ลาล่า อาร์สยาม ช็อกข่าว ฟิล์ม รัฐภูมิ สนิทกันมา 20 ปี เป็นคนขยัน เจ้าพ่อร้อยโปรเจ็กต์ ไม่เคยเห็นมุมนี้มาก่อน ได้แค่ส่งกำลังใจ
จากกรณีที่ ฟิล์ม รัฐภูมิ ตกเป็นประเด็นข่าวมีคลิปเสียงเรียกเงิน 20 ล้าน แลกกับการพาบอสพอล ดิไอคอน ไปออกรายการโหนกระแส โดยล่าสุดวันนี้ (15 พ.ย.67) ลาล่า อาร์สยาม ได้เผยถึง น้องรัก ช็อกกับข่าวที่เกิดขึ้น เพราะไม่เคยเห็นมุมนี้ของฟิล์มมาก่อน ส่วนตัวสนิทกันมานาน เห็นน้องเป็นคนขยัน มีวาทะศิลป์ รักครอบครัว แถมเป็นเจ้าพ่อร้อยโปรเจ็กต์ ตนยังแซวขำๆ ทำอะไรก็เจ๊ง ไม่คิดว่าน้องจะเป็นแบบในข่าว
“สำหรับเรื่องฟิล์มตอนนี้น่าจะช็อกเหมือนทุกคนที่ได้ยินข่าวเหมือนกัน ก็ตกใจ แล้วก็ตามข่าวทุกวันยังถามตัวเองอยู่เลยว่าจริงหรือเปล่าวะ หรือว่าเราฝัน หรือว่าข้อมูลอะไรผิดหรือเปล่า”
“เราอยู่ด้วยกันถ้าย้อนตั้งแต่เข้าอาร์เอสด้วยกันน่าจะ 20 ปีแล้ว ตั้งแต่เรื่อง รักจัง เริ่มสนิทกันเราก็รู้ว่าน้องเป็นคนน่ารัก เป็นคนดี รักครอบครัว ในส่วนที่น้องกำลังเป็นข่าวกับสิ่งที่เราอยู่กับน้องที่เราได้เจอ เราไม่เคยเห็นมุมนี้ มันเลยถามตัวเองว่าน้องเขาเป็นอย่างนั้นจริงๆ เหรอ เพราะว่าเราไม่เคยเห็นเลย เวลาเราเดือดร้อนหรือขอความช่วยเหลือจากเขา ไม่มีครั้งไหนที่เขาปฏิเสธเลย พุ่งถึงตัวเรายิ่งกว่าจรวด เขาช่วยเหลือเราตลอดในสิ่งที่เขาจะช่วยเราได้”
อยู่ในทุกช่วงชีวิตของเขา? “ใช่ ช่วงหนึ่งที่เขามีปัญหาที่ต้องไปอยู่ต่างประเทศ เขาก็พูดปรับทุกข์ เราก็ได้รู้แต่ละพาร์ตเขาได้เจออะไรมา แต่มีครั้งนี้ที่ไม่รู้เรื่อง ไม่ได้คุยกันเลย”
ตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่มีการพูดคุยกันเลย? “ไม่ คือคุยกันล่าสุดก่อนที่จะเกิดเรื่องสักอาทิตย์หนึ่งคุยกันเรื่องหนัง ละคร เขาจะชวนไปทำคอนเทนต์ที่เป็นรายการของเขา ก็ยังไม่ได้ทำเลย เราก็จะชวนย้อนรอยหนังกัน”
ตอนที่เขาเข้าไปในแวดวงการเมือง เรามีความรู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไปมั้ย? “ตอนนั้นที่เรารู้ว่าเขาไปลงการเมือง เรารู้สึกภูมิใจในความเก่งของน้องนะ เขาตามฝัน ในวันที่เขาจบไม่พร้อมเพื่อนเขาก็ยังอุตส่าห์ไปเรียนเพิ่มระดับความรู้เพื่อจะไปพัฒนาธุรกิจ ไปลงภาษา เรียนในสิ่งที่ตัวเองอยากเรียนหลายอย่าง แล้วไปลงการเมืองเขาก็สามารถนำมาใช้ในการทำงานของเขาได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นพาร์ตรายการ การพบปะ หรือบางอย่างที่เขาอยากจะแก้บางข้อในส่วนของความบันเทิงมีมูลค่าแล้วเข้าไปอยู่ตรงนั้นที่มีการอนุมัติ เขาชอบเล่าให้ฟัง แต่เราก็ความรู้ไม่เท่าเขา ที่ผ่านมาเราชื่นชมเขาทุกอย่าง ตั้งแต่คลินิกแทบจะทุกธุรกิจ มีอะไรชวนตลอดแล้วไม่เคยพลาดสักยี่ห้อ ทำกับเขาทุกอย่าง”
ที่ผ่านมาร่วมลงทุนอะไรกับเขาไปบ้าง มีการสูญเงินมั้ย? “ถือว่าได้ทุนคืน มันก็คือพีระมิดทั้งหมด เขาเรียกว่าขายตรง เครือข่าย แต่ว่าอันนั้นเขามีของจริงๆ ถูกต้องจริงๆ ตระกูล U ตระกูล A แต่ว่า A เขาไม่ได้ทำ มันมีหลายตระกูลที่เป็นระบบพีระมิด เราก็ไปทำกับเขาน่าจะ 10 กว่าปีผ่านมาแล้ว มันไม่ได้ลงทุนเยอะ มันได้ของมามันก็เหมือนเราซื้อกิน จบแล้วก็จบไม่ได้หาคนอะไรเพิ่ม ณ ตอนนั้นทำเพราะตัดรำคาญ เขาชวนมาทำสิได้เงินเยอะ เราก็ตาวาวมันก็เป็นอีกหนึ่งกระเป๋า ก็คิดแค่นั้น”
“ฟิล์มเขาเป็นคนพูดน่าฟังนะ ด้วยน้ำเสียง หน้าตา เขาเป็นคนมีเสน่ห์ แล้ววาทะศิลป์ในการพูดมันเป็นภาพที่สามารถปิดจบได้เขาพูดแล้วเห็นภาพ”
ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนเราโดนหลอกมั้ย? “ไม่ๆ ตอนนั้นเราคิดว่าเราก็มีศักยภาพทำได้ เราดูว่าเขาทำมาหลายปีเห็นจริงๆ พ่อแม่เราใช้ผลิตภัณฑ์จริงๆ แล้วเราเข้าไปบริษัทมีการประชุมคือเห็นว่ามันมีจริงๆ ไม่ ส่วนมากไม่ไหวเขาก็ไม่ทำต่อแค่นั้นเอง หรืออาจจะมีเราไม่รู้ แต่ในพาร์ตของเรามันไม่ได้ลงทุนเยอะ รู้สึกไม่ได้สูญเสียอะไรเลย”
แล้วพอมาเจอเคสนี้ในกรณีที่เขาพูดแบบนั้น? “นั่นแหละที่ช็อกในความผิดแปลกที่มันรู้สึกถึงถามตัวเองทุกวันจริงเหรอวะ มันรู้สึกช็อกจริงๆ ไม่คิดว่ามูลค่าของเงินจะมหาศาลได้ขนาดนั้น ตอนนี้ยังรู้สึกว่าบอกตัวเองตื่น มันไม่น่าใช่ความจริง”
เราเชื่อในเสียงนั้นว่าเป็นเขา? “ถ้าเสียงคือใช่ เสียงนั้นเราก็ยืนยัน เพราะเราอยู่กับน้อง รู้วิธีการพูดของเขา สไตล์ติดอ่าง เรารู้น้ำเสียง”
นิสัยใจคอเขาเปลี่ยนแปลงไปมั้ย? “ไม่มีนะ ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเราเลย กับเราเขาเป็นน้องน่ารักเหมือนเดิม เขาเคยปฏิบัติยังไง เคยทักหายังไง วิธีการคุยเหมือนเดิมทุกอย่าง”
หลังเกิดเรื่องแล้วได้ส่งกำลังใจให้เขายังไง? “ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเริ่มคุยกับน้องยังไงการที่จะให้กำลังใจน้อง ให้น้องมีพลัง ถ้าเกิดวันนี้เราให้กำลังใจเขา เราไม่รู้ว่าคนฟังว่าเราให้กำลังใจว่าเธอไปให้กำลังใจแบบนี้ เข้าใจปะ เรารักน้อง รักในคำว่าน้อง แต่ถ้าน้องทำผิดจริงๆ ก็ต้องให้น้องเข้าสู่กระบวนการตรงนั้นไป มันก็ต้องแยกพาร์ตกัน แต่จะห้ามไม่ให้เราไม่ให้ห่วงไม่ให้รักน้อง มันก็คงเป็นไปไม่ได้”
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพาร์ตความเป็นพี่เหมือนเดิม? “พี่ก็ยังอยู่ตรงนี้ บางทีอยากร้องไห้ มันอึ้ง ได้แต่ภาวนาขอให้เป็นฝันไป แล้วก็ภาวนาว่าอย่ามีอะไรเกิดขึ้นอีก”
ตอนนี้เริ่มมีผู้เสียหายหลายคนออกมาพูดว่าเคยถูกฟิล์ม เรียกเงินค่าเคลียร์? “อันนี้อธิบายไม่ถูกในพาร์ตตรงนั้นเราไม่รู้ว่าเขาไปทำอะไร เขาก็ไม่เคยเล่าให้เราฟัง ถึงบอกว่าวันนี้ที่เขาเป็นข่าวกับสิ่งที่เขาปฏิบัติกับเราที่เราเห็นได้สัมผัสเขา มันไม่เคยเห็นมุมนั้นของเขาเลยจริงๆ”
ในมุมที่คนมองว่าเขาดูร่ำรวยผิดปกติมีรถหลายคัน บ้านหลังใหญ่ 100 ล้าน? “เราไม่เอะใจตรงนั้น เราชมเชยในความเก่งและความขยัน ต้องยอมรับว่าฟิล์มเป็นคนขยันจริงๆ แต่อย่างเดียวที่เรางงทำไมทำธุรกิจอะไรก็เจ๊ง มีแต่ขำมันว่าอีกแล้วเหรอ เจ้าพ่อร้อยแปดพันเก้าโปรเจ็กต์ พี่อี๊ดยังบอกว่าช่วยทำอะไรให้มันสำเร็จสักอย่างได้มั้ย”
“เรามองถึงความขยันเขาอย่างเดียว ถ้าเราขยันคนเรามีสิทธิ์ที่จะได้สิ่งเหล่านั้นอยู่แล้ว ในสิ่งที่เขาสำเร็จเราไม่เห็น เราดันไปเห็นแต่มุมเจ๊งของเขาแล้วก็เอามาเป็นมุขขำๆ กัน”
“วันนี้ลาล่าก็รู้พร้อมๆ กับคนอื่น ได้ยินเสียงพร้อมๆ กับคนอื่นเหมือนกัน เราก็ได้แค่ส่งกำลังใจให้เขาที่จะสู้ในสิ่งที่มันเป็นข่าวไปแล้วกัน เดี๋ยวขออีกสักพักนึงให้น้องโอเคก่อน ไม่ใช่ว่าเราจะไม่โทรไม่คุยไม่ติดต่อ ความเป็นพี่น้องมันตัดกันไม่ได้อยู่แล้วยังไงมันก็ต้องได้พูดคุย”
“เราก็เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของเขา ตอนนี้เราคิดว่าเขาหนักมากแล้วพ่อแม่ด้วย เราไม่ได้รู้จักแค่ฟิล์ม เรารู้จักทั้งบ้าน ถ้าวันนี้น้องเราผิดจริงๆ สมมติถ้าเราพูดไปแล้วมันจะกระทบกระเทือนหรือน้องจะอายที่จะคุยอะไรกับเราหรือเปล่า อยากให้น้องรู้สึกว่าโอเคที่สุด เราอาจจะเป็นคนติดต่อไปเอง แต่ ณ ตอนนี้เราคิดว่าน้องอาจจะรวบรวมเอกสารหลายอย่าง น่าจะยุ่ง เราทำได้แค่ส่งข้อความทิ้งไว้ เรายังไม่กล้าโทรไปเพราะว่าในการโทรแต่ละอย่างมันมีการบันทึกเสียง (หัวเราะ) เราแอบหวั่นใจ ไม่หรอก มันจะกลายเป็นเกร็งกันไง มึงโทรมาบันทึกเสียงกูอะไรอีกหรือเปล่าวะ ก็อยากให้เขาสบายใจของเขาเองก่อน”.