อดีตนางแบบ ยู่ยี่ อลิสา ควงแฟนสาวหล่อ เอิ้น ดารัณ อัพเดตแพลนงานแต่ง เตรียมจับมือไปจดทะเบียนสมรส ด้านลูกยู่ยี่เผย เอาที่มัมแฮปปี้
ยู่ยี่ อลิสา อดีตนางแบบสาวสุดแซ่บ ที่ควงแฟนสาวหล่อ เอิ้น ดารัณ มาร่วมงานแถลงข่าว นับถอยหลังสู่วันสมรสเท่าเทียม (Marriage Equality Day) เปิดประวัติศาสตร์การจดทะเบียนสมรสคู่รัก LGBTQIAN+ พร้อมกันทั่วประเทศกว่า 1,000 คู่ ที่ SCBX NEXT TECH ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน พร้อมเผยเรื่องความรักครั้งนี้ ร่วมถึงแผนการจัดงานแต่งงาน
ยู่ยี่ “มันน่าตื่นเต้นมาก ก็ตื่นเต้นไปกับเขาด้วย เพราะเขารอคอยมานานแล้วว่าจะได้มีโมเมนต์นี้ มัน 20 กว่าปีกว่าจะมาถึงวันนี้ เราดีใจไปกับเขาด้วย ยินดีที่ได้มีส่วนร่วม แล้วเราเห็นพี่ต๊อบกับปีใหม่มานานมากแล้ว งานแต่งงานที่เขาจัดกันเอง แต่ตอนนี้ได้ลงเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นคนเดียวกัน”
นอกจากภาพของความรัก ซึ่งมันเป็นมากกว่านั้น?
ยู่ยี่ : ใช่ค่ะ มันไม่ใช่การแสดงออกเรื่องความรักอย่างเดียว มันคือกฎหมาย มันคือจดทะเบียนสมรสได้จริงๆ
ย้อนไปโมเมนต์ขอแต่งงาน?
เอิ้น : สำหรับเราเอง ก็ล้มลุกคุกคลาน เจอจังหวะนั้นสมรสเท่าเทียมใกล้จะออก เราก็ว่าเวลาที่ใช่แล้วแหละและก็เจอคนที่ใช่แล้ว ก็ไม่รอช้า ก็หาคนมาแต่งด้วย
ยู่ยี่ : ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็แปดเดือนแล้ว เค้าจริงจังจริงใจมาก เค้าทุ่มเทและแสดงให้เห็น เค้าบอกว่าขบวนสุดท้ายแล้ว ทั้งคู่ (หัวเราะ)
ตอนที่เขาขอเราแต่งงาน ความพร้อม ณ ตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง?
ยู่ยี่ : จริงๆ เราก็คุยเรื่องนี้กันมา เราเคยจดทะเบียนมา ไม่ใช่แค่จดทะเบียนอย่างเดียว มันมีอะไรลึกซึ้งมากกว่านั้นอีกเยอะ การที่คู่หนึ่งจะรักกันได้ไปตลอด มันไม่ใช่แค่การเซ็นสัญญาใบนึง มันก็เป็นความซาบซึ้งใจอย่างนึง เราก็เห็นด้วยกับเขา
วางงานแต่งยังไงบ้าง?
ยู่ยี่ : ไม่มีแพลนอะไรเลย ก็คงจะร่วมงานฉลองกันเล็กๆ
จดทะเบียนมีความหมายกับคู่เรายังไงบ้าง?
เอิ้น : จริงๆเราเติมกันอยู่แล้วทุกวัน มันก็อาจจะแค่สัญลักษณ์ที่ทำให้เรามีข้อจำกัด ดูแลกัน
ยู่ยี่ : ตอนที่เขาคุยเรื่องนี้เค้าถามว่ารู้มั้ยคนที่อยู่กันมานานๆ แต่เขาไม่สามารถเซ็นแทนกันได้ ณ ตอนนั้นไม่มีญาติเลย ไม่มีใครเซ็นแทนได้ ตอนนั้นเราน้ำตาไหลเลย เราไม่เคยเข้าใจเพราะเราไม่เคยมีคู่รักที่เป็น lgbt อันนี้ตอบตรงๆ และเราเคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว จนตอนนี้เข้าใจแล้วเป็นอย่างนี้เอง ก็เลยเข้าใจเลยซาบซึ้งถึงความหมายของเขา
ณ วันนี้จะแต่งงานกันแล้ว ให้ความมั่นใจยังไงกันบ้าง?
เอิ้น : สิ่งหนึ่งที่บอกเขาตลอด คืออยากมอบความรักแบบที่พ่อแม่มีให้กัน คุณพ่อคุณแม่เขาจับมือกันจนวินาทีสุดท้าย จนสิ้นชีวิตไม่อยู่แล้วทั้งคู่ อยากมีความรักดีๆ แบบนั้นให้ใครสักคน
ลูกยู่ยี่มีความเห็นยังไงบ้าง?
ยู่ยี่ : เขาบอกมัมแฮปปี้ เขาก็แฮปปี้ สั้นๆ แต่ได้ใจความ เขาโตแล้ว ก็มีการปรับตัวเขาหากันบ้าง เขาเข้าใจตรงนั้น (เหมือนมันได้เกิดจริงๆ?) ใช่ ถ้าใครติดตามพี่จะเห็นว่าผ่านมาหลายเรื่องหลายราวมาก ตั้งแต่เด็ก เข้าวงการ โด่งดัง มีขึ้นลง มรสุมมากมาย แต่งงาน มีลูก แล้วหย่าอีก มันเยอะไปหมด ยิ่งกว่าละครแต่มันก็มีวันนี้ดีใจจริงๆ
เชื่อใช่ไหม รักแท้มีอยู่จริง?
ยู่ยี่ : ตอนแรกก็ไม่คิด ก็ถอดใจแล้ว เอาว่ะเหงาก็เหงา แต่อยู่คนเดียวก็ได้ แต่เมื่อไหร่ที่วางปุ๊บก็มาเลย ตอนแรกเหงาคิดว่าต้องมีใครสักคน
เอิ้น : ผมก็ปล่อยวางแล้วเหมือนกัน ไม่มีก็ไม่มีว่ะ แล้วทีนี้เหมือนวางพร้อมกัน แล้วมาเจอกันที่ร้านพี่ต๊อบ (วางใกล้กันไง?) ใช่ๆ
พรหมลิขิตมั้ย?
ยู่ยี่ : พรหมลิขิตแน่นอน เพราะว่าเราคบพี่ต๊อบมานานนะ เขาก็รู้จักกันนาน แต่เราไม่เคยเจอกันเลย คราดกันตลอด ไม่เคยเจอกันมาก่อน ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่เขารู้จักลูกยี่ เราไม่มีโอกาสได้เจอ จนวันนั้น วันที่เขาไม่มีใคร แล้วเราก็ไม่มีใคร
คนนี้ดียังไง?
ยู่ยี่ : ยี่ว่ามันมากกว่าเพศสภาพแล้ว เขาเป็นคนหนึ่งที่ยี่รักมาก ยี่ก็ไว้ใจ เชื่อมั่นว่าจะอยู่ดูแลและเคียงข้างไป เราไม่ได้รู้สึกเลยว่าเราคบเพศเดียวกัน ไม่ได้รู้สึกอะไรสักนิดเดียว ใจกับใจอย่างเดียว
เรื่องงานแต่ง?
เอิ้น : อาจจะจัดงานพร้อมพี่ต๊อบ ปีใหม่ เล็กๆ เดี๋ยวค่อยดูกันว่าเล็กๆ ของพี่ต๊อบจะขนาดไหน (หัวเราะ)