จากคดีอุทาหรณ์สำหรับ “ป้าทุบรถ” นอกจากเป็นปัญหาการจอดรถกีดขวางอย่างไม่เป็นระเบียบ ยังบานปลายไปถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากการก่อสร้างตลาดในชุมชน เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่สำนักงานเขตประเวศ นายธนะสิทธิ์ เมธพันธุ์เมือง ผู้อำนวยการเขตประเวศ กทม. ได้แถลงข่าวว่า ในวันนี้ได้เชิญเจ้าของตลาด 5 แห่งและผู้ค้าร้านสะดวกซื้อฝั่งตรงข้ามบ้านคุณป้าอีก 1 ร้าน เพื่อมาทำความเข้าใจให้ตรงกัน และแจ้งว่าจะดำเนินคดีต่อผู้ทำผิดทุกราย ส่วนรายที่แก้ไขก็ต้องทำไปตามระเบียบ ส่วนผู้ทำผิดก็ต้องเซ็นรับคำสั่งทุกราย

“ระยะนี้เป็นระยะที่ยังให้ขายอยู่เพื่อระบายสินค้า และตลาดจะปิดภายใน 7 วัน ตามที่ผู้ว่ากทม.ให้ดำเนินการตามกฎหมายและให้ปฏิบัติเหมือนกัน 50 เขต โดยวันที่ 28 ก.พ.นี้ จะมีตลาดสวนหลวง ตลาดรุ่งวาณิชย์ ตลาดร่มเหลือง ยุติโดยสิ้นเชิง จนกว่าจะทำถูกต้อง แต่หากมีคำสั่งศาลมาว่าเป็นพื้นที่สำหรับบ้านเดี่ยวก็ต้องรื้อถอน และย้ายทั้งหมดออกไป”นายธนะสิทธิ์ กล่าว

นายธนะสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนตลาดยิ่งนรา ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต ขออนุญาตขายเชิงพาณิชย์ไว้ จะยังสามารถขายได้ แต่ต้องขายของตามประเภทที่พ.ร.บ.สาธารณสุขกำหนดไว้ คือ ต้องไม่มีของสด แต่ต้องมีที่จอดรถตามที่กฎหมายกำหนด คือ 14 คัน หากไม่สามารถแก้ไขได้และตรวจสอบไม่ผ่านก็จะต้องยุติเช่นกัน

“ส่วนผู้ค้าจาก 3 ตลาดที่ต้องยุติ พบว่ายินดีให้ความร่วมมือ โดยจะไปดูที่ขายเอง ซึ่งเขตก็สามารถหาที่รองรับให้ได้ แต่ผู้ค้ายืนยันว่าจะหาที่เอง ส่วนอีก 2 ตลาดที่เหลือสามารถขายได้ แต่ต้องไม่มีเรื่องร้องเรียน หรือทำความเดือดร้อนให้กับประชาชนในละแวก เรื่องที่ผ่านมา ผมไม่รู้ แต่จะมีคณะทำงานขึ้นมาใหม่เพื่อแก้ปัญหาตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ถ้าผมยังอยู่ตรงนี้ เป็นผู้อำนวยการเขตก็จะทำให้ถูกต้อง”

เมื่อถามว่าที่ผ่านมามีข้อสังเกตว่ามีการจ่ายใต้โต๊ะหรือไม่ นายธนะสิทธิ์ กล่าวว่า “ท่านผู้ว่า พูดชัดและสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว สมัยผมไม่มีผู้มีอิทธิพลเด็ดขาด ส่วนตลาดที่กำหนดให้แก้ไขถ้าตรวจสอบแล้วไม่ถูกต้องก็ไม่อนุญาตให้ทำต่อเช่นกัน”

“5 ตลาด จำแนกลักษณะ คือ ตลาดสวนหลวง ขออนุญาตจัดตั้งอาคาร แต่ไม่มีใบอนุญาตสร้างตลาด ตลาดเปิ้ล มีใบอนุญาตธุรกิจเชิงพาณิชย์ ตลาดยิ่งนรา มีใบอนุญาตถูกต้อง แต่โครงสร้างไม่มีที่จอดรถให้แก้ไขใน 7 วัน ตลาดรุ่งวาณิชย์ และตลาดร่มเหลือง ไม่มีใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร และใบอนุญาตจัดตั้งตลาด ให้ยุติภายในวันที่ 28 ก.พ. ส่วนพวกร้านสะดวกซื้อยังต้องตรวจสอบ”นายธนะสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามถึงกระแสสังคมเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายธนะสิทธิ์ กล่าวว่า “เรื่องแบบนี้ ในโซเชียลก็จะเป็นแบบนี้ เราทำงานก็ต้องมีจุดยืน ผมไม่มีข้างใคร พวกใคร คิดว่าอีกหน่อยก็คงเข้าใจผม เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำให้เป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ไม่ซีเรียส และไม่โกรธอะไรในโซเชียล ไม่ท้อและทำงานอย่างเต็มที่เพื่อแก้ปัญหา”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน