เป็นซุปตาร์เบอร์ต้นๆ ของเอเชีย อย่างนักร้อง-นักแสดงสุดหล่ออย่าง ‘นิชคุณ หรเวชกุล’ ล่าสุดมาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ “น้อง.พี่.ที่รัก” ที่ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ โดยเจ้าตัวต้องรับบทเป็น ‘โมจิ’ ผู้ชายลูกครึ่งญี่ปุ่น หลังจากเสร็จงานได้ให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ ที่มีข่าวว่าหวงน้องสาวมาก
โดย นิชคุณ เผยว่า “หวงครับหวง พอได้เล่นเป็นผู้ชายที่มาจีบน้องสาวของพี่ชายคนหนึ่ง ก็เข้าใจแล้วว่าบางทีเรามันอาจจะมากเกินไป อาจจะทำตัวน่ากลัวเกินไป แต่ในฐานะพี่ชายมันก็จำเป็นที่ต้องดูแล หวงน้องหน่อย ปล่อยไปง่ายๆ ไม่ได้หรอกครับ(ยิ้ม) ถามว่าสกิลการหวงน้องของเราโหดขนาดไหน ก็ไม่ขนาดนั้น ไปถามน้องแล้วกันครับ ถามว่ามีโอกาสคุยกับน้องเรื่องนี้บ่อยไหม ก็คุยเรื่อยๆ ครับ ผมมีน้องสาว 2 คน คนหนึ่งอยู่ในวงการ อีกคนไม่ได้อยู่ในวงการ คนที่ไม่ได้อยู่ในวงการก็จะคุยกันบ่อยว่าช่วงนี้มีคุยกับใครหรือเปล่า ก็ถ้าว่างก็พามาเจอกันด้วย อยากเจอ จะได้ดูว่าเป็นคนยังไง ในฐานะผู้ชายต่อผู้ชาย”
พอได้เล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เราเข้าใจคนที่มาจีบน้องเรามากขึ้นไหม
“ก็เข้าใจๆ แต่ก็ไม่ทำให้ผมเปลี่ยนนะครับ(หัวเราะ) ความหวงน้องก็ยังเหมือนเดิม แต่ว่าไม่ได้หวงจนมากเกินไปขนาดนั้น เขาก็ต้องมีชีวิตของเขา วันหนึ่งเขาต้องมีแฟน ต้องมีครอบครัวของเขา ซึ่งเราไปกันตรงนั้นไม่ได้ สู้เรามาเป็นเพื่อนกันดีกว่า มีอะไรก็บอกกันและกัน ปรึกษากันและกัน”
คนแบบไหนที่ไม่ควรมาจีบน้องเราเลย
“พวกเพลย์บอย เขาเรียกว่าอะไร หน้าหม้อ ใช่ไหมครับ แรงไปป่ะครับ ขอโทษทีครับ(ตบปาก) ไม่ได้กลับเมืองไทยนานไม่เข้าใจครับว่าศัพท์ไหนใช่ได้ไม่ได้ ขอโทษทีครับ(ยิ้ม) ก็พวกเจ้าชู้ไม่ได้ครับ และคนที่ไม่เคารพพ่อแม่ผมไม่เคารพตัวน้อง”
น้องเชอรีนอยู่ในวงการบันเทิงเราต้องหวงเป็นพิเศษไหม
“หวงครับ เป็นห่วงตลอดเวลา ว่าเขาทำงานจะเจอคนดีหรือเปล่า บางทีกลับบ้านดึกๆ นอนดึกไปหรือเปล่า ก็ห่วงตลอดเวลา แต่ผมก็เชื่อใจน้องว่าเขาคิดดีทำดีอยู่แล้ว แล้วก็ตั้งใจทำงานของเขา ก็สอนเขาอยู่เสมอว่าคนรอบตัวเรา เราต้องเทคแคร์ให้ดีที่สุด เพราะเราต้องการทุกๆคนไม่ว่าจะเป็นพี่ๆสื่อ หรือว่าช่างแต่งหน้าทำผม หรือเมเนเจอร์ หรืออะไรก็แล้วครับ”
เรื่องนี้ได้มีโอกาสร่วมงานกับ ญาญ่า เป็นอย่างไรบ้าง
“สนุกสนานมาก ผมแฮปปี้มากเลยที่ได้มาเจอพี่ซันนี่ น้องญาญ่า แล้วก็พี่ปอน พี่เก้ง ที่ได้ทำงานด้วยกัน ผมถือว่าเป็นจุดแฮปปี้สุดๆ ของชีวิตของผมจุดหนึ่ง การทำงานกับคนเหล่านี้ ผมมาทำงานทุกวันแล้วแฮปปี้มากเลยครับ พูดถึงน้องญาญ่าก่อน น้องญาญ่าเขาเป๊ะมาก มีบทที่เขาต้องพูดภาษาญี่ปุ่นด้วย ตอนที่เราฝึกซ้อมกันเขาพูดไม่ได้เลย แล้วพอไม่ถึงอาทิตย์เราเริ่มถ่าย เขาไม่ถือบทเข้ามา มานั่งแล้วพูดญี่ปุ่นประโยคยาวๆ 5-6 บรรทัดโดยไม่ผิดเลยสักคำ คือมืออาชีพจริงๆ ในส่วนพี่ซันนี่ คือญาญ่าเขาจำบทได้เขาเลยไม่ถือมา แต่พี่ซันนี่คือเขาไม่ถือมาเลยครับบทเนี่ย เขาบอกว่าบทอยู่ในตัวเขา แล้วผมเชื่อเพราะเขาก็ไม่เคยผิดเลยสักครั้งเหมือนกัน เขาก็จะเดินเข้ามาแล้วถามว่าซีนอะไร ถ่ายอะไร พอบอกเขาก็จะอ๋อ โอเค แล้วเขาก็เริ่ม ทุกเทคของเขาจะพูดไม่เหมือนกัน มันเป็นอะไรที่สนุกสนาน เราต้องฟังต้องรีแอคตามเขาไปจริงๆ”
ได้เทคนิคอะไรจากสองคนนี้บ้างไหม
“เรียนรู้เยอะมากครับ จากน้องญาญ่านี่ก็คือ ผมตั้งใจทำงานแล้วแหละ แต่ดูน้องญาญ่าทำงานแล้วแบบต้องตั้งใจกว่าดี เพื่อให้ได้เท่าน้องหรือมากกว่าน้อง ส่วนพี่ซันนี่เรื่องการแสดง เรื่องอินเนอร์มันสำคัญมาก ผมก็ได้เรียนรู้จากพี่ซันนี่แล้วก็น้องญาญ่าเยอะมาก พี่ๆผู้กำกับก็สอนผมตลอดเวลา”
อินเนอร์ที่เราจะต้องเล่นจีบญาญ่าเยอะขนาดไหน
“จริงๆ จีบญาญ่าเหรอ ต้องไปดูเองดีกว่า แต่ว่าเรื่องจีบญาญ่าไม่ได้ยากเท่าเอาชนะใจพี่ชาย พูดแค่นี้ก่อนดีกว่า ซึ่งถามว่าจะมีฉากฟินๆ จิ้นๆ เยอะไหม (ยิ้ม) มีครับ มีอยู่แล้ว แค่ดีกรีไหนก็ขอเก็บไว้ก่อน”
พอเล่นสนิทกันเลยมีข่าวโยงว่าเราแอบขายขนมจีบญาญ่า
“ขายขนมจีบญาญ่า ไม่ใช่เซเว่นอีเลฟเว่นนะครับ(หัวเราะ) ไม่ๆ คือเราทำงานด้วยกัน ผมคิดว่าเราสนิทกันเพราะเราพูดภาษาอังกฤษกันครับ ผมไม่ได้อยู่เมืองไทยนาน พอกลับมาก็ไม่ค่อยมีเพื่อนที่ไทย เราก็สื่อสารกันเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้เราดูสนิทกันมากกว่า แต่ผมคุยกับพี่ซันนี่เยอะกว่าน้องญาญ่าอีกจริงๆ แล้ว”
ข่าวลงว่าเราทำให้ความสัมพันธ์ของญาญ่า-ณเดชน์มีปัญหา
“ก็ถ้าคนเข้าใจผิด ผมก็ต้องขอโทษตรงนี้ด้วย แต่ว่าไม่มีอะไร ไม่อยากให้ทุกคนห่วงครับ เราทำงานด้วยกัน สนิทกันเป็นพี่น้อง เหมือนกับพี่ซันนี่เหมือนกัน ไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วงอะไรครับ”
มีโอกาสได้เห็นข่าวนี้ไหม
“จริงๆ ผมอยู่เกาหลีผมก็ไม่ค่อยได้ตามข่าวอะไรเท่าไหร่ครับ อย่างแม่การะเกดผมยังไม่รู้จักเลยครับ(หัวเราะ) แฟนคลับผมยังบอกว่าล้าหลังมาก”
พอรู้ว่าเป็นข่าวกับญาญ่าเราตกใจมั้ย ได้มีโอกาสคุยกับญาญ่าเรื่องนี้หรือยัง
“ตกใจไหมเหรอ ผมว่าไม่ถึงกับตกใจ มันเป็นไปได้ที่คนจะคิดอย่างนั้น แต่ว่าคือไม่อยากให้ไปกระทบใครใดๆก็แล้วแต่ เพราะผมไม่มีความคิดที่จะทำให้ใครมีปัญหากับใครอยู่แล้วนะครับผม ผมไม่ได้ถามครับ เพราะกลัวเขาเครียดหรืออะไรอยู่ ผมไม่รู้ว่าสถานการณ์เขาเป็นยังไง ผมก็เลยไม่อยากไปยุ่งตรงนั้นครับ”
ขอบคุณภาพประกอบจากไอจี
