นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ‘ใบเตย อาร์สยาม’ เผยความรู้สึกตั้งแต่ออกมามีชีวิตใหม่ แทบไม่อยากกลับเข้าวงการ สภาพจิตใจยังไม่เหมือนเดิม แต่ลูกคือเหตุผลในการพยายามมีชีวิตอยู่

ล่าสุดวันที่ 29 เม.ย. ใบเตย อาร์สยาม และทนายความ ได้เดินทางไปแจ้งความเอาผิดกับเพจปลอม ที่แอบอ้างเชิญชวนคนลงทุนและเล่นเว็บพนัน ณ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ชั้น 4 เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ พร้อมเปิดใจการกลับมาเป็นอาร์สยามเหมือนเดิม และเผยสภาพจิตใจหลังจากออกมามีชีวิตใหม่

การเข้ามาลงบันทึกประจำวันวันนี้? “อะไรที่ไม่ถูกต้อง ที่เชื่อมโยงมาถึงเรา มันก็ต้องจัดการแล้ว เอาจริงๆ ก็คิดมานานแล้ว มีคนส่งมาให้ดูเยอะมาก ถ้าจําได้ใบเตยมาแจ้งอันนี้ประมาณครั้งที่ 2-3 แล้วนะ ทีแรกนึกว่าหลังจากเกิดเรื่องราวอะไรหลายๆ อย่างในชีวิต คงไม่ได้มีอะไรอย่างนี้แล้ว ปรากฏว่าก็ยังกลับมามีหนักกว่าเดิมอีก เลยรู้สึกว่าต้องมาแจ้งความร้องทุกข์ ก็มาเอาผิด เพราะเราเห็นว่ามันมีกฎหมายตรงนี้มารองรับ แล้วก็มีหน่วยงานที่ยินดีรับผิดชอบดูแล”

ที่ผ่านมาคนเสียหายเยอะไหม? “เยอะค่ะ (ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแฟนคลับเรา) ใช่ด้วยค่ะ กลุ่มแฟนคลับใบเตยก็ส่วนนึง ซึ่งแฟนคลับก็จะเป็นคนส่งมาให้ตลอดเวลา ว่าเอารูปพี่เตยไปใช้ ไม่ใช่พี่เตยใช่ไหม บางคนก็หลงเชื่อไปแล้ว บางคนก็ลงเล่นไปแล้ว แล้วเพิ่งมารู้ตัวว่าไม่ใช่พี่เตย”

อยากบอกอะไรกับทุกคน? “รอบนี้มารักษาสิทธิ์ตัวเอง มารักษาความถูกต้องของของกฎหมาย มายืนยันความบริสุทธิ์ มาชี้แจง มาแจ้งให้กับคนที่เอฟซีแม่ใบ ทุกคนเลย ทั่วประเทศที่เล่นโซเชียล หรือว่าเล่นเพจเฟซบุ๊ก ก็มาบอกให้รู้ว่าอย่าไปหลงเชื่ออะไรที่ปลอมทั้งหมด ก็คือไม่ใช่เรา

เพจจริงต้องเป็นยังไง? “เพจจริงเดี๋ยวจะมีติ๊กถูกแล้ว ถ้าเพจจริงตอนนี้คนน่าจะตามเจ็ดแสนเก้าแล้ว จะลงภาพนิ่ง ลงคลิปที่เป็นจริงๆ แล้วไม่มีข้อความที่เกี่ยวกับการเชิญชวนอะไรอย่างนี้เลย

ยืนยันว่าเราไม่เกี่ยวข้องกับการพนัน?ยืนยันค่ะไม่เกี่ยวค่ะ อย่าเกี่ยวเลยค่ะไม่เคยเกี่ยวค่ะ

ถามถึงการกลับไปทํางานเป็นอาร์สยามเหมือนเดิม? “เอาจริงๆ ก็ไม่เคยเปลี่ยนนะ แล้วไม่คิดจะเปลี่ยนด้วย เพราะมันคือโลโก้ของเราไปแล้ว มันคือทั้งชื่อและนามสกุลที่ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลง ถ้าทุกคนเห็นตั้งแต่หมดสัญญาปีที่แล้วก็ยังใช้อยู่เหมือนเดิมค่ะ รวมถึงขอใช้เพลงมาตลอด ลิขสิทธิ์ต่างๆ ก็เป็นการตัดสินใจที่เอาจริงๆ มันก็เป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตนะ เพราะเราก็รู้สึกว่าที่ผ่านมา ตั้งแต่เราได้ออกมามีชีวิตใหม่ เอาจริงๆ แล้วใบเตยแทบจะไม่คิดที่จะกลับมาเข้าวงการเลย ต้องบอกก่อนว่า บุคคลท่านนี้เฮียฮ้อเป็นคนที่ทําให้เราคิดได้ เห็นศักยภาพของเราเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ในวันที่ตัวเรามองไม่เห็นศักยภาพตัวเองอีกแล้ว”

วันที่เข้าไปหาเฮียที่จะกลับมา? “มีการพูดคุยก่อนหน้านั้นค่ะ จากฝั่งของทางทีมมิวสิคบิสสิเนสอยู่แล้ว เฮียก็ให้ทางนั้นโทรมาเลยว่า อยากให้เรากลับมานะ บอกเตยให้เข้มแข็ง ให้มูฟออน ให้มองไปข้างหน้า เฮียอ้าแขนรับเสมอ เฮียบอกสามคําว่าเรายังมีศักยภาพ ประโยคนี้ประโยคเดียวเลยที่ทําให้เราตัดสินใจกลับมา นอกจากเรื่องเพลงแล้ว ใบเตยก็ได้โอกาสจากทางฝั่งอาร์เอสมอลล์ทั้งหมดค่ะ เป็นตัวคอมเมิร์ซที่เรามีส่วนมาเป็นซีอีโอแบรนดิ้งให้กับตรงนี้ของเฮียด้วย ก็รู้สึกว่ามีทั้งตัวเพลงที่ยังให้ความสุขกับแฟนเพลง แล้วก็ตัวธุรกิจที่รองรับอนาคตของเรา และครอบครัว”

รู้สึกยังไงบ้างที่เขาให้โอกาส? “ถ้าคนรอบตัวใบเตยเชื่อมั่นว่าทุกคนรู้ว่าที่ผ่านมาทั้งหมดเราไม่เกี่ยวอะไรเลย ถ้าคนใกล้ตัวทุกคนจะรู้ทั้งหมดค่ะ คนที่ร่วมงานกับเรามาตลอด คนที่โตมากับใบเตยอาร์สยาม แต่มันก็ทําให้เราสภาพจิตใจแย่อยู่ช่วงนึง รู้สึกว่าเหนื่อย รู้สึกอยากเป็นคนธรรมดาที่มีความสุขแค่นั้นเลย

เรียกว่าคัมแบ๊กกลับมาแล้วงานแน่นมาก? “เอาจริงๆ ก็เป็นเรื่องที่งงมากๆ เหมือนกัน แต่ก็ดีใจเอาจริงๆ ต้องขอบคุณผู้ว่าจ้างทุกคน แล้วก็เอฟซีใบเตยใบเตยทุกคนที่ไปที่ไหนก็ยังเหนียวแน่น เราไม่คิดเลยว่าทุกคนจะคิดถึง มากๆ ขนาดนี้ แล้วก็ขอบคุณที่ยังให้โอกาสในการทํางานทุกอย่างเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นละคร ไม่ว่าจะเป็นเพลง งานจ้างคอนเสิร์ต”

เรียกว่าตอนนี้กลับมาทํางานร้อยเปอร์เซ็นต์ “เอาจริงๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ออกมาว่าวันแรกเลย ร้อยเปอร์เซ็นต์ตั้งแต่เดือนพฤศจิกาแล้วมั้ง”

ออกมาแล้วแซ่บกว่าเดิม? “ไม่เลยค่ะในความเป็นตัวใบเตยทุกคนจะบอกว่า แซ่บมาก ผอมมาก เอาจริงๆ พังมากอยู่นะ แต่รู้สึกว่าขอบคุณเอาจริงๆ สุดท้ายก็พยายามรักษาชีวิตให้ได้ออกมาเจอทุกคนอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

ตอนนี้สภาพจิตใจเรา 100 เปอร์เซ็นต์หรือยัง?ไม่เลย เอาจริงๆ มันต้องใช้เวลา มันต้องใช้เวลาปรับตัว”

ให้กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว? “ใบเตยให้ 50/50 เลยนะ มันยังเหมือนระหว่างคนบ้ากับคนปกติ (บางเวลาหรอ?) บางเวลาก็ค่อนข้างดีเพรสชั่น ร้องไห้ทุกวัน ก่อนหน้าคือร้องไห้ตลอดเวลา 3 เดือนแรกคือร้องไห้ตลอดเวลา แต่ช่วงนี้ก็ดีขึ้นมากค่ะ”

จัดการตัวเองยังไง? “ทํางานนี่แหละ ช่วยได้มาก แต่พอกลับบ้านไปตอนกลางคืนก็จะเอาล่ะ รู้สึกว่าชีวิตมันไม่เหมือนเดิม เปลี่ยนไปหมดทุกอย่าง ก็พยายามมาก”

เรียกว่าลูกช่วยได้เยอะ? “ก็ทั้งช่วยได้เยอะ แล้วก็ทำให้เราเสียน้ำตาเยอะเหมือนกัน คือเอาจริงๆ มันเจอหนักมาก คือเราสูญเสียแล้วก็เสียศูนย์”

ลูกสาวก็ช่วยฮีลใจคุณแม่? “ทุกอย่างก็เพื่อเขาทั้งหมด แล้วได้ทําในสิ่งที่ตัวเองอยากทํามาตลอด ลูกก็คือหัวใจที่สุดอยู่แล้ว ในการไปส่งเขาไปโรงเรียน ได้ออกมาทําเพื่อเขา เพราะตอนอยู่ในนั้นจะพูดตลอดว่าเราจะรักษาชีวิต เพื่อออกมาเจอหน้าเขา แล้วมาส่งเขาไปโรงเรียนให้ได้ในวันแรก ซึ่งมันก็มิชชั่นคอมพลีท”

เขาเป็นยังไงบ้างไปโรงเรียนวันแรก? “เขาไม่ร้องเลย เหมือนไม่อยากอยู่บ้านเหรอลูก ก็ดีใจค่ะ รู้สึกว่า ณ วันนี้พอเขาเติบโตไปอีกขั้น แล้วเขาก็เป็นเด็กที่สู้ เป็นเด็กที่ไม่อ่อนแอ เป็นเด็กที่อยู่กับโลกภายนอกได้อย่างมีความสุข เราคนเป็นแม่รู้สึกว่าแค่เขาเอาตัวรอดได้ ยิ้มแย้มเวลาไปโรงเรียน ไม่ร้องไห้ ไม่งอแง เราก็หมดห่วง”

สงกรานต์ที่ผ่านมา? “เอาจริงๆ ก็เป็นใบเตยล่ะค่ะ เป็นใบเตยเหมือนเดิมที่ไม่เคยเปลี่ยน ต้องขอบอกตรงนี้ มีคนถามเยอะมากว่าใครเป็นสไตล์ลิส คือมีคนดีเอ็มมาถามเยอะมาก ว่าใครเป็นสไตล์ลิส ใครดูแลชุด ใครดูแลหน้าผม เราทําเองหมด คือไม่เคยมีใครช่วยเหลือเลย ใบเตยคนเดียว ทําเองหมดเลย หน้าผมชุด”

เสมอหูรีเทิร์น? “จริงๆ เราไม่ได้ตั้งใจหรอก แต่เรารู้สึกว่าสงกรานต์ก็ต้องให้สุดแหละ สนุกดีค่ะ แต่เอาจริงๆ เหนื่อยมากนะ ที่ผ่านมาขึ้นเวทีล่าสุดก็ตั้งแต่แน่นอกอายุ 20 แล้ว 36 ก็ยังต้องแน่นอกอยู่ แล้วสงกรานต์ร้องเวทีละ 20 เพลงแล้วขึ้นเวทีตีหนึ่ง ตีสอง ตีสามทุกวัน เราก็แทบตายอยู่นะ เพราะว่า 36 มาเต้นคืนละ 20 เพลงชีวิตก็ตาลปัตร มากๆ”

จะแซ่บไปเรื่อยๆ? “เอาจริงนะตามรูปแบบงานเลย คือเราก็ให้เหมาะสมกับทุกๆ งานที่ทํา แต่ก็พยายามให้คงความเป็นเราอยู่แล้ว”

ฝากถึงแฟนๆ? “ฝากถึงแฟนๆ ทุกคน ขอบคุณมากๆ ค่ะที่ยังเชื่อมั่น คือเอาจริงๆ เจอใครทุกวันนี้ทุกคนร้องไห้ใส่เรา เราก็เลยต้องร้องไห้ เอาจริงๆ ไม่ได้อยากได้คําชื่นชมว่าเก่ง ใบเตยสู้มาก ไม่เลย สิ่งที่อยากได้คือความเข้าใจ และความเชื่อมั่นในตัวศิลปินคนนี้เสมอ

เพลงใหม่ออกเมื่อไร? “เร็วๆ นี้ค่ะ เจอกัน แซ่บสุดๆ แน่นอนค่ะ คงเซอร์ไพรส์ทุกคนแน่นอนค่ะ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน