บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ (5-9 ต.ค. 2563) สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น แตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ที่ 31.05 บาทต่อดอลลาร์ โดยการแข็งค่าของเงินบาทสอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย ขณะที่เงินดอลลาร์ เผชิญแรงเทขาย หลังรายงานข่าวระบุว่า ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์สามารถออกจากโรงพยาบาล กลับมากักตัวต่อที่ทำเนียบขาว ประกอบกับตลาดเริ่มมีความหวังอีกครั้งในเรื่องมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐ จากโควิด-19 หลังปธน. ทรัมป์ เปิดโอกาสสำหรับการผ่านบางมาตรการออกมาก่อนเลือกตั้ง นอกจากนี้ ภาพรวมสกุลเงินเอเชียยังได้อานิสงส์เพิ่มเติมในช่วงปลายสัปดาห์ตามสัญญาณการแข็งค่าของเงินหยวนหลังตลาดการเงินจีนกลับมาเปิดทำการอีกครั้งหลังจากช่วงวันหยุดยาว ในวันศุกร์ (9 ต.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.05 เทียบกับระดับ 31.60 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (2 ต.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (12-16 ต.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 30.90-31.40 บาทต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ปัจจัยการเมืองในประเทศ การเจรจา BREXIT กำหนดการดีเบตรอบสองของนายโดนัลด์ทรัมป์ และนายโจ ไบเดน และบทสรุปของมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย. ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดนิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดฟิลาเดลเฟีย และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนต.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามเครื่องชี้เศรษฐกิจเดือนก.ย. ของจีนด้วยเช่นกัน

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย หุ้นไทยปรับตัวขึ้นจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,267.14 จุด เพิ่มขึ้น 2.39% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 51,126.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.32% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.70% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 323.12 จุด

หุ้นไทยปรับตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ขานรับข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับอาการป่วยของปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ความหวังต่อมาตการเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงที่ประชุมศบศ. มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงปลายปี ส่วนหุ้นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นมากสุดระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยีและพลังงาน อย่างไรก็ดี หุ้นไทยลดช่วงบวกลงบางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ท่ามกลางสัญญาณระมัดระวังระหว่างรอประเมินสถานการณ์การเมืองในประเทศ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (12-16 ต.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,250 และ 1,230 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,280 และ 1,300 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นการเมืองและการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย ความคืบหน้าเกี่ยวกับการพิจารณามาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 และกำหนดการดีเบตรอบสองของคู่ชิงปธน. สหรัฐ ตลอดจนประเด็น BREXIT ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีกและผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนก.ย. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนส.ค. ของญี่ปุ่นและยูโรโซน รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจเดือนก.ย. ของจีน


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน