อีกหนึ่งความภูมิใจของคนไทยที่ดังไกลระดับโลกอย่าง ‘แบมแบม’ กันต์พิมุกต์ ภูวกุล ออกมาเปิดเผยเรื่องเหนื่อยที่สุดในชีวิต ต้องโดนเปรียบเทียบ ใช้เวลา 10 ปีกว่าจะถูกยอมรับที่เกาหลี

ล่าสุดเปิดใจในรายการ WOODY FM ถึงเรื่องราวหนักที่สุดในชีวิต เคยโดนเปรียบเทียบกับ ‘นิชคุณ’ และโดนดราม่าว่าไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในวง “GOT7” ต้องใช้เวลาถึง 10 ปีกว่าจะเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับที่เกาหลี พร้อมคอนเฟิร์ม GOT7 คัมแบ๊กแน่นอน ดูดวงชีวิตการทำงานแล้ว!

รู้สึกว่าที่ผ่านมา ‘แบมแบม’ จะมีดราม่าเรื่อยๆ เคยสังเกตไหมว่าเราเจอเยอะกว่าคนอื่น? “เรื่องนู่นนี่ไร้สาระครับ จะบอกว่าหลังจากที่ชีวิตโซโล่ผมเริ่มคลี่คลาย เริ่มโดนเยอะ ช่วงแรกก็แคร์นะครับ แต่ว่าหลังๆ เริ่มไม่แคร์แล้ว การที่มีคนเข้ามาเกลียด มันคือคนที่เราเป็นศูนย์กลางของกระแสแล้ว คนเขาก็สนใจเราตลอด 24 ชั่วโมง แต่คนที่ไม่มีคนเกลียดเลยก็คือ ไม่มีคนสนใจ ซึ่งมันไม่ใช่ผมคนเดียวนะ ผมอาจจะอ่านทุกภาษาออก มันเลยจะรู้สึกว่าผมโดนเยอะหน่อย แต่ตามจริงวงอื่นเขาก็โดนเยอะเหมือนกัน ซึ่งโดนเยอะกันอย่างนี้ทุกคน

คุณจัดการยังไง? “ตอนนี้เริ่มไม่แคร์นะครับ ด่ามาผมก็ด่ากลับตลอดเลย(หัวเราะ) อาจเป็นอะไรที่ไม่เข้ากับอาชีพของผมมาก ผมก็มีใช้คำหยาบบ้างนะบางที เพราะว่าเขาไม่เคารพเราก่อน เราก็สามารถไม่เคารพเขากลับได้ มันก็หนึ่งต่อหนึ่ง”

หลังๆ ปล่อยผ่านไหม?มีปล่อยผ่านเยอะครับ แต่จริงๆ คนพวกนี้เวลาเจอตัวจริง ทำไรไม่ได้เลยนะ แบบแข็งทื่อ ผมก็เลยแบบพวกคนที่เกลียดเรา บางทีก็ไม่ชอบเขาเอาจริงๆ ก็คือไม่มีคงดีกว่า แต่ว่าถ้ามีบางทีก็รู้สึกขอบคุณบ้าง ผมก็เคยมีช่วงที่ผมคิดว่าเขาต้องโตมากับสภาพแวดล้อมแบบไหน เขาต้องขาดความสนใจหรือความรักมากขนาดไหนถึงเป็นยังงี้ แต่หลังๆ มาผมก็คิดว่าคนพวกนี้ไม่ควรได้ความเมตตา ไม่รู้สิผมรู้สึกว่าความเมตตาหรือว่าความรัก ผมจะให้คนพวกนี้ทำไม ให้คนของเราผมยังให้ได้มากไม่พอเลย แล้วผมจะแชร์ให้กับคนพวกนี้ทำไม ปล่อยมันไป

กว่าจะเป็นศิลปิน หลายคนอาจจะมองว่าเป็นความสวยงาม แต่ความกดดันที่มันเกิดขึ้นมันหนักไหม? “ถามว่าหนักไหม ก็หนักนะ มันหนักในช่วงแรกๆ แต่ช่วงนี้พอมีแผนในอนาคตตลอด มีเป้าหมายใหม่ ที่ผมตั้งทุกอย่าง มันจะราบรื่นตลอด แต่กับตอนที่เขาสั่งให้เราทำอะไร เราทำตามเขา ตอนนั้นจะเป็นช่วงกดดัน บางทีสิ่งที่เขาสั่งให้เราทำ เรารู้สึกได้ว่าอันนี้กระแสตอบรับมันไม่น่าจะดี แต่พูดอะไรไม่ได้เราก็ต้องทำตาม แต่ว่าพอคนที่ร่วมงานกับผม ทางแฟนคลับ เขาเริ่มที่จะยอมรับในตัวตนกับสกิลของผม เริ่มเชื่อมั่นกันและกันมากขึ้น

“พอเรารู้ว่าเป้าหมายของเราคืออะไร สิ่งที่อยู่ในหัว หรือสิ่งที่ผมจะทำมันลงไปเพื่อเป้าหมายนั้นโดยเฉพาะ ซึ่งมันทำให้กดดันน้อยลงนะ สมมติว่าผมทำเพลงออกมาแล้วรู้สึกว่ามันไม่พอที่จะไปถึงเป้าหมายนั้นได้ ผมว่ายังไม่ปล่อยเพลงเลยดีกว่า ก็ทำใหม่เรื่อยๆ จนกว่ามันจะออกมา ซึ่งไม่ค่อยกดดันสักเท่าไหร่ครับ อาจจะมีคลาดจังหวะที่ดีที่สุดบ้าง เพราะจังหวะที่ดีที่สุดมันเป็นเวลาที่เราสามารถสร้างเองได้ครับ ซึ่งกดดันน้อยลงแล้วก็เริ่มเอ็นจอยกับงานมากขึ้นครับช่วงนี้”

อะไรที่คุณไม่ชอบ?การพูดครับ เมื่อก่อนต้องอ่านสคริปต์ ต้องตามสคริปต์อยู่ตลอด ซึ่งผมไม่ค่อยชอบ ผมเริ่มที่จะได้รับความสนใจมากขึ้นที่เกาหลี ได้ไปออกรายการเยอะๆ หลังจากที่ผมเริ่มไม่อ่านสคริปต์ครับ(หัวเราะ) เพราะทุกอย่างมันจริงใจไงครับ คนดูเดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะประเทศไหนเขาดูรู้ครับ ว่าตอนนี้จริงใจ หรือตอนนี้เขาเฟคอยู่ ยุคนี้เป็นแบบนี้แล้ว เมื่อก่อนสคริปต์อาจจะปลอดภัยกว่า แต่ถ้าหัวใจของเรามันบริสุทธิ์จริงๆ พอไม่มีสคริปต์ก็ไม่อันตรายครับ

เรื่องยากที่สุดในชีวิต ตอนที่ไปเดบิวต์อยู่ที่โน้นตอนฝึกยากที่สุดไหม?ยากครับ ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อยครับ แต่ผมก็เอ็นจอยกับช่วงเวลานั้นๆ เพราะว่าผมก็ได้เรียนรู้หลายๆ อย่าง ผมว่าน่าจะมีช่วงเวลาหนึ่งที่เดบิวต์ใหม่ๆ แล้วคนแรกที่เดบิวต์คือพี่นิชคุณที่เป็นคนไทย คือพี่เขาหุ่นดี พี่เขาหล่ออยู่แล้ว แต่ตอนที่ผมเดบิวต์แรกๆ คือเหมือนโดนเปรียบเทียบเยอะครับผม GOT7 ทุกคนดูดีหมด”

“แต่พอผ่านผมแล้วทำไมต้องเอาคนนี้ใส่เข้าไปในกลุ่ม การที่ได้ฟังคำแบบนั้นช่วงแรกๆ รู้สึกว่าจากที่เด็กฝึกตอนนั้นในค่าย JYP ยอมรับกับสกิลของผมมาก เขาไม่ได้ชมมั่ว เขาไม่ชอบอะไร ก็บอกไม่ชอบ ถ้าเขาชอบแล้วก็จะบอกว่ามันดี ในเด็กฝึกผมจะอยู่เป็นตัวท็อปมาตลอด ไม่ว่าจะทำอะไรเรื่องงาน เรื่องซ้อม เรื่องเต้น เรื่องทัศนคติ ซึ่งตอนเป็นเด็กฝึกทำให้ผมมั่นใจมาก”

“แต่พอเดบิวต์แล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย พอมาเจอโลกจริงแล้วแบบมันเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ก็น่าจะมีแค่ช่วงนั้น ถ้าต้องเลือกที่เหนื่อยที่สุดนะครับ แต่ผมก็เอ็นจอยกับตรงนั้น ผมก็เลยเอาความแค้นตรงนั้นมาเปลี่ยนเป็นพลัง เพื่อผลักดันตัวเองครับผม เพราะว่าผมเพิ่งจะได้ยอมรับที่ประเทศเกาหลีจริงๆ เลยน่าจะเป็น 3 ปีที่แล้ว”

ตอนนี้ผมอยู่เกาหลีหรืออยู่ไทย คือไปไหนก็มีคนรู้จัก เพราะตอนนี้มันเริ่มบาลานซ์กันแล้ว ตอนแรกผมไปเกาหลีไม่มีคนรู้จักเลยครับขนาดเดบิวต์ไปประมาณ 7 ปีแล้ว ยังไม่มีคนรู้จักเลย มีแค่แบบในวงการ K-POP เท่านั้น แต่เวลามาไทยไปไหนมาไหนหลายๆ คนจะรู้จักผมอยู่แล้ว แต่พอมันเริ่มบาลานซ์ผมก็เริ่มที่จะไม่ชินกับการที่คนเริ่มรู้จักผมที่เกาหลี”

แปลกมาก คือเรารู้ว่า GOT7 ดังระดับโลกแต่ว่าในเกาหลีเองเขาก็อาจจะไม่ได้ติดตาม K-POP ทุกคน? “เป็นไปได้ครับ ก็ 10 นะครับกว่าจะได้การยอมรับที่เกาหลีแบบนี้ครับ นานมากครับ”

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสมาชิก GOT7 อากาเซ่มีความต้องการเหลือเกินที่จะให้มีการมารวมตัว มีการคุยกันบ้างไหม? “มีการคุยกันเรื่อยๆ ครับผม ถามว่ากดดันไหม ก็กดดันครับ เราจะกดดันที่ว่าจะสามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับแฟนคลับได้ไหม ทั้งในเรื่องของเวลาด้วย ซึ่งตอนนี้มี 2 คนที่เป็นทหารอยู่ เราต้องรอให้เขาออกมาก่อน คือตอนนี้ก็มีหน้าที่ของแต่ละคนที่ต้องทำอะไรเยอะ เราก็เลยปล่อยให้ปีนี้เป็นช่วงที่ให้ทุกคนโฟกัสกับเรื่องของตัวเองไปก่อน แล้วพอ 2 คนออกจากกรมแล้วค่อยมาว่ากันอีกที คือจริงๆ ผมรับปากว่าจะกลับมารวมแน่นอนอยู่แล้ว คือเพลงอะไรออกมาหมดแล้ว ทำเสร็จเรียบร้อย รอแค่เวลาที่เหมาะสมเท่านั้น

แปลว่าอาจจะปี 2025? “ส่วนตัวผมคิดว่าแพลนที่ผมคิดว่าเป็นเวลาที่ดี คือต้นปี 2025 หรือว่ากลางปี 2025 ประมาณนั้นครับ”

ในชีวิตเคยดูดวงไหม?ดูครับผม เดบิวต์แรกๆ ก็ดูครับ แล้วก็ไม่ได้ดูอีกเลย แล้วก็เพิ่งไปดูมาล่าสุดเมื่อต้นปีนี้ครับ เพราะว่าปีนี้มีอะไรหลายๆ อย่างที่ต้องทำ นานๆ ทีก็ลองดู”

ดูกับหมอไทยหรือต่างชาติ? “เกาหลีครับผม เขาจะเป็นคล้ายๆ ร่างทรง ไม่ได้ถึงขั้นเข้า แต่ละที่เขาก็จะดูแตกต่างกัน แต่ว่าที่ๆ ผมไปดูเขาจะรับแค่ 50,000 วอน ถ้าเกินเขาบอกว่าจะโดนทรงของเขาทำโทษอะไรแบบนี้ครับ เขาก็จะจับเงินที่ผมให้แล้วก็ดูใบหน้าด้านซ้าย ด้านขวา เขียนชื่อวันเดือนปีเกิด แล้วเขาก็จะเริ่มวาดในกระดาษของเขา เขียนเป็นภาษาจีนบ้าง ภาษาเกาหลีบ้าง เป็นตัวเลขบ้าง ก็วาดไป 2-3 ใบ แล้วก็จะเริ่มพูดจากที่เขาเห็นก่อน ประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นเขาก็จะให้ผมถามได้ 2-3 คำถามเท่านั้น ผมก็ถามไป แล้วเขาก็จะเอาที่วาดนั้นล่ะครับมาตอบกับผม ก็สนุกดีครับ”

คุณอยากรู้เรื่องอะไรในปีนี้ แชร์ได้ไหม? “ได้ครับ จริงๆ ผมก็ไม่ได้ถามอะไรมาก ถามเรื่องเวิลด์ทัวร์ แล้วก็ถามถึงว่าจนกว่าผมจะอายุ 30 ผมควรเป็นห่วงในเรื่องอะไร และเรื่องวันจัดคอนเสิร์ตอังกอร์ที่ประเทศไทยที่กำลังเตรียมตัวอยู่ตอนนี้ครับ ผมไม่ได้สงสัยอะไรในเรื่องส่วนตัว”

ส่วนใหญ่เขาจะถามกันว่าจะมีแฟนไหม? “ผมไม่ถาม เพราะว่าเรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับดวง มันอยู่ที่ว่าถ้ามีคนที่ใช่เข้ามาก็ใช่ ถ้าตอนนี้เรามีเวลาพอที่จะสามารถเทคแคร์คนอื่นได้ก็อาจจะหาโอกาสให้ตัวเองบ้าง แต่ว่าตอนนี้ผมยังไม่ได้กลับเกาหลีมาประมาณ 4 อาทิตย์แล้วครับ บ้านผมก็จะร้างแล้วครับ(หัวเราะ) หลังจากเริ่มเวิลด์ทัวร์มาเพื่อนก็ไม่ได้เจอครับผม ส่วนใหญ่ก็จะอยู่กับทีมงาน แดนเซอร์ และทีมค่ายผมมากกว่า”

สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.

คลิกชมย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=HFZwbks6VGI&ab_channel=WOODY

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน