โบไลท์ คู่กรณี เปิ้ล ไอริณ แถลงชี้แจง หลังโดนแจ้งความลักทรัพย์ ลั่นไม่เอาชื่อเสียงการทำงาน 20 ปี มาแลกกับเงินแค่ 5 พัน ชี้เป็นการสื่อสารคลาดเคลื่อน

จากที่ เปิ้ล ไอริณ ศรีแกล้ว ได้ไปแจ้งความ อดีตผจก. ข้อหาลักทรัพย์ ฉกเงินค่าตัวออกจากกระเป๋า รวมทั้งยังแจ้งเอาผิด ปอเปี๊ยะ กาลเวลา เสาเรือน พิธีกรชื่อดังในข้อหาสงสัยร่วมกันลักทรัพย์

ล่าสุดวันนี้(12 มิ.ย.66) “โบไลท์” นางมินจนิตา แก้วชมภูพาน คู่กรณีที่ เปิ้ล ไอริณ ระบุว่าเป็นอดีตผู้จัดการ ได้ชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นพร้อมด้วย ทนายสาคร ศิริชัย และ กุ้งพลอย กนิษฐรินทร์ เพื่อนและดาราที่ โบไลท์ ดูแลงานให้อยู่ร่วมโต๊ะแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย

โดย ผู้จัดการสาว ได้ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า “กรณีของคุณเปิ้ล ไอริณ โบว์ขอออกมาชี้แจงดังนี้

1. ภาพที่เห็นในคลิปคือโบว์เอง ที่ข่าวลงว่าเป็นภาพผู้จัดการส่วนตัวของ คุณเปิ้ล ไอริณ แต่โบว์ขอเรียนให้ทราบว่าโบว์ไม่ได้เป็นผู้จัดการส่วนตัวของคุณเปิ้ล โบว์เป็นแค่เอเจนซี่จัดหางาน เป็นฟรีแลนซ์ รู้จักกัน ช่วยเหลือกันมาตลอดเรื่อยมา โบว์จัดหางานให้นักแสดงหลายคนมาเกือบตลอด 20 ปีในการทำงาน

2.เหตุการณ์ในคลิปที่ทุกคนเห็นว่าโบว์เป็นคนหยิบเงินจากซองในกระเป๋าของคุณเปิ้ล เป็นเรื่องจริงค่ะ แต่ไม่ใช่การลักทรัพย์ เราแค่มองว่า มันคือส่วนต่างที่เราได้มีการเจรจากับทีมงาน ในส่วนของค่าตัวคุณเปิ้ล ไอริณไว้ในราคา 10,000 บาท หลังจากนั้นเราได้มีการพูดคุยกับทีมงานเรื่องค่าตัวส่วนที่เพิ่มที่เป็นของโบว์ ซึ่งวันนั้นเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ แล้วสตูดิโอเวิร์คพอยท์ก็ค่อนข้างที่จะเดินทางไกล จึงได้มีการตกลงกับทีมงาน ทีมงานได้มีการแจ้งกับเราว่าจะขอเพิ่มค่าตัวกับผู้ใหญ่ให้ แต่ไม่รู้ว่าจะได้ไหม ในใจตอนนั้นคิดว่าคงจะได้ประมาณ 2,000 บาท

 








Advertisement

มองย้อนไปตอนที่ขายงานนี้ให้คุณเปิ้ล เราได้มีการเจรจากับทีมงานขอค่าตอบแทน 10,000 บาท เขาก็ยินดี เราก็เลยไลน์หาคุณเปิ้ลว่าได้ขายรายการนี้ให้ในราคา 10,000 บาท โอเคไหม ซึ่งคุณเปิ้ลก็ตอบโอเค จากนั้นโบว์ก็ได้คุยกับทีมงานเวิร์คพอยท์ ขอค่าตัวในส่วนของเราเพิ่มได้ไหม ใน 10,000 บาท เราได้แค่ 1,000 บาทเอง เราไม่อยากไป เราอยู่บ้านก็ได้

แต่มันเกิดการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน โบว์คิดว่าส่วนต่างของโบว์มันจะต้องแยกออกมาจากส่วนค่าตัวของพี่เปิ้ลในราคา 10,000 บาท แต่ทางทีมงานเข้าใจว่าไปรวมกับค่าตัวคุณเปิ้ล แล้วโบว์กับคุณเปิ้ลไปเจรจากันจนเกิดเรื่องขึ้น

โบว์มองว่าเงินส่วนตัวตรงนั้นคือส่วนของเราได้ขอไป พอเสร็จงานโบว์ไปส่งคุณเปิ้ลที่รถ เขาก็บอกว่าจะโอนเงินมาให้โบว์ 1,000 บาท โบว์ก็ได้แจ้งกับทางคุณเปิ้ลว่าไม่ต้องแล้วเพราะโบว์ได้หยิบเงินส่วนแบ่งจากในซองที่โบว์ขอมาจากทีมงานแล้ว ไม่ต้องให้โบว์แล้ว คุณเปิ้ลก็ได้เงิน 10,000 บาทเต็มๆ ไปเลย เรื่องก็จบ

จนแยกย้ายกันกลับไปบ้าน ทางคุณเปิ้ลได้โทรหาทีมงานรายการอื่น ซึ่งไม่ใช่รายการที่เพิ่งไปออกว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมหน้าซองเขียน 15,000 แต่ทำไมในซองมีแค่ 10,000 พอโบว์ได้รับเรื่องนี้โบว์ก็รีบโทรกลับหาคุณเปิ้ลทันที

และได้ชี้แจงให้คุณเปิ้ลได้ทราบเรื่องจริงทั้งหมด เขาก็บอกโอเค งั้นต่อไปนี้ถ้าเป็นเงินที่โบว์ติดต่อจะให้โบว์ทำอะไรไป แต่ถ้าเป็นงานที่ติดต่อมาทางคุณเปิ้ล ไอริณ เขาจะดูแลเองทั้งหมด เราก็โอเคตามนั้น จากนั้นก็ยังมีการพูดคุยเรื่องงานอื่นๆ ต่อ แต่พอเช้ามาก็อย่างที่ทุกคนเห็นกัน

ซึ่งมีประเด็นที่คุณเปิ้ล ไอริณ มีการพาดพิงถึงพิธีกรรายการและทีมงานว่าเป็นคนหยิบเงินไป ตรงนี้โบว์ได้มีการแจ้งกับคุณเปิ้ลแล้วถึง 2 รอบ โบว์ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใช้โซเชียลมาทำให้คนอื่นเป็นคนผิด ซึ่งจริงๆ แล้วโบว์เป็นคนหยิบเงินจากในซองเพียงคนเดียว ไม่ได้เกี่ยวกับทีมงานเวิร์คพอยท์และคุณปอเปี๊ยะ กาลเวลา เลยแต่อย่างใด โบว์ต้องกราบขอโทษคุณปอเปี๊ยะ และทีมงาน และช่องเวิร์คพอยท์ เป็นอย่างมากที่ทำให้เกิดความเสียหายขึ้น โบว์ไม่ตั้งใจจะทำให้มันเกิด

โบว์อยู่ตรงนี้มา 20 ปี โบว์ ไม่เอาอาชีพโบว์มาฆ่ากับเงินแค่ 5,000 บาท มันคือการสื่อสารที่เข้าใจผิด และโบว์ได้มีการขอโทษคุณเปิ้ล ไอริณ ไปแล้ว 2 ครั้ง หลังจากเกิดเรื่องโบว์ก็พยายามติดต่อคุณเปิ้ล แต่เขาไม่รับสาย โบว์ก็เลยส่งข้อความไปหาเพื่อยืนยันเรื่องทั้งหมด ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงดึงคนที่ไม่เกี่ยวข้อง ผู้บริสุทธิ์อย่างคุณปอเปี๊ยะ ทีมงาน และช่องเวิร์คพอยท์มาอยู่ในเรื่องนี้ด้วย ซึ่งโบว์ไม่เข้าใจ

“มันอาจจะมีส่วนที่พัวพันตอนสัมภาษณ์ในเรื่องของประเด็นการเมืองจนทำให้ก่อให้เกิดประเด็นที่ดึงเรื่องมาถึงพิธีกร ก็คือ คุณปอเปี๊ยะ และทีมงานเข้ามา ตรงนี้โบว์ไม่สบายใจเป็นอย่างมาก โบว์ได้โทรไปขอโทษคุณปอเปี๊ยะอย่างเป็นทางการ เราก็ได้มีการร้องไห้เคลียร์ใจกัน โบว์ได้พูดว่าโบว์ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำอย่างนั้นเลย ขอให้คุณปอเปี๊ยะเชื่อมั่นในตัวเรา เราไม่เคยคิดจะมาทะเลาะกับปอเปี๊ยะ และช่องเวิร์คพอยท์แต่อย่างใด และเราได้มีการขอร้องคุณปอเปี๊ยะว่าขอให้หลังจากที่คุณเปิ้ลแจ้งความ แล้วโบว์จะออกมาปกป้องคุณปอเปี๊ยะ ทีมงาน และช่องเวิร์คพอยท์ ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย โบว์เห็นใจและสงสารคุณปอเปี๊ยะที่เขาต้องมาประกาศยุติการเป็นพิธีกร

3.เรื่องเปอร์เซ็นต์จัดหางาน โบว์มาช่วยคุณเปิ้ล โปรโมตเพลงทั้งหมด 3 ครั้ง ในฐานะพีอาร์ในราคาพี่น้องกันมากๆ จากนั้นโบว์ทำงานให้คุณเปิ้ลฟรีมาตลอด ในส่วนของเดินสายโปรโมตเพลงกับสื่อ ถึงโบว์ไม่ได้ดังเป็นดารา มีปีกแบบเขา แต่โบว์ก็ต้องมีค่าตัวของโบว์ เพราะโบว์เองก็มีชื่อเสียงในวงการ มีคนรู้จักโบว์เหมือนกัน ค่าตัวการทำงานของโบว์อยู่ที่ 10,000-20,000 บาทต่อ 1 ครั้งในการเดินสาย แต่โบว์ไปช่วยคุณเปิ้ลเดินสาย 4-5 ครั้งฟรี และงานฟรีต่างๆ ที่เรียกว่าช่วยเหลือกัน ก็หลายครั้งมาก ซึ่งเราทำให้ด้วยแพสชั่นของเรา

คุณเปิ้ลบอกว่ามาช่วยงานจะให้เป็นเปอร์เซ็นต์ แต่โบว์ได้พูดกับเขาไปว่าขอไม่รับเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วแต่พี่จะให้ สิ่งที่โบว์มาช่วยในครั้งนี้มันเป็นแพสชั่นของโบว์ เป็นสิ่งที่โบว์รัก โบว์อยากทำงานชิ้นโบว์แดงคือเพลง “money ฟังแล้วรวย” มันจะไปสุดที่เท่าไหร่ อันนี้คือจุดมุ่งหมายในการทำของโบว์ โบว์บอกคุณเปิ้ลตลอดว่าถ้าโบว์คิดจะรวยกับเขา มาหาผลประโยชน์จากเขาโบว์อยู่เฉยๆ ก็ได้ โบว์ก็มีเงิน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด โบว์ก็กราบขอโทษพี่เปิ้ลอีกครั้งจากใจจริงต่อหน้าสื่อ โบว์ไม่ได้มีเจตนาอะไรเลย แต่มันคือการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนจนทำให้เกิดความเข้าใจผิด ไม่ใช่จะลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์อะไรเลย เราไม่เอาเงินแค่นี้มาทำให้ชีวิตการทำงานเราเสียหรอกค่ะ โบว์ไม่อยากให้เรื่องมันต้องถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นคดีความ แต่ในเมื่อมันเป็นไปแล้วเราก็ต้องออกมาชี้แจงว่าเราไม่ได้เป็นคนลักขโมยตามภาพโบว์เข้าใจว่าภาพมันแรง โบว์ก็อยากจะวิงวอนสังคมที่เห็นภาพแล้วอย่าเพิ่งด่วนตัดสินกับภาพเหตุการณ์ตรงนั้น”

ผู้สื่อข่าวถามต่อกับเรื่องที่เปิ้ล ไอริณ บอกว่าพาเขาไปฆ่ากลางรายการ? “พี่เปิ้ลรู้อยู่แล้วว่ารายการที่ไปออกเป็นแบบไหน แล้วสคริปต์ที่เขาจะถามคุณเปิ้ลเป็นคนขอสคริปต์ก่อนว่าเขาจะพูดอะไร เพราะเขากลัวว่าจะไปซ้ำกับรายการอื่นที่เขาจะไปออก เขาจะไม่พูดเหมือนกัน ซึ่งทางรายการได้บอกมาเรื่องโดนแคนเซิลงาน เรื่องลูกเสือ เรื่องความเห็นต่างในมุมมองของคุณเปิ้ล และทางคุณเปิ้ลได้มีการส่งคำถามที่ตัวคุณเปิ้ลเองอยากจะพูดให้ทางรายการไป ซึ่งทั้งหมดมีหลักฐาน มันเป็นคำตอบที่เขาตอบในรายการ โบว์ไม่ได้จะลากไปฆ่าแต่อย่างใด โบว์มีหน้าที่ขายงาน ประสานงาน อยากให้พี่เปิ้ลมีกระแส มีพื้นที่ข่าวอยู่ตลอดเวลาและโบว์ก็จะได้เงินจากการหางานด้วย

ในส่วนของคำถามในรายการโบว์ต้องเคารพสิทธิ์ของทางรายการ โบว์ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ และมันเป็นรายการสด โบว์ไม่ได้ตั้งใจจะลากคุณเปิ้ลไปฆ่าแต่อย่างใด แล้วที่เขาบอกไม่รู้ว่ามีสื่อไป เขารู้ค่ะ เขายังส่งคลิปเสียงมาบอกเลยว่าถ้าสื่อจะสัมภาษณ์ขอเป็นหลังรายการนะ เพราะเขาอยากจะมีสมาธิตอบคำถามในรายการ”

“ที่ออกมาในวันนี้โบว์ และปอเปี๊ยะ กาลเวลา ไม่ได้รุมรังแกเขานะ เราแค่รู้สึกว่ามีเหตุการณ์โดนแจ้งความ โดนกล่าวหาว่าลักทรัพย์ โบว์จึงต้องออกมาปกป้องตัวเอง โบว์ก็พร้อมไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของโบว์”

ด้าน ทนายสาคร เผยว่า “ในมุมมองของทนายความ มันคือพฤติกรรมการเอาค่าตอบแทนโดยสุจริตใจ ในพฤติกรรมของโบว์นั้นมันไม่ใช่สถานที่ลึกลับอะไร มีกล้องวงจรปิดเห็นชัดเจน เป็นการเอาโดยสุจริตใจว่าตัวเองมีสิทธิ์จะได้ในเงินส่วนแบ่งตรงนั้น เป็นประเพณีปฎิบัติระหว่างผู้ประสานงานที่จะมีส่วนต่างที่ได้ น่าจะเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนกัน เป็นเรื่องที่คุยกันได้ จะเป็นการดี ไม่อยากให้เรื่องนี้กระจายเป็นวงกว้าง

ถ้าจะสู้คดีทนายก็จะสู้ในทำนองว่าเขากระทำไปเพราะเชื่อโดยสุจริตใจที่เขาจะได้ในส่วนตรงนั้น ถ้าลักทรัพย์จริง ทำไมไม่เอาทรัพย์สินอื่นๆ ด้วย ทำไมไม่เอาเงินทั้งหมดทั้งๆ ที่จะหยิบยังไงก็ได้ แต่เอาแค่ 5,000 บาท ผมพิจารณาแล้วมันไม่เข้าเจตนาลักทรัพย์ตามกระบวนกฎหมาย

ในประเด็นรายการที่เขาพิพากษ์กัน ก็อาจจะเป็นในส่วนของรายการ ที่เขาก็บอกแล้วว่าให้ชี้แจงในลักษณะไหน อาจจะมีอารมณ์ที่ต่อเนื่องมาจากตรงนั้น ชกบนเวทีไม่จบมาชกกันข้างล่างต่อ แล้วก็เกิดการกระจายวงกว้างไปถึงความขัดแย้งต่างๆ ในสายดาราเราไม่อยากให้เอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็น
ส่วนคดีจนถึงที่สุดถ้าเขามีการแจ้ง โทษจำคุก 3 ปี 6 เดือน เราก็ต้องสู้ไปว่าเราขาดเจตนาจริงๆ ไม่ได้สู้แบบหน้าด้านๆว่าเราไม่ได้เอามา แต่วงจรปิดมีอยู่ตรงนั้น พฤติกรรมจะไม่ทำออกมาในลักษณะนี้ โจรถ้ามันจะลักขโมยมันก็เอาหมด และต้องดูประวัติด้วย เราสู้ด้วยความบริสุทธิ์ใจก็สู้ไป”.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน