มาริโอ้ เมาเร่อ ไม่รู้ละครไทยวิกฤตไหม แต่มั่นใจไม่เหมือนเดิม ด้านตนไม่กระทบ ยังมีงานรองรับ แต่เชื่อทีมงานเบื้องหลังเครียด!

ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่ละครไทยค่อนข้างวิกฤต ละครมีการผลิตน้อยลง มีการรีรันละครเก่ามากยิ่งขึ้น ล่าสุดวันที่ 13 พ.ย. มาริโอ้ เมาเร่อ ได้มาร่วมงานแถลงข่าว Roddonjai แพลตฟอร์มซื้อขายรถยนต์มือสอง ปีที่ 2 รุกตลาดรถบ้าน YOUR DRIVE is YOUR VALUE ณ ลานโปรโมชั่น ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21

มาริโอ้ ไม่รู้ละครไทยวิกฤตไหม แต่มั่นใจไม่เหมือนเดิม เชื่อทีมงานเบื้องหลังเครียด

พร้อมพูดถึงประเด็นดังกล่าวว่ามันเป็นช่วงการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทั้งแพลตฟอร์มที่เปลี่ยนไป พฤติกรรมคนดู ด้านตนยังไม่กระทบมากเพราะมีงานอื่นๆ รองรับอยู่ แต่เชื่อคนทำงานเบื้องหลังเครียดแน่นอน

มองละครไทยช่วงนี้ยังไงบ้าง? “ผมว่ามันก็เป็นช่วงเวลาที่ก็อาจจะเกิดขึ้นได้ ยังช่วงนี้ก็เกิดขึ้นได้ เป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้เป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงต่างๆ พฤติกรรมของคนดู ผมว่ามันจะค่อยๆ ดีขึ้น อาจจะเป็นช่วงเปลี่ยนก็มีบ้าง”

แพลตฟอร์มต่างๆ มีผล? “มีผลมากๆ เลยครับ เพราะสมัยก่อนยุคผมต้องอยู่บ้านดูทีวี สามทุ่มนี่เรารอดูละคร หรือรอดูรายการ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป มันก็มีสองด้าน ทั้งด้านดีและไม่ดี ด้านดีก็อาจจะสะดวกขึ้น ด้านไม่ดีก็อาจจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนดูแบบเดิมไม่มีล่ะ อาจจะแบบอยากดูเมื่อไรก็ได้ ซึ่งผมว่าทุกอย่างมันก็จะต้องพัฒนาตามไปด้วย”

เรากระทบไหม? “ผมก็ไม่ได้กระทบมาก ผมยังมีงานการแสดงยังเรื่องของภาพยนตร์ ซึ่งละครเองเดี๋ยวก็มีตามมาอีกครับ”

ถูกลดจำนวนบ้างไหม? “จริงๆ ก็ส่วนใหญ่อ่ะครับ ไม่ใช่แค่โอ้ ผมว่ากระทบทั้งวงการแหละครับ”

เตรียมรับมือยังไงบ้าง? “สำหรับผมก็ เราก็จะมีอย่างอื่นด้วยที่เราทำ ไม่ใช่แค่ส่วนของละคร ละครเราก็รอทำอยู่ แต่ก็มีภาพยนตร์ รายการต่างๆ ในแพลตฟอร์มอื่น”

สิ่งเหล่านี้เราตั้งใจสำรองไว้ตั้งแต่แรก? “จริงๆ ผมทำเอาไว้เพื่ออยากจะใกล้ชิดกับแฟนคลับมากกว่า ถ้าบางทีผมยังไม่มีละคร ไม่มีงานแสดง หรือกำลังถ่ายอยู่ เขาก็คิดถึงเราก็ดูรายการของผมไปก่อน แล้วเราก็ทำในสิ่งที่เราชอบ”

มาริโอ้ ไม่รู้ละครไทยวิกฤตไหม แต่มั่นใจไม่เหมือนเดิม เชื่อทีมงานเบื้องหลังเครียด

สิ่งเหล่านี้สามารถอยู่ได้ใช่ไหม? “มันก็อยู่ไม่ได้หรอก แต่มันก็เป็นอะไรที่ให้แฟนๆ หายคิดถึง แล้วเราเองก็ชอบ แต่ถามว่ามันจะมาฟูลฟิลในเรื่องของการทำงานในด้านละครมันก็ไม่ใช่ เพราะละครมันค่อนข้างที่จะใหญ่และแข็งแรงกว่า”

กับบทบาทล่ะ? “ผมไม่ติดนะครับ เพราะรู้สึกว่าการเป็นนักแสดงมันเล่นได้หมด มันไม่จำเป็นว่าต้องเล่นเป็นพระเอกอย่างเดียว ผมก็ลอง ไม่ได้ปิดกั้น”

สนใจไปทางธุรกิจไหม? “ขอแสดงก่อนงานที่เรารัก (อยากทำไหม?) ก็มีนะครับ ผมก็มีสิ่งที่ผมชอบ อย่างเกี่ยวกับรถเก่าที่เราชอบ ก็อยากจะทำที่ที่ให้คนมาแล้วได้รับความรู้”

คิดว่ามันคือวิกฤตไหม? “มันไม่เหมือนเดิมล่ะกันครับ ผมไม่รู้ว่าว่าวิกฤตไหม แต่ก็ไม่เหมือนเดิม”

ได้พูดคุยกับเพื่อนนักแสดงไหม? “ก็มีบ้าง ส่วนใหญ่ตอนนี้ทุกคนก็ทำอยากอื่นกัน ไปเที่ยว หรือว่าดูแลตัวเอง หาโปรเจ็กต์อื่นๆ ทำ (ถึงขั้นเครียดกันไหม?) ไม่เครียดนะครับ แต่ทีมงานเครียดแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน