จากกรณี อุบัติเหตุเก๋งชน จยย. ทำให้หนุ่มวัย 18 ปี เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยพบว่า ผู้ขับ จยย. คือ นายจิรภาษ ธงอาษา อายุ 18 ปี ถูกรถยนต์เลกซัส สีขาว ทะเบียน กฆ 6782 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีนายชวลิต หรือ ดีเจ.เชาเชา ศรีมั่นคงธรรม อายุ 41 ปี เฉี่ยวชนบริเวณถนนตัดใหม่วัชรพล-สุขาภิบาล 5 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ เมื่อกลางดึกวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา บาดเจ็บสาหัส พักรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู ร.พ.ภูมิพลฯ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยพบภาพจากกล้องวงจรปิด ว่า ก่อนเกิดเหตุ แก๊ง จยย. จอดรอแข่งอยู่ริมถนน ก่อน นายจิรภาษ จะขับสวนเลนกลับมาและชนกับรถของดีเจ เชาเชา


เมื่อเวลา 17.20 น.นายชวลิต ศรีมั่นคงธรรม อายุ 41 ปี หรือดีเจ เชาเชา พร้อมทนายความ ได้เดินทางมาที่ สน.สายไหม เพื่อเข้าให้ปากคำกับ พ.ต.ต.ชัยณรงค์ แดงนกขุ้ม สว.( สอบสวน) สน.สายไหม ตามที่นัดหมาย โดยระหว่างที่เดินทางมาที่ สน.ดีเจ เชาเชา ได้พบกับ นางสมควร ธงอาษา อายุ 50 ปี แม่นายจิรภาษ ธงอาษา อายุ 18 ปี ผู้เสียชีวิต จึงเข้าไปสวมกอดแล้วยกมือไหว้ขอโทษและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนมอบเงินสดจำนวน 30,000 บาทเพื่อช่วยงานศพและพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพงานศพในวันพรุ่งนี้ พร้อมกล่าวว่า “อยากให้คุณแม่รับไว้เพราะมันเป็นเรื่องของมนุษยธรรม อยากให้คุณแม่รับไว้เพราะผมอยากช่วย ผมเองก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ อันนี้ไม่มีผลต่อรูปคดี”

 
เมื่อเห็นว่าคุณแม่ยังไม่ยื่นมือมารับ “ดีเจเชาเชา” ก็เผยว่า” ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นครับ” ก่อนคุณแม่จะหันไปขอความคิดเห็นจาก “นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร” ทนายความ ซึ่งทนายความบอกว่าคุณแม่สามารถรับเงินก้อนดังกล่าวได้ เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในงานศพ ไม่อย่างนั้นก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาจัดงานศพลูก


ด้านแม่ผู้เสียชีวิตเผยว่า ยังมีความติดใจอยู่นิดหน่อย เพราะถ้าทางดีเจดังต้องการจะรับผิดชอบจริง ควรจะไปงานศพตั้งแต่วันแรก และถ้าไม่มีสื่อนำเสนอข่าว ก็คงไม่ยอมออกมา ซึ่งลูกชายตนตอนมีชีวิตก็เป็นคนไม่ยอมใคร ถึงตายเป็นวิญญาณแล้วก็คงไม่ยอมเหมือนกัน แต่ถ้าดีเจดังจะไปที่งานศพหลังจากนี้ตนก็ยินดี และอยากจะอยู่รอคุยซึ่งๆ หน้าก่อนจะกลับ เพราะอยากรู้ในสิ่งที่ยังค้างใจอยู่

 

นายชวลิต หรือดีเจ เชาเชา กล่าวว่า ตนเองช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เคยเกิดปัญหาแบบนี้ในชีวิต วันนี้ที่มาให้ปากคำ เป็นหน้าที่ที่ต้องทำอยู่แล้ว ในส่วนการเยียวยา ตนเป็นมนุษย์เหมือนกัน ก็ยินดีที่เยียวยา ตนก็รู้ว่าการสูญเสียเป็นยังไง ฝ่ายคุณแม่ ตนจะเยียวยาให้เต็มที่ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่อยากให้เกิดขึ้น ส่วนเรื่องราวทั้งหมด พรุ่งนี้(วันที่ 5 พ.ค.) เวลา 11.00 น. จะแถลงข่าวทั้งหมด ส่วนวันนี้ ขอให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน

 

นายชวลิต กล่าวต่อว่า เหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นกระชั้นชิดมากและเร็วมาก ตนขับรถมาตามปกติ จากนั้นก็มอเตอร์ไซค์พุ่งมา และก็เห็นว่ามีคนเจ็บจึงลงจากรถไปช่วย ตอนนั้นเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์เต็มไปหมด ซึ่งตนก็พยายามระมัดระวังอย่างถึงที่สุดแล้ว ส่วนที่บอกว่าตนพยายามหนีนั้น และเพื่อคู่กรณีมาขวางไว้จนไปไม่ได้นั้น ยืนยันว่า วันนั้นไม่ได้ตั้งใจหนีอย่างแน่นอน ที่ต้องเลื่อนรถเพราะว่ากลัวว่าจะมีรถมาชนท้าย และยืนยันว่าอยากช่วยคนเจ็บ ส่วนหลักฐานเป็นทางทนายดีกว่า ส่วนเรื่องงานศพยินดีที่จะไป และอยากจะคุยกับคุณแม่ผู้เสียชีวิต โดยพรุ่งนี้นี้จะไปร่วมงานศพ และเบื้องต้นจะมอบเงินช่วยเหลือให้ 30,000 บาท

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน