นางเอกสาว ‘ปุ๊กลุก’ ฝนทิพย์ วัชรตระกูล เลือกรับงานมากขึ้น หลังใช้ชีวิตและทำงานหนักแบบหุ่นยนต์ มาตลอด โดยเจ้าตัวได้มานั่งวิเคราะห์และคุยกับตัวเอง ทำให้เติบโตขึ้น

ซึ่งวันนี้นางเอกสาวได้มาเปิดใจถึงการทำงานของตัวเอง รวมถึงความรักกับแฟนหนุ่ม ‘ไมค์’ ภัทรเดช สงวนความดี ที่ผ่านเรื่องราวดราม่ามามากมาย จนตกตะกอนเป็นรักที่มั่นคง

อาทิตย์ใส - ‘ปุ๊กลุก’บาลานซ์ชีวิต ได้คุยกับตัวเองทำให้เติบโต

งานตอนนี้ที่ทำมีอะไรบ้าง?

ปุ๊กลุก – “กำลังจะทำธุรกิจผลิตภัณฑ์ Lardy vita vitamin Plus ค่ะ หนูว่าในยุคนี้คนดูแลสุขภาพกันมากขึ้น แล้วส่วนใหญ่หนูมีเพื่อนผู้หญิงที่อายุ 30 ขึ้น ปัญหาที่เจอบางคนก็ใกล้วัยทอง อารมณ์สะวิง บางคนประจำเดือนมาไม่ปกติ โรคเกี่ยวกับสมดุลของผู้หญิง ถ้าจะให้ทุกคนออกกำลังกาย ให้ทุกคนกินดี นอนพักผ่อนเพียงพอ มันไม่ได้ทำได้ ทุกคน เลยหาตัวช่วยที่มาช่วยปรับสมดุลร่างกายของผู้หญิง เป็นการบำรุงจากข้างในมาข้างนอก”

คิดเยอะไหม กว่าจะออกผลิตภัณฑ์ตัวนี้?

ปุ๊กลุก – “คิดเยอะค่ะ โชคดีที่หนูมีพี่ๆ ทีมพาร์ตเนอร์ดี ช่วยคัดเลือกข้อมูลแล้วก็มาให้เราสกรีน ช่วยหาโรงงานที่ดีที่สุด หาเภสัชที่คิดว่าเก่งที่สุดมาคิดสูตร มาพัฒนาสูตร เราก็มีความหวังว่าถ้าคนที่ทานแล้วเขารู้สึกว่าดีขึ้น ไปบอกต่อ และกลับมาซื้อซ้ำ หนูเชื่อว่าถ้าสินค้าเราดีจริง มันจะอยู่กับเราไปตลอด แล้วไม่เกี่ยวกับเรื่องยุคสมัย ยาสตรีมีคู่กับคนไทยมานานมาก เราไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่มากับกระแส แต่ของเราเป็นผลิตภัณฑ์เรื่องการปรับสมดุลในร่างกายผู้หญิง”

อาทิตย์ใส - ‘ปุ๊กลุก’บาลานซ์ชีวิต ได้คุยกับตัวเองทำให้เติบโต

นอกจากธุรกิจผลิตภัณฑ์นี้แล้ว ยังมีทำอะไรอีกไหม?

ปุ๊กลุก – “เตรียมทำสตูดิโอ เพื่อไว้ถ่ายโฆษณาและเช่าถ่ายละคร เราทำงานในวงการนี้มานาน รู้ว่าตลาดนี้ต้องการอะไร ตอนนี้กำลังมองหาที่ดินกันอยู่ มองรอบๆ กรุงเทพฯ อันนี้เป็นธุรกิจที่ทำด้วยกันตัวแรกกับคุณไมค์ ก่อนโควิดคุณไมค์เขาทำกาแฟ ส่วนหนูทำคุชชั่น (Cushion) แต่พอโควิดมาทุกอย่างมันขายยาก ก็ต้องหยุดไป”

อาทิตย์ใส - ‘ปุ๊กลุก’บาลานซ์ชีวิต ได้คุยกับตัวเองทำให้เติบโต

แล้วงานแสดงล่ะ เมื่อก่อนเล่นละครเยอะมาก แต่อยู่ๆ ห่างจอ นานๆ จะมาที?

ปุ๊กลุก – “หนูมองว่าเราควรแบ่งเวลา ถ้าถ่ายละครพร้อมกัน 2 เรื่อง หนูเสียเวลาอยู่กับตรงนั้นทั้งวัน ไม่มีทางทำงานอย่างอื่นได้ เคยทำแล้ว ช่วงพักเบรกตอนกลางวัน มานั่งคุยงาน รู้สึกมันเหนื่อย เราอาจจะรวยแหละถ้าทำแบบนั้น แต่เราจะไม่มีความสุข เพราะเราไม่ได้เสพความรู้สึกที่ได้พักผ่อนเลย ตอนนี้เลยเลือกถ่ายละครวันพฤหัสบดีถึงวันอาทิตย์ หรือจันทร์ถึงพุธ อีกส่วนก็แบ่งเวลาให้กับการดูแลตัวเอง การท่องเที่ยว และธุรกิจ บางทีทำงานน้อยลงก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้เงินน้อยลง”

อาทิตย์ใส - ‘ปุ๊กลุก’บาลานซ์ชีวิต ได้คุยกับตัวเองทำให้เติบโต

อาทิตย์ใส - ‘ปุ๊กลุก’บาลานซ์ชีวิต ได้คุยกับตัวเองทำให้เติบโต

“หลายๆ ปีมานี้ลองทำงานน้อยลง แต่วางแผนมากขึ้น เข้าใจกับงานที่ทำมากขึ้น กลับทำให้เราได้เงินมากกว่า และงานมีคุณภาพมากกว่า เพราะเรามีเวลาพัก มีแรงคิด การที่เราแบ่งเวลาแบบนี้ทำให้มีเวลาให้กับตัวเอง กับธุรกิจ รวมถึง ความสัมพันธ์ แต่ก่อนไม่มีเวลาจะมาคุยกันเรื่องความรู้สึกแต่พอโตขึ้น มีเวลา มีการพูดคุยกันมากขึ้น ทำให้ความสัมพันธ์เรายิ่งดีขึ้น มีเวลาคุยทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน”

ตั้งแต่คบกัน เราดูแลไมค์จนเขามีการเปลี่ยนแปลงถึงขนาดนี้ รู้สึกยังไงบ้าง?

ปุ๊กลุก – “ดีใจค่ะ เวลาไปเจอเพื่อนๆ ของเขาทุกคนก็จะเห็นการคบหาของคู่เราดึงกันไปในทางที่ดี คุณไมค์จะมีความอดทน ผ่อนผันในทุกๆ เรื่อง เป็นคนมีความเมตตาสูง บางทีเลือกที่จะไม่ ตามงานเพราะสงสารเขา เราต้องกลับมาจูนกันใหม่ว่างานคืองาน เมตตาคือเมตตา มันก็ทำให้เขามีการแพลนมากขึ้นในการจะทำอะไรซักอย่างนึง มีมุมมองความคิดที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีเป้าหมายที่ชัดขึ้น”

อาทิตย์ใส - ‘ปุ๊กลุก’บาลานซ์ชีวิต ได้คุยกับตัวเองทำให้เติบโต

มีช่วงหนึ่งดราม่า ที่บอกว่าพอไมค์มาคบปุ๊กลุก ทำให้ไมค์เปลี่ยนไป?

ปุ๊กลุก – “มันต้องเปลี่ยนอยู่แล้วในการใช้ชีวิตร่วมกัน เพราะการคบกันมันเป็นความสัมพันธ์ของคนสองคน ต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของทั้งสองฝ่าย หนูว่าอะไรบางอย่างมันไม่สามารถตัดสินได้ในระยะเวลาสั้นๆ และเราฉลาดมากพอที่จะรู้ว่าเราควรจะเปลี่ยนอะไรเพื่ออะไร ถ้าบอกให้เขาเปลี่ยนในสิ่งที่ไม่ได้เป็นเขาเลย หนูเชื่อว่าเขาคงถามว่าให้เขาทำแบบนี้เพื่ออะไร เพราะฉะนั้นทุกอย่างมีเหตุและผลในการตัดสินใจร่วมกันเสมอ 100% ของหนูและ 100% ของไมค์ เราต่างหวังดีซึ่งกันและกัน”

ตั้งแต่คบกับไมค์ รู้สึกว่าอารมณ์เราเย็นลงไหม?

ปุ๊กลุก – “เย็นลงค่ะ หนูเป็นคนใจร้อน ตัดสินใจเร็ว เป็นคนทำทุกอย่างเร็วหมด การที่มีเขามาอยู่ข้างๆ เขาจะเป็นคนคอยตบลง บางครั้งพอกลับจากทำงาน จะบอกเขาว่าฉันพูดอย่างนี้นะ เขาก็จะบอกว่ารอบหน้าอย่าพูดอย่างนี้ เธอไม่ต้องพูดว่าเธอรู้สึกอย่างไร เธอแค่บอกว่าเอฟเฟ็กต์ของงานมันเป็นอย่างไร ตอนหลังเราเลยเป็นคนไม่พูดทันที กลับมาถึงบ้านก็จะโทร.หาเขาก่อน บอกว่าวันนี้เจอปัญหานี้ เขาก็จะให้คำแนะนำ เพราะทุกๆ ครั้งที่เราตัดสินใจด้วย ตัวเอง ช่วงแรกมันทำให้เรารู้ว่ามีข้อผิดพลาด เรารู้ว่าถ้าเกิดมีเขาอยู่ตรงนั้น มันย่อมดีกว่าเสมอ เพราะเขาคือตรงกลางที่ดีจริงๆ”

อาทิตย์ใส - ‘ปุ๊กลุก’บาลานซ์ชีวิต ได้คุยกับตัวเองทำให้เติบโต

คู่เราผ่านอะไรมาเยอะมาก มันก็มีจังหวะชีวิตที่เหมือนจะปล่อยมือกัน?

ปุ๊กลุก – “ต้องขอบคุณเขา ในวันที่สติเราไม่คบร้อย เขาไม่เคยปล่อยมือเราเลย เขาเป็นคนดี ตอนนั้นเรารู้สึกว่าอะไรที่ตัดทิ้งได้ตัดทิ้งดีกว่า ถ้าอะไรที่ทำให้รู้สึกไม่มั่นคงทางด้านจิตใจ หรือทำให้เราสลวน เราพร้อมจะตัด ตอนนั้นแม่ป่วย แค่เขาไม่มาเยี่ยมแม่เรา เธอไม่รักแม่เราเหรอ ซึ่งตอนนั้นคุณไมค์มีปัญหาปวดหลังหนักมาก เดินไม่ได้ แต่เราคิดว่าก็มีบางวันที่เดินได้ไง ชีวิตในตอนนั้นเราเห็นปัญหามากกว่าอย่างอื่น ในชีวิตรอบตัวเรา เรามองแค่ว่าทำไมไม่ มากกว่าที่เราจะเห็นว่าด้านนี้ดีเนอะ”

“จริงๆ ไมค์อยู่ในสมอลล์ทอล์กตลอด สมมติหนูตื่นมา 9 โมง เขาจะอยู่กับหนูถึงเที่ยงคืนตีหนึ่ง ถ้าหนูวางสาย เขาจะโทร.มาหาใหม่อยู่แบบนี้ทั้งวัน ถึงตัวเขาจะไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาล แต่เขาอยู่กับเราตลอด หมอพูดอะไรกับเราเขาได้ยินทุกอย่าง จะมีคนสักกี่คนรักเราในเวอร์ชั่นที่เราไม่พร้อมจะทำอะไรทุกอย่าง จุดนั้นแหละ ทำให้เรารู้สึกว่าเขาดี เราเจอกันในทุกเวอร์ชั่น วันที่เราแย่ที่สุด เขาก็มั่นคงไม่ไปไหน มันไม่ได้ง่ายกับการที่เราจะเจอคนที่หวังดีกับเราทุกช่วงเวลาชีวิตของเรา”

จะได้เห็นงานแต่งคู่เราแน่นอน?

ปุ๊กลุก – “จริงๆ อยากแต่งทั้งคู่ แต่เป็นเรื่องของความพร้อมในเรื่องความมั่นคงระยะยาว การวางแผนธุรกิจด้วย ตอนนี้มีแพลนหลายอย่าง แล้วถ้าต้องมาแพลนเรื่องแต่งงานแพลนเรื่องชีวิตคู่มันจะกลายเป็นวุ่นวาย ทุกวันนี้ต่อให้แต่งหรือไม่แต่งเราก็ซัพพอร์ตกันอยู่แล้ว คุยกันทุกเรื่อง ไม่มีเรื่องไหนในชีวิตหนูที่ไมค์ไม่รู้ และไม่มีเรื่องไหนในชีวิตไมค์ที่หนูไม่รู้ แล้วมันไม่มีผลอะไรกับการที่เราจะแต่งหรืออะไร ไม่ได้รีบ”

อาทิตย์ใส - ‘ปุ๊กลุก’บาลานซ์ชีวิต ได้คุยกับตัวเองทำให้เติบโต

เราวางแผนชีวิตไว้อย่างไรบ้าง?

ปุ๊กลุก – “หนูเป็นคนชอบทำอะไรหลายๆ อย่าง แต่พอโตขึ้นเริ่มใจเย็นลง รู้แล้วว่าการทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกันใช่ว่าจะออกมาดี แล้วก็ไม่ทำตามโลกด้วย ตอนเด็กๆ มีอะไรมาเราวิ่งใส่ จะเอาทุกอย่าง แต่พอโตขึ้น รอบคอบขึ้น อีกอย่างเราขาดทุนไปเยอะ รู้สึกว่าเราผิดพลาดในหลายๆ ครั้ง เป็นเพราะความใจร้อนของเรา หลังจากนี้ต้องดูให้ถี่ถ้วนก่อนว่าเรารักในการจะทำอันนี้ไหม เก๊ตไหม ถ้าเก๊ตถึงจะทำ เลือกทำทีละอย่างและให้เกิดผล สร้างรากฐานให้แน่นก่อน แพลนว่าถ้าสินค้าตัวนี้ดี หนูจะออกตัวอื่น แต่ก็อยู่ในไลน์อาหารเสริม เกี่ยวกับสุขภาพ ส่วนสตูดิโอถ้ามันเวิร์ก ก็จะมีเพิ่ม”

อาทิตย์ใส - ‘ปุ๊กลุก’บาลานซ์ชีวิต ได้คุยกับตัวเองทำให้เติบโต

แผนงานในวงการบันเทิงล่ะ?

ปุ๊กลุก – “ตอนนี้หนูอยากเป็นนักธุรกิจ แต่พาร์ตการแสดงก็ไม่ทิ้ง เพราะเรารัก แต่เราเลือกงานเยอะขึ้น ไม่ได้ขี้เกียจนะคะ แค่บาลานซ์ชีวิต เมื่อก่อนทำงานแบบโรบอต ไม่มีเวลาคุยกับตัวเอง ทุกวันนี้มีเวลาได้วิเคราะห์ตัวเองทุกวัน คิดว่าการที่หนูเติบโตขึ้นได้ เพราะการที่ได้นั่งคุยกับตัวเอง ปีนี้เป็นปีที่ยังทำงานอยู่ทุกอย่าง แต่มีการแบ่งทำทุกอย่างให้มีความสุขมากขึ้น ทำงานอะไรที่ไม่หนักจนเกินไป ไม่ต้องทำอะไรเยอะ แต่ทำแบบลงลึกให้ความสำคัญกับงานจริงๆ และให้เรารับรู้ได้ว่าในทุกงานมันคือความสุข”

“เมื่อก่อนทำงานไม่มีเวลาใช้เงิน จนอยากจะออกจากวงการบันเทิง จะบินไปเมืองนอก ไม่รู้ว่าจะหาเงินมาทำไม ไม่ได้ใช้แถมมีแต่คนด่าเราในโซเชี่ยล ปีหลังๆ เป็นปีที่ได้มาคุยกับตัวเอง เอาที่เรามีความสุขค่ะ”

อนงค์ จันทร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน