ดาว มยุรีย์ ร่ำไห้กว่าจะสวยวันนี้ ฝ่ามรสุมถูกบูลลี่ พิษศัลยกรรมหมอเถื่อน ทำหน้าพัง แจงดราม่าสวยเพราะสวดมนต์
ฝ่าดราม่ากระแสบูลลี่ เรื่องศัลยกรรมหน้ามาตลอด 20 กว่าปี สำหรับนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ดาว มยุรีย์ ที่ลองผิดลองถูกมานานหลายปี ซ้ำยังเจอพิษศัลยกรรมหมอเถื่อน ทำหน้าพัง ปากเบี้ยว ส่งผลให้งานหดหาย สูญเสียรายได้ไปกว่า 10 ล้าน สภาพจิตใจย่ำแย่ แต่เธอก็อดทนสู้ จนผ่านมาได้
หลังจากที่คลุกคลีอยู่ในวงการศัลยกรรมมานาน ล่าสุด( 14 ก.พ. 2568) ดาว มยุรีย์ ได้จัดแกรนด์โอเพ่นนิ่ง Shane Clinic (เซนน์ คลินิก) สถานที่เติมความสวยของตนเอง สาขาเสนาเซ็นเตอร์ รัชโยธิน พร้อมให้สัมภาษณ์ ถึงจุดเริ่มต้นร่วมหุ้นเปิดคลินิกศัลยกรรม
กว่าจะมีใบหน้าที่สวยและพอใจในวันนี้ ต้องฝ่าฟัน อดทนกับคำบูลลี่ หน้าผี มนุษย์ต่างดาว มาตลอด ซ้ำร้ายพิษศัลยกรรมหมอเถื่อนทำหน้าพัง และแจงดราม่าคนแซะ “ไหนบอกว่าสวยเพราะสวดมนต์ ที่แท้ก็ติดมีดหมอ”
จุดเริ่มต้นที่มาเปิดคลินิกเอง? “จุดเริ่มต้นอันแรกเลยคือสนองนี้ดตัวเองก่อน แล้วก็ที่ผ่านมาลองผิดลองถูกมาเยอะ เจอกระแสข่าวดราม่าเรื่องศัลยกรรมมาตลอด 20 กว่าปี กว่าจะกลับมาได้หน้าอย่างนี้มันใช้เวลานานมาก เจอดราม่าคำแรงๆ ก็เยอะ”
“ตอนนี้จมูกและหน้าเข้าที่แล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องดูแลคือเติมฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ ตรงส่วนที่มันสึกหรอด้วยวัยของเราด้วย และได้มีโอกาสใช้บริการที่เซนน์คลินิกก็เลยชวนมา หลังจากที่เราไปใช้บริการที่อื่นมันก็แพงด้วยและไม่รู้ว่าสิ่งที่คลินิกนั้นใส่ให้เราไม่รู้ว่ามันของประมาณไหน พอทีนี้ได้มีโอกาสมาที่นี่ คุณหมอป๊อบก็เลยชวนมาร่วมหุ้นด้วยกัน”
20 กว่าปีที่ลองผิดลองถูกมา มีท้อมั้ย? “โอ้โห ท้อเหมือนกัน แต่เป็นคนที่สู้ไง มึงทำตัวเอง มึงก็ต้องแก้ ต้องอดทน ผ่านกระแสดราม่าแรงๆ บางทีย้อนกลับไปดูรูปตัวเอง มยุรีผ่านมาได้ยังไง หน้ามึงเป็นขนาดนี้เลยหรอ มิน่า คนเขาถึงว่าหน้าเราบวม กลับไปย้อนดูเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว หน้ามันแย่จริงๆ ก็ถือว่าขอบคุณตัวเองที่เราเก่ง เราอดทน ที่เราผ่านมาได้”
วันนั้นที่ถูกคนด่าว่าแรงๆ เสียใจแค่ไหน? “มันก็จิตตกค่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปพูดกับใคร มันไม่ได้ ก็ต้องอดทน รอเวลาค่อยๆ ผ่านไปค่อยๆ แก้ ความอดทนกว่าจะมาได้หน้านี้ของดาว 20 กว่าปี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสำคัญเลยที่ดาวเอาธรรมะชำระจิตของตัวเอง พึ่งธรรมะจะทำให้เราผ่านอะไรไปได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวดราม่า เรื่องหน้าเรา
เราอาจจะมีวิบากกรรม อดีตชาติ เราก็ไม่รู้ว่าชาติไหน พอมาชาตินี้เราไปเจอเจ้ากรรมนายเวร ความหมายของเจ้ากรรมนายเวรของดาว ก็คือคนที่มาเติมหน้าให้เราเป็นหมอเถื่อนที่เติมซิลิโคนเข้าไปให้เรา เขาคือเจ้ากรรมนายเวรเรา หลังจากนั้นมันก็เริ่มทำให้หน้าเราพัง เราบวม”
20 กว่าปีที่แล้วอย่างที่บอกศัลยกรรมมันไม่ได้เปิดแบบนี้ ใครชวนไปที่ไหน ไม่เคยรู้เรื่องเลยฉีดหน้าคืออะไร เพื่อนบอกว่าเธอไปเติมคางสิ ไปเติมตรงนี้สิ ก็ไปกับเพื่อน ไปถึงคนนั่งรอเต็มเลย 40-50 คนรอเติมหน้าเราก็คิดคงไม่เป็นไรแค่เติมนิดเดียว หลังจากเติมวันนั้นก็เติมไปตั้ง 6-7 ครั้ง จนกระทั่งหน้าบวมหน้าบาน จนเรามารู้ตอนหลังว่ามันไม่ใช่ฟีลเลอร์ โบท็อกซ์ มันคือซิลิโคน”
คำพูดไหนที่เจ็บสุด? “หน้ามนุษย์ต่างดาว แล้วก็หน้าผี แล้วก็หน้าเน่า”
เรียกว่าศัลยกรรมทำพิษมันเป็นบทเรียน เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต? “ใช่ค่ะ มันให้ประสบการณ์เยอะมาก”
นอยด์ไม่กล้าออกจากบ้าน? “ถามว่านอยด์ไหม มันนอยด์ไม่ได้ค่ะ (เสียงสั่น) เพราะว่าต้องทำงาน ช่วงที่หน้าแย่ๆ คอนเสิร์ตเยอะมาก บางทีหน้ามันบวมข้างหนึ่ง (ร้องไห้) คิดว่าจะเข้มแข็งแล้ว ก็คือมันนอยด์ไม่ได้ เราก็ต้องสู้อดทนกับมัน รับงานไปบางทีมันแย่ตรงช่วงหนึ่งที่รักษา เป็นช่วงผ่าตัดครั้งที่สองที่มันเกิดกับหน้าคือหน้าเบี้ยว เราไม่รู้ว่าคุณหมอผ่าตัดมันไปโดนเส้นประสาทของเราหรือเปล่า ครั้งที่สองเกิดเอฟเฟ็กต์มากๆ
เพราะว่าตอนนั้นเรื่องศัลยกรรมเกาหลีก็ยังไม่เข้ามา หมอไหนดีก็เฮไปหมอก็ผ่าตั้งแต่ใต้คางเลาะมาครั้งแรกในปาก ครั้งที่สองเปลี่ยนคลินิก ครั้งที่สองเกิดเอฟเฟ็กต์เยอะ 10 กว่าปีที่พี่ไม่กล้าผ่าตัดอีกเลย หน้า ปากเบี้ยว พูดก็เบี้ยว ยิ้มก็เบี้ยว สภาพจิตใจแย่มาก แต่ว่าต้องสู้ เราต้องยอมรับตัวเราเองว่า เธอเชื่อคนง่าย โทษตัวเองนะ ดาวไม่โทษคนอื่น”
ตอนที่หน้าพัง งานหายไปเลยมั้ย? “โอ้โห งานหายเลยแหละ จากที่เราจะมีงานละคร งานหนัง งานโฆษณา พอคนรู้ว่าหน้ามันเบี้ยว หน้าเน่า มันขาดโอกาสงานไปเยอะมาก หลาย 10 ล้านเลยแหละ”
ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะแก้ไขปัญหาได้? “กว่าจะกลับมาหน้านี้ ใช้เวลาประมาณ 25 ปี”
เคยเจอคนทักต่อหน้ามั้ย? “เคยเจอว่าหน้าอ้วนเฉยๆ แล้วก็หน้าไปทำอะไรมา มีถาม แต่ก็อาจจะไม่กล้าถามตรง ๆ หน้าไปทำอะไรมาคะ ทำไมหน้าใหญ่ แต่ทุกคนไม่ค่อยกล้า ส่วนใหญ่จะเข้ามาคอมเมนต์ที่รูปซะมากกว่า”
เมื่อ 2 ปีก่อนที่ผ่านมาช่วงที่ดึงหน้าใหม่ๆ โดนดราม่าแรงเหมือนกัน ก็ถึงบอกทุกคนว่าผ่าตัดดึงหน้ามันต้องใช้เวลา จากหน้าเสร็จก็มาจมูก หน้าเริ่มกระชับเข้าที่ ตอนนี้ก็เริ่มหายแล้ว มีแค่นิดๆ หน่อยๆ มีแต่คำชมบอกพอแล้วนะคะ ทุกคนเป็นห่วง พอแล้วนะคะ หน้านี้สวยแล้วนะคะ อย่างที่บอกที่กลับมาได้วันนี้ ที่ทำให้พี่ดาวเข้มแข็งมาได้เพราะบุญจริงๆ เพราะพี่ดาวเอาธรรมะนำทาง”
ถึงบอกว่าสวยเพราะบุญ เพราะว่าปฏิบัติ สวดมนต์ สมาทานศีล5 ก่อนนอนทุกคืน ช่วงหลังๆ ตั้งแต่โควิดมาเนี่ย จะตื่นใส่บาตรทุกวัน แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือสมาทานศีลทุกคืน ไม่เคยขาด เป็นลมหายใจของเรา เพราะพี่ดาวเชื่อในพลังบุญทำให้เรากลับมามีวันนี้เพราะบุญจริงๆ”
เบรกแค่นี้ไม่ไปทำเพิ่มเติม พอใจกับหน้านี้ของตัวเองแล้ว? “ณ วันนี้พอใจหน้านี้ แต่ถามว่าจะเบรกเท่านี้มั้ย เราดูตามกาลเวลาเพราะเรามีคลินิกอยู่แล้ว พี่ดาวมีคลินิกเป็นของตัวเอง พี่ดาวจะไม่ซี้ซั้วเหมือนเมื่อก่อน ก็ต้องให้คุณหมอช่วยดู เติมได้มั้ยคะ ร่องแก้มอย่างนี้ ตามีริ้วรอยแล้วนะ พอเราจะเติมเราก็มีความมั่นใจว่าปลอดภัย เราจะดีขึ้น สวยขึ้น เพราะเรามีคลินิกของเรา มีคุณหมอที่อยู่ตรงนี้ค่ะ”
คนมองว่าสวยเพราะมีดหมอ ไม่ใช่เพราะธรรมะ? “เดี๋ยวขยายความคำว่าสวยเพราะสวดมนต์ มันทำให้เราสวยจากภายในสู่ภายนอก ทำให้เรามีออร่า คนที่มีธรรมะมันจะเปล่งประกายออกมา ทำให้เราหน้าใส ฝ้าไม่ค่อยมี แล้วก็จะทำให้เรามีความสุข ปล่อยวาง ใครจะดราม่าเข้ามาอะไรยังไง จิตใจเราจะเข้มแข็ง ไม่ค่อยไปโกรธเขา บุญก็นำพาสิ่งดีๆ มาให้เราเจอกัลยาณมิตรที่ดี คุณหมอที่ดี เจอสิ่งดีๆ”
ปลงแล้ว? “มันปล่อยวางมากขึ้น ทำให้รู้ว่าโลกของเรา สัจธรรมมันเป็นยังไง ทุกอย่างเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป วันนี้เราสวย วันหน้าเราอาจจะต้องแก่ ไม่สวย ทุกอย่างมันอยู่ในตัวเรา มันไม่มีอะไรเป็นของเราอยู่แล้วแม้กระทั่งร่างกายนี้ สิ่งของก็ไม่ใช่ของเรา ร่างกายก็ไม่ใช่ของเรา จิตมาอาศัยร่างกายนี้เกิดเท่านั้น สักวันก็ต้องย่อยสลายกลับสู่โลกกลับสู่ดินเหมือนเดิม”
สวยแล้วยังสวดมนต์เหมือนเดิม? “เหมือนเดิม คือยิ่งเราสวยขึ้น ชีวิตดีขึ้น พี่ดาวจะไม่ทิ้งบุญเลย ถ้าตื่นเช้าได้ไม่ได้ไปไหน พระไม่มา หรือเราไปต่างจังหวัด จะใส่บาตรทุกวัน แต่สิ่งที่ไม่ขาดเลย 365 วันก็คือสมาทานศีล 5 สวดมนต์ก่อนนอนเป็นหนึ่งลมหายใจเหมือนเราดื่มน้ำทานข้าว เราไม่ได้สวดเหมือนขาดอะไรไป ขาดไม่ได้เลย”.