ศรราม น้ำเพชร ยอมรับกระแส “ดำดงฟีเวอร์” ตกวัยรุ่นเข้าด้อมลิเก เผยคิวงานยาวถึงปี 2570 ใจฟูปลุกวงการลิเกกลับมาคึกคัก-ผลักดันเป็นซอฟต์พาวเวอร์

นาทีนี้แทบจะไม่มีใครไม่รู้จักคณะลิเก ศรราม น้ำเพชร หลังตัวละคร ดำดง ในเรื่อง สาปซ่อนรัก กลายเป็นกระแสฟีเวอร์ในโลกโซเชียล ปลุกวงการลิเกให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง รวมทั้งทำให้วัยรุ่นหันมาสนใจลิเกมากขึ้น ส่งผลให้คิวงานล่าสุดตอนนี้ยาวไปจนถึงปี 2570 แล้ว

ล่าสุดวันที่ 7 มี.ค.67 ที่ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ชั้น7 สยามสแควร์วัน พระเอกลิเกคนดัง แบงค์ ศรราม หรือ ศรราม น้ำเพชร ได้ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมงาน GROW WITH US 2024-2025 ที่เจ้าตัวเป็นหนึ่งในนักแสดงของโปรเจ็กต์สยองขวัญ พี่วรรณมาสอน หนังเรื่องแรกในชีวิต พร้อมกันนี้ได้พูดกระแสดำดงฟีเวอร์ที่มีส่วนทำให้คณะลิเก ศรราม น้ำเพชร เป็นที่รู้จักในวงกว้างในโลกออนไลน์

ถามถึงงานหนังเรื่องแรก? “สำหรับหนัง พี่วรรณมาสอน เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก แล้วให้คนกลัวผีมาเล่นหนังผี(หัวเราะ) จริงๆเราอยากเล่นอยู่แล้ว รวมถึงเป็นคนชอบดูหนังผีอยู่แล้วแม้ว่าจะกลัวก็ตาม วันนี้ก็ได้รับโอกาสดีๆ จากผู้ใหญ่ที่ให้เราได้มาเป็นหนึ่งในนักแสดงของหนังเรื่องนี้ ถามว่าหวั่นใจมั้ยเพราะว่าเป็นศาสตร์ใหม่สำหรับตัวเรา ไม่หวั่นครับ แต่เราก็พร้อมพัฒนาตัวเองให้เต็มที่”

กลัวผีแล้วต้องมาเล่นหนังผี? “อาจจะต้องขนเครื่องรางของขลังมาจากที่บ้าน มีเท่าไหร่เอามาตั้งให้หมด(ยิ้ม) แต่เอาจริงๆ ก็ชินนะครับ เพราะว่าเวลาไปแสดงลิเกเราก็ไปตามวัดต่างๆ บางทีเราก็ไม่รู้ว่าวัดนี้มีเรื่องเล่าอะไรยังไงบ้าง ซึ่งก็มีเจอประสบการณ์จริงบ้าง แต่อย่างที่บอกว่าตื่นเต้นอยากเปิดกล้องแล้ว ในส่วนของการทำการบ้านเราก็อาจจะต้องทำความเข้าใจกับบทนิดนึง เพราะบทที่ได้รับค่อนข้างที่จะท้าทายด้วย อาจจะไม่ใช่คนปกติ…อุ๊ย! สปอยล์หรือเปล่า”

คิวเราได้เหรอเพราะงานลิเกก็แน่นมาก? “ได้ครับ เราให้เวลาเต็มที่อยู่แล้ว แต่อาจจะต้องมีการจัดคิวนิดหนึ่ง อันนี้ก็ให้เป็นหน้าที่ของทางทีมงาน”








Advertisement

ตอนนี้คณะลิเกของเราฟีเวอร์มาก? “ฟีเวอร์จริงๆ ตอนนี้กระแสกำลังมามากๆ โดยเฉพาะในโลกโซเชียลคนหันมาพูดถึงลิเกมากขึ้น อย่างวัยรุ่นที่เป็นติ่งเกาหลีตอนนี้ก็มีทวีตพูดถึงลิเกแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการจองที่ที่จะดู ศรราม น้ำเพชร มีแบบกางเต็นท์จอง จองแล้วห้ามย้ายถ้าย้ายขอให้ไม่ถูกหวย เพราะว่าเดี๋ยวนี้จองที่กันยากมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่เคยมีปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับคณะของเรามาก่อน เพิ่งจะมาเกิดช่วงนี้ แล้วก็รู้สึกว่าว้าวมาก ล่าสุดคิวงานก็จองยาวไปจนถึงปี 2570 แล้วครับ”

ใจฟูขนาดไหนที่ทำให้วงการลิเกกลับมาคึกคักอีกครั้ง? “อันนี้มันอธิบายไม่ได้เลยในเรื่องของความรู้สึก แต่ภาพที่เราเห็นและกระแสที่รับรู้ ทำให้เรามีความสุขและดีใจมากๆ ที่ได้เกิดมาเป็นพระเอกลิเก ได้อนุรักษ์ลิเก แล้วตอนนี้คนกำลังหันมาสนใจลิเกมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ที่ทำให้เรามั่นใจว่าต่อไปลิเกไม่มีวันหายไปอย่างแน่นอน จะผลักดันลิเกให้ไปไกลถึงระดับโลกให้ได้”

“ช่วงหลังเรารู้สึกว่าคนเริ่มเห็นคุณค่าวัฒนธรรมของไทยมากขึ้น อย่างหมอลำก็ทางภาคอีสาน ลิเกก็ทางภาคกลาง มโนราห์ก็ภาคใต้ ภาคเหนือก็จะเป็นรำฟ้อนต่างๆ ล้วนแล้วแต่มีคุณค่าและสวยงามจริงๆ เพราะฉะนั้นแล้วถ้าทุกคนหันมาเห็นคุณค่า ช่วยกันบอกต่อ ขอแค่ไม่ดูถูกกันแค่นั้นก็พอแล้ว เราจะได้ทำให้ทุกอย่างที่กล่าวมาเป็นซอฟต์พาวเวอร์อีกอย่างหนึ่งของประเทศไทย”

กระแสของ “ดำดง” มีผลทำให้คณะลิเกเราเป็นที่นิยมมากขึ้นไหม? “ดำดงนี่มีผลมากๆ โดยเฉพาะในโซเชียล ทำให้สื่อหันมาสนใจลิเกมากขึ้น แล้วก็ดึงวัยรุ่นและคนที่สนใจลิเกหันมาดูลิเก พอมาดูแล้วทีนี้ก็ติดงอมแงมเลย เอ๊ะ! หรือว่าเป็นเพราะพระเอกหล่อ(หัวเราะ)”

ระหว่างพระเอกกับดำดงตอนนี้ใครดังกว่ากัน? “เราไม่อยากเปรียบเทียบว่าใครดังกว่ากัน เพราะดำดงก็คือหนึ่งในนักแสดงของทีมงานศรราม น้ำเพชร เรียกว่าช่วยกันผลักดันส่งเสริมทำให้ลิเกและคณะศรราม น้ำเพชร เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นในโลกของออนไลน์ด้วย”

ตอนนี้คนก็เรียกว่าเราเป็นป๋าดันแล้ว เพราะทำให้ดำดงมีชื่อเสียงจนสามารถมีเงินปลดหนี้สินและสร้างบ้านใหม่ได้แล้ว? “อันนี้เรียกว่าเป็นความโชคดีของตัวดำดงมากกว่า จริงๆ ดำดงมาแสดงที่คณะของ 8 ปีแล้ว แล้วเรื่องนี้ก็แสดงมานานแล้ว ดำดงเองก็เล่นเรื่องนี้มา 5 ปีแล้ว แต่มันเพิ่งมามีกระแสไวรัลในปีนี้พอดี เลยเป็นช่วงกอบโกยของเขาด้วย”

“ถามว่าภูมิใจแค่ไหนที่เหมือนเขาปลดหนี้ปลดสินได้ แน่นอนว่าในฐานะที่เราเป็นผู้นำทีมงานพอเห็นลูกน้องก้าวไปยกระดับขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง เราก็รู้สึกภาคภูมิใจและคิดว่านี่เหมาะสมแล้วที่จะเป็นรางวัลชีวิตของนุ่น(ดำดง) เพราะเขาก็เป็นอีกหนึ่งคนที่มีความกตัญญูกับคุณพ่อคุณแม่ ถือว่าวันนี้เขาประสบความสำเร็จแล้วเราก็ยินดีด้วย”

ตัวของนุ่นที่เล่นเป็นดำดง ได้มาพูดคุยหรือบอกความรู้สึกอะไรกับเราบ้างไหมในช่วงที่ทำให้กระแสเขาดีขึ้น? “เราก็แค่พูดคุยกันว่าเฮ้ย! มันเกิดอะไรขึ้น มันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง ก็คุยไปขำไป เราก็บอกว่าโลกโซเชียลมันเป็นแบบนี้แหละโลก ถ้ามันเป็นไวรัลมันก็จะเร็วมาก เราก็ต้องรีบกอบโกยและทำให้ทุกคนที่หันมาดูเราตอนนี้รู้สึกประทับใจ อย่างตอนนี้พอมีงานอะไรเข้ามาเราก็ไม่ได้ปิดโอกาสเขา แต่ขออย่างเดียวคืออย่ากระทบงานหลักของเราก็คือการแสดงลิเกล”

คนดังมักจะมาพร้อมกับดราม่า ตัวของนุ่น(ดำดง)เขามีความกังวลบ้างไหม? “มีครับ ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่เป็นกระแสเขาก็เจอดราม่านะ เลยค่อนข้างจะชิน แต่ว่าช่วงนี้พอมีกระแสมากขึ้นดราม่ามันอาจจะแรงบ้าง เราก็บอกว่าอย่าไปสนใจ เราก็เชื่อว่าตัวนุ่นเองสามารถจัดการตัวเองได้ ดราม่าที่เขาเจอก็ล่าสุดอย่างเช่นดูแล้วทำไมไม่เห็นตลกเลย ตรงนี้ผมอยากจะบอกว่าการจัดการง่ายๆ เลยก็คือถ้าคุณดูแล้วไม่ชอบคุณก็แค่ไปดูอย่างอื่น ไม่จำเป็นต้องมาพูดอะไรไม่ดีบั่นทอนกันแบบนี้ เพราะว่าคนที่ชอบเขาก็มี”

“นุ่นเขาก็ไม่ได้เก็บเอาอะไรพวกนี้มาใส่ใจ ทุกวันนี้ก็คือเขาต้องหาเวลานอน เพราะว่ายังไม่ชินกับการที่ต้องตื่นเช้าไปถ่ายรายการ หรือวันหนึ่งต้องเจอ 2 งาน เรียกว่าอยู่ในช่วงปรับตัวและบูสต์ร่างกาย ตอนนี้สภาพเหมือนซอมบี้(หัวเราะ)”

พอนุ่นรับงานอื่นเยอะๆ มันทำให้เขาสมองเบลอๆ บ้างไหม? “อย่าว่าแต่ดำดงเลย บางทีเราก็เป็น กำลังจะออกไปเล่นลิเกแล้วแต่นึกอะไรไม่ออก เหมือนสมองไม่ทำงาน แต่เราก็ต้องเรียกพลังขึ้นมา เพราะว่าทุกๆ คืนทุกคนเขาก็เฝ้ารออยากจะดูเราเล่นลิเก เราก็ต้องทำผลงานหน้าเวทีให้ดีที่สุด สมองจะอ๊องแค่ไหนก็พยายามดันตัวเองไปก่อน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน