ใครจะว่าตกอับ? ชูษี เชิญยิ้ม เหตุต้องไปอาศัยอยู่วัด ทำไมเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ ลั่นมารอความตาย เผยชีวิตพลาด เหลือเฟือ พิสูจน์หลวงพ่อสิ้นคิด ไม่มีอะไรบังเอิญในโลกนี้

เหลือเฟือ มกจ๊ก บุกไปเยี่ยมเยียน ชูษี เชิญยิ้ม ตลกรุ่นพี่ซึ่งไปอยู่ที่วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์ จ.อุบลราชธานี โดยเผยคลิป “ชูษี เชิญยิ้ม เผยเหตุที่ต้องไปอาศัยอยู่ที่วัด เปลี่ยนเป็นคนละคนเลย!” ทางช่องยูทูบ เหลือเฟือ ชาเเนล

โดยเดินทางไปที่วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์ บรรยากาศอยู่บนเขาเงียบสงบ ร่มเย็น รายล้อมไปด้วยป่า เหลือเฟือ บอกว่า มีคนถามมาเยอะว่า พี่ชูษี ทำไมต้องมาอาศัยอยู่วัด เลิกเล่นตลก เล่นละครแล้วเหรอ

ถาม ชูษี จากเสือตัวหนึ่งกินเหล้าดูดบุหรี่เที่ยวหญิงกัญชาด้วย วันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ชูษี ตอบว่า เสือ 11 ตัวด้วย
พร้อมย้อนประวัติชีวิตเข้าวงการ เป็นนักร้องวงลูกทุ่ง หลายวง อยู่กับวง สายัณห์ สัญญา โดนไล่ออกเข้ามาใหม่ไล่ออกหลายรอบ เพราะเมา จนมาอยู่วง ศรชัย เมฆวิเชียร เริ่มเป็นตลก

ปี26 เริ่มเป็นตลกคาเฟ่ และปี29 เข้ามาเป็นเชิญยิ้ม คณะเดียวกับ พี่โน้ต พี่เป็ด พี่สีหนุ่ม พี่อ้วน พี่เรย์ โดย ชูษี เข้ามาเป็นตัวที่6 เชิญยิ้มยุคอวกาศ จนมาเป็นคณะตัวเอง

ถามว่าชีวิตน่าจะรวยกว่าใคร คนเลยสงสัยถามทำไมมาอยู่วัด บ้านโดนยึด ตกอับเหรอ ทำไมถึงมาอยู่วัด กับ หลวงตาสินทรัพย์ หรือ หลวงตาสิ้นคิด ชูษี ตอบว่า ไม่ได้คิดว่าจะมาอยู่หรอก ผู้พิพากษาแต่งเพลงให้ร้องให้หลวงตา แล้วหลวงตาให้เรียก ชูษี มาบอกรู้สึกมีทุกข์ในใจ

ครั้งแรกปี 61 ชูษี มาหาหลวงตา ก็ยังไม่ลงใจอะไร จากนั้นหลวงตาก็เรียกให้มาอีก ให้แคนเซิลงานจะให้มากกว่า ก็ไม่ได้เห็นแก่เงิน แต่อยากอยู่ใกล้ชิดพระรูปนี้

ตั้งแต่นั้นมาก็ซึมซับ ตอนมาอยู่ 4-5 วัน มีอยู่ครั้ง ออกจากวัดร้องไห้โฮ กราบลาหลวงตา ไม่รู้เป็นอะไร
หลวงตาบอกไม่มีอะไรบังเอิญในโลกนี้

หลวงตาบอกพูดอะไรมากไม่ได้ กูไม่กลับมาเกิดแล้วนะ ชาตินี้มึงไม่เจอกูแล้ว เขาพูดมีนัยยะเราก็ไม่เข้าใจ แล้วแต่มึง คนเราอยู่ที่บารมี คือ นิสัย

เหลือเฟือ ยอมรับอยากมาพิสูจน์ มากราบหลวงตา ทำไม ชูษี คนที่เที่ยวอยู่กับกูถึงปลงได้ขนาดนี้ ทำไมพี่ษีเปลี่ยนไปขนาดนั้น โพสต์สอนสิ่งไม่ดี พี่ดีแล้วเหรอถึงไปสอนคนอื่น

ชูษี ตอบว่า ไม่ดี พี่ไม่ได้สอน มันเป็นธรรมะของหลวงตา ครูบาอาจารย์ เราไม่ได้สอน อยากเตือนศิลปินมากกว่าอย่าประมาท

ทุกวันนี้พี่ไม่แตะเหล้าเลย ไม่แตะกัญชา แต่บุหรี่ยังสูบ หลวงตาไม่ธรรมดา คนๆเดียว เลี้ยงคนเกือบ 700 คน ตอนนี้นิสัยสันดานเราจากหนักเป็นเบา จากบางครั้งโมโห ตอนนี้ก็ช่างมัน

ทุกวันนี้อยู่ที่นี่ ถามว่าเล่นละครไหม สัจจะกับหลวงตาไว้ ถ้าออกจากวัดต้องมี 5 หมื่น ก็เหมือนกับไม่เอา เดี๋ยวจะหาว่าเราหยิ่ง รายการทีวีอะไรก็ 5 หมื่น ต่อวัน

มานั่งคิดดูมันแสวงหาอะไรกัน ชีวิตกินขี้ปี้นอนวนเวียน ไม่ใช่เราไม่มี แต่เราไม่พอ กามราคะ ที่เราเหนื่อยทุกวันนี้ ที่เราแสวงหา ไม่ใช่ไม่มี เราไม่พอต่างหาก ไม่อยากเป็นแบบพี่หนุ่ม (สีหนุ่ม) ทำงานตรงนั้น ตายตรงนั้น เป็นอัมพฤกษ์อัมพาต หรือตลกหลายๆคน

“พระสิ้นคิดคืออะไร เราจะคิดว่าไอ้สิ้นคิด แต่จริงๆ สิ้นคิด คือ ไม่ต้องคิด อย่าไปคิด”

“ข้าวมื้อหนึ่งก็อิ่ม จะต้องไปดิ้นรนทำไม มันใกล้ตายแล้วไง มาอยู่วัด พี่ 63-64 แล้ว จะถึง 70 ไหม ถ้าตายพรุ่งนี้จะทำยังไง ถ้าไม่ได้ปฏิบัติ นรกนะ เราใช้ชีวิตประมาท”

“ตลกดังๆทุกข์ทั้งนั้น เมื่อก่อนพี่นั่งปฏิบัติ 5-10 นาทีอึดอัดมาก เดี๋ยวนี้ครึ่งชั่วโมงจิ๊บๆมาก นั่งปฏิบัติเป็นชั่วโมง วันละหลายรอบ อยู่ที่ไหนก็ทำ”

หลวงตาไม่เคยข่ม ไม่เคยด่า ไม่เคยสอน หลวงตาพูดแต่ความเป็นจริง หลวงตาเคยพูด ป๋าเทพ ลดอัตตา คือจบเลย ทุกคนมีอัตตา มีทิฐิ มีอีโก้ แต่ไม่รู้ตัวเอง

“ชีวิตพลาดตั้งแต่ อ๊อด ปากดี คนก็ด่าเอาไอ้อ๊อดมาหากิน เอาเด็กติ๊งต๊องมาชุบมือเปิบ ดูตอนนี้ไอ้อ๊อด มีรถมีบ้าน ษี อยู่วัด”

“ใครจะว่าเราตกกระป๋อง มาหากินกับพระ ก็ครับ ทุกอย่างยอมรับ จบที่เราเบาที่สุด กูไม่ตอบโต้มึง”
โดยพาชมบริเวณรอบวัดป่า ที่นั่งภาวนาพัฒนากรรมได้ทุกที่ กลางคืนเงียบสงัด

มาอยู่ที่วัดแล้วได้อะไร ชูษี บอกว่า “ไม่ได้อะไรหรอก มารอความตาย มาฝึกตาย มาทำลายตน คนเกิดมาสำคัญตัว สำคัญตน เพราะความคิด กิเลสตัณหา”

อยากให้พี่น้องศิลปิน อย่ามัวทำงาน หาเงิน จนลืมเวลา ค้นหาใจตัวเอง ก่อนตาย อย่าตายฟรี ก่อนตายให้นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จิตสุดท้ายนึกถึงอะไรก็ไปเกิดอย่างนั้น

“ใครจะเชื่อเรื่องกรรมหรือไม่ แต่ผมเชื่อ ผมเชื่อเรื่องความเป็นจริง กรรมคือการกระทำ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน