ร้อนแรงไม่พัก สำหรับหนุ่มฮอต ‘กลัฟ’ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ ที่ตอนนี้กำลังมาแรงกับบท ‘หม่อมหลวง ภูธเนศ จุฑาเทพ’ ในละครชุด “ดวงใจ เทวพรหม” เรื่อง “ลออจันทร์” ทางช่อง 3 ที่เป็นภาคต่อละครชุด “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” โดยจับคู่สุดจิ้นกับนางเอกสาว ‘จีน่า’ ญีนา ซาลาส ที่สวมบท ‘ลออจันทร์’
นอกจากจะมาแรงในด้านการแสดงแล้ว หนุ่มฮอต ‘กลัฟ คณาวุฒิ’ ยังติดปีกบินกับผลงานเพลงที่ขอเดบิวต์เป็นศิลปินเดี่ยวอย่างเป็นทางการ กับซิงเกิลล่าสุด “Congratulations (ยินดีกับเธอ)”
★ ก่อนหน้านี้เคยได้ดูละคร “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” บ้างไหม?
กลัฟ – “ผมมีโอกาสได้ดูเรื่องเดียวคือ คุณชายรัชชานนท์ ตอนนั้นเปิดทีวีแล้วเจอเรื่องนี้พอดี แล้วได้มารับบทเป็นหม่อมหลวงภูธเนศ จุฑาเทพ ลูกชายของคุณพ่อรัชชานนท์กับคุณแม่สร้อยฟ้าพอดี เป็นโชคชะตา”
“ซึ่งในเรื่องลออจันทร์ จะได้เห็นคุณชายรัชชานนท์กับคุณแม่สร้อยฟ้าที่โตขึ้นเป็นพี่ดอม (เหตระกูล) กับพี่ปูเป้ (รามาวดี) เป็นครอบครัวน่ารัก อบอุ่น ในส่วนของผมด้วยยุคสมัยเปลี่ยน ด้วยการเลี้ยงดูและการใช้ชีวิตก็จะมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้นคาแร็กเตอร์ผมจะไม่ได้เรียบร้อยคุณชายจ๋า จะมีความชิลตามยุคสมัย ไม่ได้เป๊ะขนาดยุคจุฑาเทพ”
★ กดดันแค่ไหนกับการรับไม้ต่อจากสุภาพบุรุษจุฑาเทพ?
กลัฟ – “กดดันมากครับ มันเหมือนต้องรอรับแรงคาดหวังจากทุกคน ถ้าเรื่องนี้ทุกคนประทับใจ เรื่องต่อไปทุกคนแฮปปี้แน่นอน สนุกไม่แพ้นิยายเลยครับ”
★ ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาในวงการ จนถึงวันนี้เราเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง?
กลัฟ – “ถ้าด้านการทำงานผมมีความรับผิดชอบและเข้าใจในรูปแบบงานได้มากยิ่งขึ้น มีประสบการณ์การทำงานมากขึ้น นอกจากการทำงานแล้วยังเรียนรู้ในเรื่องประสบการณ์การใช้ชีวิต ทำงานในวงการต้องเจอคนเยอะมาก และแต่ละคนนิสัยใจคอไม่เหมือนกัน ทำให้ได้เรียนรู้ว่าเราจะปฏิบัติตัว วางตัว และใช้ชีวิตในวงการปัจจุบันอย่างไร”
“ตอนแรกที่เข้ามา ผมอาจจะยอมหมด อะไรก็ได้ ใครจับอะไรมาใส่ได้หมด แต่พอทำงานมาเรื่อยๆ เรารู้แล้วว่าเราชอบอะไรไม่ชอบอะไร รู้ว่าอะไรอยู่บนตัวเราแล้วดี หรืออยู่บนตัวเราแล้วไม่มั่นใจก็ปรับเรื่องตรงนี้”
★ อะไรที่เราไม่มั่นใจ?
กลัฟ – “ด้วยผมเป็นคนหน้าหวาน เวลายิ้มคนจะคิดว่าผมเป็นเด็กน่ารัก ใสๆ ซึ่งผมพยายามพูดกับพี่ๆ แฟนคลับมาตั้งแต่แรกแล้วว่าผมไม่ใช่คนเรียบร้อย พอได้มาทำงาน แรกๆ อะไรที่มาใส่ในตัวเรา ก็เหมือนลองดูก่อนว่าโอเคไหม แต่พอลองแล้วไม่ใช่เรา หลังๆ มานี้เลยอยากได้อะไรที่เป็นไลฟ์สไตล์เราจริงๆ อยากให้พี่ๆ แฟนคลับเข้าใจ อย่างเช่น การแต่งตัว ทุกคนอาจจะเห็นผมมีมู้ดน่ารักค่อนข้างเยอะ พวกสีชมพู สีสดใส แต่ไลฟ์สไตล์เราจริงๆ ชอบโมโนโทน หลังๆ มาก็อยากจะปรับให้เป็นตัวเราจริงๆ”
★ เราหน้าหวาน ทำให้คนตีความหมายว่าเราต้องเป็นคนหวานๆ ไหม?
กลัฟ – “อาจจะมีแค่แว้บหนึ่ง ด้วยความที่เราก็เป็นเด็กผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ระหว่างสวยกับหล่อ เราก็อยากให้มองว่าเราหล่อ แต่ส่วนมากคนจะมองว่าเราสวย แต่เราก็เข้าใจและมองว่ามันเป็นข้อดีอีกอย่าง ก็คิดว่าเราก็แอบมีความยูนิเซ็กซ์อยู่ในตัว ที่จะไปทั้งพาร์ตสวยก็ได้ พาร์ตหล่อก็ได้”
“ซึ่งผมก็พยายามปรับไลฟ์สไตล์ตัวเองไปเลย ทุกวันนี้จะเห็นว่าไว้ผมยาวขึ้น เวลาแต่งตัวจะมีความแมนขึ้น มีความเป็นผู้ใหญ่ และมีความเป็นเด็กผู้ชายมากยิ่งขึ้น ที่ไว้ผมยาวเพราะอยากเปลี่ยนลุกส์ อีกอย่าง รู้สึกว่าถ้าผมสั้น มันจะมีความเป็นเด็กมัธยมอยู่ในตัว เลยไว้ผมยาวไปเลยดีกว่า ปีนี้อายุ 27 ปีแล้ว อยากโตขึ้น ไม่ได้อยากเป็นเด็กน้องน้อยตลอดเวลา”
★ ความดังสำหรับเรามาเร็ว ตกใจกับมันไหม?
กลัฟ – “มีครับช่วงแรกๆ พอยอดคนที่ชื่นชอบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มชิน แต่ตอนแรกๆ ตกใจ คือตอนนั้นเราก็ทำตัวปกติ เพราะไม่รู้ว่าคือดัง ไม่ได้มีประสบการณ์อะไรในวงการบันเทิงเลย ไม่รู้ว่าถ้ามาแบบนี้เราต้องทำตัวอย่างไร หรือวางตัวยังไง ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าต้องใช้ชีวิตยังไง ตอนนั้นแค่รู้สึกว่าเราเป็นเด็กผู้ชายคนนึง ที่ไม่เข้าใจว่าจะต้องวางตัวแตกต่างจากคนธรรมดาอย่างไร”
★ วางเป้าหมายกับอาชีพการเป็นนักแสดงอย่างไร?
กลัฟ – “ตอนนี้ก็จริงจังกับงานตรงนี้ ทำทุกๆ วันให้ดีไปก่อน แล้วค่อยมาดูว่าระหว่างทางเราเจออะไรบ้าง เจอสิ่งที่ชอบ สิ่งที่น่าสนใจหรือเปล่า ค่อยคิดในสเต็ปต่อไป ผมไม่สามารถบอกได้ว่าภายใน 5 หรือ 6 ปีทำอะไรอยู่ ผมแค่รู้สึกว่าไปทีละสเต็ป แต่มันก็ดีที่ผมได้เริ่มทำหลายๆ อย่างค่อนข้างเร็ว เลยทำให้ผมรู้ตัวว่าเราชอบอะไร อยากจะทำอะไร ซึ่งตอนนี้ผมชอบเรื่องงานเพลง เป็นทางแร็พ เรา มีแพสชั่นกับเพลงแร็พ อยากจะทำเพลงแร็พต่อๆ ไป จะมีภาพของการเป็นนักร้องมากยิ่งขึ้น”
“ปีที่แล้วได้คลุกคลีกับคนในวงการเพลงค่อนข้างเยอะ เลยทำให้มีแพสชั่น เพราะคนรอบตัวผมเขามีแพสชั่นสูงกันมากๆ เขาเข้ามาสุ่มๆ เลยทำให้เรามีแพสชั่นไปในตัวด้วย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่คิดว่าจะออกซิงเกิล ไม่อยากเป็นศิลปินจริงจัง แต่พอได้มาคลุกคลีช่วงปีที่แล้วทำให้เราเปลี่ยนมายด์เซ็ตในปีนี้ อยากเริ่มทำเพลงมากยิ่งขึ้น”
“ด้วยความที่ผมชอบเพลงแร็พมาตั้งแต่ตอน อยู่ม.4 ฟังก้านคอคลับ ฟังไทเทเนี่ยม มาตั้งนานแล้ว พอได้มาเจอ พี่กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ เขาก็เป็นหนึ่งในสมาชิกก้านคอคลับเหมือนกัน ก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกแฮปปี้มากกับงานตรงนี้”
★ กับเพลงแร็พ จริงจังแค่ไหน?
กลัฟ – “เต็มร้อยครับ ณ ตอนนี้นะ เพราะอยากเต็มที่ และคิดว่าน่าจะมีซิงเกิลต่อไปในปีนี้แน่นอน ซึ่งการเป็นนักร้องจะต่างจากนักแสดงในเรื่องการเอ็นเตอร์เทน ยากตรงที่เวลาคุณอยู่บนเวที แล้วคนจะมาดูคุณ เขาแฮปปี้ไปกับเพลงที่คุณร้องออกมาได้อย่างไร แล้วจะทำยังไงให้เขาสนุก”
“ผมว่าคนที่มาดูคอนเสิร์ตทุกคนอยากมาสนุก ผมเลยรู้สึกว่ามันยากที่จะทำให้ทุกคนสนุกไปกับเราได้ เอาจริงๆ นะ คอนเสิร์ตที่ผมไปขึ้นส่วนใหญ่ จะเป็นงานที่เกี่ยวกับแฟนคลับแฟนมีตติ้ง ซึ่งการที่เราไปโชว์ให้พี่ๆ แฟนคลับดู พี่ๆ เขาพร้อมจะซัพพอร์ตเราอยู่แล้ว แต่ถ้าเราไปเล่นให้กับคนที่เขาไม่ได้รู้จักเราดู แล้วเราจะทำอย่างไรให้พวกเขาเอ็นจอยไปกับเรา ซึ่งก็เคยได้ลองไปแล้ว มันก็ได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็อยากให้ได้ดีกว่านี้ อยากขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ที่มันแมส ถ้าเป็นไปได้ก็อยากไป”
★ เป้าหมายในการเป็นนักร้อง?
กลัฟ – “อยากทำไปเรื่อยๆ ก่อน ผมไม่ได้ตั้งเป้าว่าต้องมี เพลงดัง ที่ทำเพราะชอบแค่นั้น ถ้าดังขึ้นมาถือเป็นผลพลอยได้ เรารู้ว่าสิ่งที่เราชอบมันคือแร็พ ไม่ใช่ร้อง แล้วความแมสระหว่างแร็พกับร้อง แร็พสู้ร้องไม่ได้อยู่แล้ว เรา ไม่ได้หวังให้มันแมส เราแค่อยากทำ อยากสนุกกับมันเท่านั้นเอง”
★ อย่างซิงเกิลแรกที่เปิดตัว ถือว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง?
กลัฟ – “รู้สึกดีใจที่หลายๆ คนเปิดใจให้กับผลงานของเรา ด้วยเรามาจากดารา พอเริ่มมาทางเพลง คำครหามันมีเยอะมากๆ อยู่แล้ว คำดูถูกมาแน่ๆ ว่าเรื่องร้องเพลงไม่ใช่ความสามารถหรอก เป็นเพราะหน้าตา มันจะมีเรื่องพวกนี้เข้ามาเรื่อยๆ แต่หลายคนก็เปิดใจให้เราในพาร์ตของศิลปินมากยิ่งขึ้น ก็รู้สึกดีใจครับ”
★ เราเชื่อว่าความที่เป็น ‘กลัฟ คณาวุฒิ’ ไม่ได้ทำให้คนมาฟังเพลงเรามากขึ้น?
กลัฟ – “ใช่ครับ คนฟังส่วนใหญ่พูดตรงๆ ว่ามีแค่แฟนคลับ เราไม่ได้อยากให้คนมองเข้ามาว่าเราเป็นพระเอกช่อง 3 แล้วมาร้องเพลง แค่อยากให้เขาฟังเพลงเรา จริงๆ ไม่อยากให้เขารู้ด้วยว่าใครเป็น คนร้อง ถ้าเพลงดังแล้วเขามารู้ว่าเป็นเพลง ของกลัฟ คณาวุฒิ มันจะว้าวกว่าครับ”
“ตอนแรกเอ็มวี เพลง ‘Congratulations (ยินดีกับเธอ)’ ผมจะไม่เล่นเอ็มวีด้วยนะ ไม่อยากขายตัวเองด้วยอย่างหนึ่ง แล้วถ้าคนอื่นมาถ่ายทอด มันก็เป็นการถ่ายทอดอารมณ์ที่ไม่ใช่ตัวเรา ผมพอใจกับเพลงนี้ตั้งแต่ทำเพลงเสร็จแล้ว ไม่ได้หวังว่าเพลงนี้จะล้านวิวในช่วงเวลา 2-3 วัน เราแค่แฮปปี้ที่ได้ทำ พอได้ทำแล้วมีความสุข พอปล่อยออกไป ก็แล้วแต่แฟนคลับและคนฟังแล้วว่าเขาจะรู้สึกอย่างไรกับเพลงของเรา”
★ มาถึงวันนี้ เรียกว่าเราเข้าใจวงการบันเทิงมากขึ้น?
กลัฟ – “ใช่ครับ การใช้ชีวิตต่างๆ เปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ สมัยก่อนจะมีผลัดวันบ้าง แต่มาทุกวันนี้ เหมือนได้ทำงานเยอะมากขึ้น รู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นทุกวันด้วย เวลาที่มันเสียไป ไม่อยากให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์”
อนงค์ จันทร
