เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 28 ก.พ. ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 (บก.ตชด.ภ.1) พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะรองโฆษก ดีเอสไอ กล่าวถึงภาพรวมการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ซึ่งในวันนี้เข้าสู่วันที่ 13 แล้ว ก่อนเข้าร่วมประชุมในช่วงเช้าวันนี้ ว่าสำหรับการดำเนินการตรวจใบสุทธิพระสงฆ์นั้น ทางเราได้ขอความร่วมมือไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนการตรวจใบสุทธิพระสงฆ์ที่ร่วมชุมนุมอยู่ที่บริเวณตลาดกลางคลองหลวง จ.ปทุมธานี นั้น ในที่ประชุมกำลังมีการพิจารณาร่วมกันว่าจะดำเนินการอย่างไร หากตรวจพบว่าพระสงฆ์ไม่มีใบสุทธิ ซึ่งเราอาจจำเป็นต้องนิมนต์ท่านกลับวัดต้นสังกัดทันที แต่เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ก็ได้มีการต่อรองโดยพระสงฆ์ต้องการที่จะอยู่ปฏิบัติศาสนกิจในบริเวณดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้เราจะต้องหารือในที่ประชุมกันอีกครั้ง เพื่อดูว่าจะสามารถทำได้หรือไม่

 

พ.ต.ต.วรณัน กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีดีเอสไอ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการประชุมเกี่ยวกับการปรับแผนปฏิบัติการนั้น ที่ผ่านมา เรามีการประชุมปรับแผนและประเมินสถานการณ์กันอยู่ทุกวัน โดยเจ้าหน้าที่จะไม่ใช้กำลังในการเข้าไปเพื่อที่จะตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ส่วนจะมีการเจรจารอบที่สองหรือไม่นั้น ตรงนี้ยังไม่สามารถตอบได้ ต้องขอฟังจากที่ประชุมก่อน ทั้งนี้ ตนมีความเป็นห่วงเรื่องวาทกรรมที่มีการอ้างว่าจะทำลายศาสนาบ้าง อะไรบ้าง ซึ่งอยากให้ทุกคนดูกันเองว่าใครที่เป็นผู้ทำลายศาสนา เราต้องดูว่าศาสนาสอนอะไร ให้ทำอะไร และไม่ให้ทำอะไร ซึ่งตนเชื่อว่าประชาชนและสังคมมีวิจารณญาณในการรับข่าวสารอยู่แล้ว

 

รองโฆษก ดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่เตรียมเรียก 40 บุคคลปลุกระดมมวลชนนั้น เบื้องต้นทราบว่ามี 40 คน ส่วนรายชื่อเป็นใครบ้างนั้นต้องขอดูรายละเอียดก่อน อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาการข่าวของดีเอสไอและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันมาโดยตลอด โดยพบว่ากลุ่มคนเหล่านี้มีพฤติการณ์เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวสนับสนุนมวลชน ทั้งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนที่อยู่ในประเทศ แต่จะมีต่างประเทศด้วยหรือไม่นั้น ต้องขอดูรายชื่ออีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เราจะใช้การออกคำสั่งเรียกให้มารายงานตัว ไม่ใช่การออกหมายเรียก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน