‘โป๊ป’ เหลือเชื่อ ‘พรหมลิขิต’ เรตติ้งแรง เผยบทที่ไม่อยากตื่นมาเล่น เจอแซวพระเอกไล่ราหู

วันที่ 9 พ.ย.66 ที่ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน พระเอกชื่อดัง โป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมงาน “รวมพลคนรัก ‘โป๊ป ธนวรรธน์’ คืนชีวิตไม่ติดแพ้ ดูแลด้วยอัลนี้ สนับสนุนโดย Allernix” ถึงกระแสละคร พรหมลิขิต ที่เรตติ้งปังอย่างเหลือเชื่อ เจอแซวไล่ราหูหลังละครช่อง 3 เรตติ้งไม่ขึ้น เผยตัวละครที่ไม่อยากตื่นมาเล่น พร้อมแจงไม่ใช่ “พระเอกจำศีล-อินโทรเวิร์ต” แค่เลือกรับงานที่เหมาะกับตัวเอง

กระแสละคร พรหมลิขิต ปังมาก? “จริงๆ ละครก็สนุกอยู่แล้ว ในความคาดหวังของทีมงานและนักแสดงก็ไม่คิดว่าเรตติ้งจะเกิน 5 หรือ 6 พอมันเกินมาก็เหลือเชื่อเหมือนกัน เพราะว่าในยุคนี้ก็สามารถดูได้หลายช่องทาง แต่ทางทีวีก็ยังเยอะอยู่ แล้วก็ยังคงรักษาเรตติ้ง 7 ไว้ได้ ส่วนว่าเรตติ้งจะแตะถึง 2 หลักมั้ย อันนี้ไม่รู้ว่ามันเป็นจะเป็นไปได้หรือเปล่า ถ้า 2 หลักก็คือที่สุดแล้วแหละ อย่างตอนบุพเพฯ เรตติ้ง 18 แต่ในตอนนั้นมันก็ยังไม่ได้มีออนไลน์มากขนาดนี้ ส่วนเรื่องค่าตัวก็รับ 3 ต่อครับ นักแสดงก็จะเป็นอย่างนี้หมด เล่นเป็นแฝดสามคนก็ได้ค่าตัว 3 คนเลย เพราะมันเหมือนกับเราเล่น 3 เรื่อง”

หลายคนแซวว่าเรตติ้งช่อง3 โดนราหูทับมานาน โป๊ปมาราหูไปเลย? “(หัวเราะ) ไม่เกี่ยวกับผมหรอก มันเกี่ยวกับว่าพอบทหรือเรื่องราวมันสนุก หลังจากเราเจอเรื่องเครียดๆ มาเยอะ พอมามีเรื่องที่ทำให้คนดูยิ้มและเป็นละครครอบครัว คนก็อาจจะชอบ อย่างที่ผ่านมาของช่องก็เรื่อง มาตาลดา ที่ทำให้เห็นแล้วว่าคนอาจจะชอบดูละครสบายๆ พอมา พรหมลิขิต ก็ตอบโจทย์คนในประเทศเรา”

ละครปังขนาดนี้ แต่ก็มีตัวละครที่ไม่อยากตื่นมาเล่น? “คือตัวพ่อ ยากนะครับ ด้วยความที่เขาโตกว่าเราเยอะ บทก็ค่อนข้างจะพูดยากอยู่ ต้องพูดโบราณ ต้องสุขุม ความคิดต้องโตด้วย แล้วบางทีเราเล่นเป็นริดเยอะๆ แล้วในวันนั้นเราก็ต้องเปลี่ยนชุดมาถ่ายเป็นตัวพ่อ มันโหดร้ายนะ นักแสดงจะเข้าใจว่าเหมือนคนละอารมณ์กันเลย มันยากที่ต้องปรับความรู้สึก แล้วอย่างบางคนในช่องก็จะบอกว่าพ่อน่าจะแก่อีกหน่อย แต่ผมหน้าอย่างนี้มันก็ไม่รู้จะแก้ยังไง ไอ้เรามันก็หน้าเด็กซะด้วย(หัวเราะ) คือมันก็เป็นการทำงานเต็มที่แล้วแหละ”








Advertisement

ยังรับงานอยู่ใช่ไหม เพราะไม่ค่อยเห็นหน้า? “ยังรับครับ แต่หางานที่เหมาะกับเราจริงๆ ส่วนที่บอกว่า “โป๊ปจำศีล” หรือเปล่า ไม่ใช่จำศีลหรอก ถ้างานไหนมันใช่ในแบบที่เราอยากจะก้าวออกไปทำก็ไปทำ จริงๆ ทุกวันนี้แค่ทำงานนักแสดงก็แฮปปี้แล้วครับ ถือว่าเลี้ยงชีพได้แบบพอเพียงและพอดีกับตัวเองแล้ว เราไม่ได้คิดว่ารับงานเพื่อให้มีงาน แต่หลังจากนี้ก็ยังไม่มีละครต่อ ไม่ใช่ว่ารับเรื่องหนึ่งหายไป 3 ปี มันเป็นจังหวะมากกว่า เรื่องที่ผมเล่นมันยาว เล่นที 2 ปีก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน”

“ส่วนที่คนบอกว่าผมเป็นพระเอกอินโทรเวิร์ตหรือเปล่า ไม่เชิงหรอกครับ จังหวะชีวิตมันอาจจะยังไม่มีงานแบบที่โดนใจมากกว่า คือถ้ามีบทที่ตรงใจหรือทำให้มีไฟที่จะอยากเล่นก็ไม่เกี่ยงก็อยากเล่น แต่ถ้าถามตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นบทแบบไหน เพราะเราก็เล่นมาเกือบทุกบทบาทแล้ว มันต้องอ่านบท”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน