยกันนะ เพราะถือว่าคนที่จะอยู่กับเรา ถ้าเขาไม่ให้เกียรติเรา เราก็ไม่รู้จะให้เกียรติเขาทำไม(หัวเราะ) อันนี้ในมุมเรานะ มันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเจ็งเหมือนกัน แต่ละคนก็มีเรื่องที่ตัวเองรับไม่ได้แตกต่างกันไป”

พีท : “ถามว่ายึดมั่นในคำมั่นสัญญายังไง คือก่อนแต่งงานคุณพ่อเจ็งเรียกผมไปคุย และเราก็รับปากแบบลูกผู้ชายเลย ก็จบ แล้วคุณพ่อก็เสียไปแล้ว ไม่ต้องรอว่าคุณพ่อจะมาถามว่าทำไมไม่รักษาสัญญาหรืออะไรใดๆ ท่านเสียไปแล้วก็ยิ่งเป็นหน้าที่หนักว่าสัญญาลูกผู้ชาย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราก็ต้องรักษาสัญญาไว้”

เพราะมีลูกๆ เป็นโซ่ทองคล้องใจด้วยหรือเปล่า? เจ็ง : “จริงๆ มันก็เป็นส่วนนึงนะ เพราะครอบครัวพอมันถึงจุดที่มีลูก ลูกคือสิ่งสำคัญที่สุดของครอบครัวของชีวิตคู่ของเรา เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นสิ่งที่เราเป็นห่วงมากที่สุดคือความรู้สึกของลูก และสถานะความเป็นครอบครัว ความเป็นครอบครัวที่มีพ่อแม่ลูก เพราะฉะนั้นอะไรก็แล้วแต่ที่เกิดขึ้น ยกตัวอย่างถ้ามันมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาระหว่างเราสองคนที่ไม่มีลูกสามคน เราอาจจะไม่ได้มีความคิดการไตร่ตรองที่เรามีลูกสามคนอยู่ตรงนี้ เพราะฉะนั้นเขาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”

สำหรับผู้ชายการที่จะทำให้ครอบครัวอบอุ่นต้องมีเคล็ดลับยังไง คุณภรรยาต้องเซ็กซี่หรือเปล่า?
พีท : “ไม่หรอก ผมว่าเอาง่ายๆ ผมคิดว่าการที่ต่างคนต่างอยู่ และไม่ให้เวลากันหรือใดๆ ก็แล้วแต่ มันง่ายมากในการที่จะรักษาสถานะครอบครัวให้แข็งแรง สดชื่นมีความสุขมันยากกว่า ผมคิดว่ามันเป็นหน้าที่ที่ทุกคนในครอบครัวต้องช่วยกัน ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง อย่างคุณเจ็งเขาก็พยายามให้ทุกคนได้อยู่ด้วยกัน ทานข้าวด้วยกัน ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ในเรื่องของภารกิจก็จะไปทำด้วยกัน หรืออะไรที่เป็นกิจกรรมที่ไม่ใช่ครอบครัวก็ไม่ต้องไป ไม่ว่าจะนัดเพื่อนหรืออะไรต้องไม่ใช่หรือไม่ไป ถ้าไม่ใช่งาน ครอบครัวต้องมาก่อน แต่เรื่องการแต่งตัวของภรรยาผมไม่ได้ซีเรียสเลย ทุกวันนี้โลกมันไปไกลแล้ว ถ้าผมไม่เล่นกล้าม ผมก็อยากใส่เกาะอกเหมือนกันแหละ (ยิ้ม)”

เจ็ง : “ใส่เกาะอกเลยเหรอ (หัวเราะ)”

เคยแอบหวงพี่พีทบ้าง? เจ็ง : “เมื่อก่อนมีนะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีเวลาหวงค่ะ ครอบครัวเราเจ็งกล้าพูดเลยว่าการเสียสละเป็นเรื่องใหญ่ อย่างเจ็งเสียสละเวลาของตัวเอง เสียสละชีวิตส่วนตัวของตัวเองเพื่อทุกคนในครอบครัว เพราะเราไม่อยากให้ครอบครัวของเราที่สร้างขึ้นมา กว่าจะรักกัน กว่าจะเลี้ยงลูกโต กว่าจะมีลูกมันไม่ใช่เรื่องง่ายนะ เราใช้เวลา ใช้ความรู้สึกใช้ทุกอย่างสร้างมันขึ้นมา เพราะฉะนั้นเจ็ง มองว่าทำยังไงให้ครอบครัวเราอยู่อย่างนี้ อยู่อย่างสวยงามและมีความสุข มันต้องใช้ความพยายาม ความอดทนและเสียสละอย่างมาก

แต่ถามว่าเหนื่อยมั้ย มีความสุขมั้ย บางทีเราก็มีนะที่อยากไปทำนู่นทำนี่ ทำไมไม่ได้ไป เพราะจะต้องพาลูกไปทำงาน พาลูกไปโน่นนี่นั่น แต่พอเรากลับมาถามตัวเองว่าเรามีความสุขมั้ยที่ได้อยู่กับเขา ได้ใช้เวลากับลูก กับพี่พีทหรือกับใครก็แล้วแต่ เรามีความสุขมาก เพาะฉะนั้นก็เลือกที่จะทำแบบนั้นค่ะ

แต่ว่าสเปซความเป็นส่วนตัวเราก็มีนะ แต่อาจจะไม่ได้เยอะมากเหมือนบ้านอื่นเขา เพราะเราอยู่ด้วยกันตั้งแต่ลูกเกิดตั้งแต่เล็กจนมันเป็นความเคยชินไปแล้ว อย่างพี่พีทไปทำงาน เจ็งจะไม่โทรถามว่าอยู่ไหน ทำไมยังไม่กลับ เลิกงานแล้วทำไมยังไม่ถึงบ้าน ไม่เคยถามเลย เราก็อนุญาตให้เขาเที่ยวนะ คือไล่ให้ไปด้วย แต่ไม่เคยไป (หัวเราะ)

พีท : “คือถ้าเลือกที่จะไป ก็อยู่กับครอบครัวดีกว่า”
เจ็ง : “รับเมียไปด้วย (หัวเราะ)”.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน