ธัญญ่า อาร์สยาม ปวดใจ ยอมอาย ทำลายชื่อเสียงตัวเอง แฉแม่ทักยืมเงินคนอื่น

ก่อนหน้านี้นักร้องลูกทุ่งสาว ธัญญ่า อาร์สยาม หรือ ดาราภัช ทวินันท์ ได้ออกมาโพสต์ว่า ประกาศเตือนหลายๆคนที่แม่ตนเองทักไปยืมเงินว่าอย่าให้ยืม ถ้าใครให้ยืมตนไม่รับผิดชอบ

ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งที่สองที่นักร้องสาวได้ออกมาโพสต์ถึงแม่ของตนเองแบบนี้ ล่าสุดสุดได้เจอนักร้องสาวในงานมีตติ้งแฟนคลับ “รักข้ามโขง ญ่า&โล่ ที่ คาเฟ่ ศิวาคาเฟ่ ลาดพร้าว 130 เจ้าตัวได้เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นว่า

คือจริงๆ มันเป็นครั้งที่สองในสิ่งที่หนูโพสต์ ทุกคนก็อาจจะมองกันสองทางเหมือนเดิมนะคะ ก็มองว่ามันไม่ดี กับบางคนก็มองอีกทางนึงในทางการแก้ปัญหา หนูอยากจะบอกว่าในสิ่งที่หนูโพสต์ก็เหมือนเดิมเลยค่ะ

ผ่านการคิด วิเคราะห์มาแล้วเรียบร้อยว่าสิ่งที่ทำมันจะเกิดอะไรขึ้น และผลที่ตามมาคืออะไร หนูทำเพราะนี่คือสิ่งที่การแก้ปัญหาของหนูจริงๆ และหนูทำเพราะว่ามันเกิดขึ้นซ้ำๆ ก่อนที่หนูจะโพสต์มาแล้ว ไม่ได้นับกับครั้งแรกที่หนูโพสต์นะคะ คือไม่ได้อยากให้ทุกคนไปคอมเม้นต์ว่าคุณแม่หรืออะไร

ตอนนี้อยากให้ทุกคนให้กำลังใจคุณแม่ ขอให้คุณแม่ทำได้ในสิ่งที่คุณแม่หลงเข้าไป เพราะตัวหนูเองก็ให้กำลังใจคุณแม่ในทุกๆ ครั้ง สิ่งที่หนูทำหนูจะบอกว่าเป็นการที่อาจจะรุนแรงไป ก็คือการดิสเครดิต ไม่ให้เขามีเครดิตในการที่จะไปยืมใคร ให้ทุกคนได้รับรู้ รับทราบกันหมดว่าเราให้เงินตลอด เราไม่ได้ลำบาก ก็เป็นวิธีของหนูเอง








Advertisement

ซึ่งบางคนอาจจะมองว่าผิดหรือถูก มันเป็นมุมมองของแต่ละคน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนเป็นลูกไม่มีวันที่จะทิ้งแม่ ไม่มีใครอยากที่จะให้แม่โดนว่า ไม่มีใครอยากที่จะทำให้แม่รู้สึกไม่ดี เราได้คุยกับแม่เรียบร้อยแล้ว และแม่เองก็ไม่ได้โกรธในสิ่งที่เราโพสต์ และตัวแม่ตอนนี้ก็เข้าใจในสิ่งที่หนูได้ทำลงไปว่าเพราะอะไร และเราได้คุยกันแล้วว่าถึงแม้ว่ามันจะเกิดขึ้นซ้ำๆ แค่ไหน

แต่หนูก็หวังว่าสักวันนึงต้องได้สิ แม่จะต้องทำได้ เพราะเราประสบความสำเร็จให้แม่เห็นแล้วขนาดนี้ เราทำให้แม่เห็นว่าเราเก่งนะ เราเลี้ยงดูแม่ได้แล้วนะวันนี้ เราทำหน้าที่ของลูกคนนึงแบบเต็มที่ วันนี้อยากให้แม่อยู่เป็นกำลังใจให้ลูก ทำกับข้าวให้ลูก เป็นรอยยิ้มให้ลูก นี่คือสิ่งที่ลูกคนนึงต้องการเลยค่ะ

ไม่ได้อยากให้แม่คิดว่าช่วยลูกไม่ได้ ไม่ได้อยากให้แม่คิดว่าแต่ก่อนเคยหาเงินได้ ทำไมตอนนี้หาไม่ได้ แล้วมาเป็นภาระลูก หนูไม่อยากให้แม่คิดแบบนี้ หนูอยากทำหน้าที่ลูกให้เต็มที่ เพราะแม่เลี้ยงหนูมาดีมาก เลี้ยงหนูให้เติบโตมาจนหนูรู้สึกว่าเป็นคนนึงที่เติบโตมาดี เติบโตมาแบบเลี้ยงครอบครัว เลี้ยงแม่ได้ เป็นคนกตัญญูคนนึง

ก็เลยอยากให้แม่ภูมิใจว่าแม่เลี้ยงหนูมาดีมากนะ และรอว่าวันนึง ถึงแม้ว่าครั้งนี้มันจะเกิดขึ้นอีก หนูก็มีความหวังเหมือนทุกๆ ครั้งว่ามันจะต้องดีขึ้น และในครั้งนี้พอเกิดขึ้นมาแล้ว หนูก็แก้ไขมัน และอาจจะรู้สึกว่ามันจะเกิดอีกมั้ย (เสียงสั่น) แต่ก็ต้องทำใจ และเราหวังว่าแม่เราทำได้ เรามีความเชื่อค่ะ”

ปัญหาของคุณแม่เกี่ยวกับการพนันด้วยหรือเปล่า เงินถึงไม่พอใช้? “จริงๆ ปัญหาตรงนี้ถึงหนูไม่พูด แต่ทุกคนก็ดูออกว่ามันคือเรื่องอะไร หนูก็เลยบอกว่าคนที่มีปัญหาเรื่องนี้เขารู้ดีว่ามันอาจจะยากในการที่จะหยุดมันได้ หนูอยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้แม่ค่ะ ไม่อยากซ้ำเติมอะไรเขา เพราะตัวเขาเองก็เสียใจมากๆ กับครั้งนี้ และแม่ก็ต้องรักษาเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าเลย รวมถึงตัวหนูเอง เหมือนเป็นกันทั้งสองคน ก็ต้องเยียวยาจิตใจซึ่งกันและกัน”

ครั้งนี้คิดว่าคุณแม่ได้รับบทเรียนหรือยัง? “หนูว่าดีขึ้นค่ะ เพราะทั้งเขาไปหาหมอ ตัวหนูเองก็ได้ฟังนักจิตวิทยาพูด หนูก็รู้สึกว่าน่าจะดีขึ้น และไม่ว่าจะเป็นใครถ้าเจอปัญหาแบบนี้ หนูก็อยากบอกทุกคนว่าทุกคนควรได้รับโอกาสค่ะ”

ปัญหารอบแรกกับรอบสอง คุณแม่พยายามปรับตัวได้ดีขึ้นมั้ย? “คุณแม่ไม่ได้ทำซ้ำมาเป็นปีแล้วค่ะ หลังจากรอบนั้นที่หนูโพสต์ ซึ่งหนูก็ถือว่าคุณแม่ทำได้แล้ว และคิดว่าครั้งนี้ก็น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายค่ะ”

ต้นสังกัดมีว่าอะไรมั้ยที่เราโพสต์แบบนี้? “มีพี่ๆ ที่ตึกค่ะ มีบ้างที่บอกมาตั้งแต่ตอนที่โพสต์ปีนู้น แต่ว่าครั้งนี้ยังไม่มี แต่หนูได้อธิบายไปแล้วว่าสิ่งที่หนูทำเป็นสิ่งที่หนูตัดสินใจ เป็นวิธีแก้ปัญหาของตัวหนูเอง และหนูก็ยอมรับในสิ่งที่มันจะเกิดขึ้น ไม่ใช่แค่ตัวคุณแม่ ถามว่าลูกคนนึงเห็นคนคอมเม้นต์แบบนั้นเจ็บมั้ย หนูก็เจ็บค่ะ เจ็บมากๆ

แต่หนูเลือกที่จะทำแบบนั้นไปแล้ว ต้องการแก้ปัญหาตรงนั้น ถามว่าหนูอายมั้ย หนูอายตั้งแต่แม่เราไปยืมเงินคนอื่น เราก็อายแล้ว และการที่เรามาโพสต์แบบนี้ เราเลือกอายครั้งเดียวเลยดีกว่า ไม่ใช่แค่คุณแม่อายค่ะ เราก็อายเหมือนกัน เราเลือกอายทีเดียวและให้จบปัญหาในครอบครัวของเราในครั้งเดียวเลย เราเลือกรับผิดชอบและเริ่มต้นใหม่ ใครจะซ้ำเติมหรืออะไรก็ไม่เป็นไร แต่ในวันนึงเราเชื่อว่าครอบครัวเรามันจะดีขึ้นแน่นอน”

หลังจากที่โพสต์รอบสอง วันนี้ปัญหาจบแล้วใช่มั้ย? “จบแล้วค่ะ เราก็ได้คุยกัน และในเรื่องค่าใช้จ่ายใดๆ ก็ค่อยๆ แก้ปัญหากันไปค่ะ”

คนที่โดนคุณแม่ยืมเงินไป มีทักมาหาเรามากน้อยแค่ไหน? “ก็มีบ้างค่ะ แต่หนูก็เคลียร์ไปเกือบหมดแล้ว อาจจะต้องมีทยอยบ้าง (แสดงว่ารอบนี้หนักกว่ารอบแรก?) ไม่ขอลงรายละเอียดดีกว่าค่ะ”

คิดว่าครั้งนี้คุณแม่น่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีแล้วใช่มั้ย? “ใช่ค่ะ หนูคิดว่ามันเป็นสิ่งที่เขารู้ว่าหนูเจ็บ เพราะว่าการโพสต์แบบนี้มันไม่ใช่แค่คุณแม่เจ็บ แต่มันคือหนูเจ็บ และมันคือหน้าตาของครอบครัว มันคือชื่อเสียงของหนู หนูเลือกทำลายชื่อเสียงของหนูเลยนะ หนูไม่ได้เลือกทำลายคุณแม่นะคะ หนูบอกเลยว่าการที่หนูทำแบบนี้เหมือนหนูทำลายชื่อเสียงตัวเองด้วยซ้ำ แต่เพื่อให้มันจบและเพื่อให้มันดีขึ้น”

คอมเม้นต์มีแรงเหมือนคราวที่แล้วมั้ย ที่ว่าเราอกตัญญู ไม่รักคุณแม่ ยังมีอยู่มั้ย? “มีค่ะ แต่ใจหนูรู้ดี และเราเลือกที่จะทำแล้ว และเรารู้ผลลัพท์อยู่แล้วว่ามันต้องมีแบบนี้ (เราเลือกแก้ปัญหาด้วยตัวเองหรือ อาร์โล่ มาช่วยมั้ย?) เขาคอยอยู่ข้างๆ ตลอดค่ะ หนูก็คอยถามเขานะว่าอันนี้ทำยังไงดี จะทำยังไงต่อดี เงินส่วนนี้จะทำยังไง

หนูก็มีถามบ้าง เพราะว่าบางทีหนูคิดอะไรไม่ออกแล้ว หนูอื้ออึงไปหมด หนูเอ่อไปเลยก็มี เขาก็จะคอยช่วยหนู และหนูก็สงสารเขานะ เหมือนเขาเพิ่งเข้ามาไม่นาน แต่ก็มารับรู้ปัญหาที่มันเป็นแบบนี้ในครอบครัวเรา และเราก็แอบคิดว่าญาติเขาจะมองเรายังไง ตัวเขาจะมองเรายังไง ก็มีถามเขาว่าญาติเขาเห็นข่าวแล้วรู้สึกโอเคมั้ย เข้าใจเราหรือเปล่า ตัวเขาก็บอกว่าโอเค ไม่เป็นไร”

ถือว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่ในชีวิตของเราเลยมั้ย? “จริงๆ มันมีมาตลอด 3 ปีค่ะ มันเป็นปัญหาหลักเลยก็ว่าได้ แต่หนูอยู่กับมันมาจนหนูรู้สึกว่าหนูเริ่มแก้มันได้แล้ว แต่หนูภาวนาตลอดว่าอย่าให้เกิดขึ้นอีก เพราะมันหนัก มันไม่เหมือนปัญหาทั่วไป มันคือปัญหาที่มาจี้หัวใจเราเลย มันคือแก้วตาดวงใจเรา เรากับแม่มีกันอยู่สองคน อย่างที่บอกว่าโพสต์ไปไม่ได้ทำร้ายแม่หรอก มันทำร้ายชื่อเสียงตัวเอง ทำร้ายทุกอย่างเลย และคนที่ใจสลายคือเราเลย”

ขอบคุณรูปจากไอจี : tanya_rsiam

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน