ยิ่งวันภาพและภาระหน้าที่ของ”พรรคคสช.”ด้วยกัน โดยเฉพาะระหว่างพรรคพลังประชารัฐ กับพรรครวมพลังประชาชาติ ยิ่งมีการจำแนกอย่างเด่นชัด
สัมผัสได้จาก 2 ภาพในห้วงใกล้เคียงกัน
ภาพ 1 เป็นการเดินสายไปพูดที่หาดใหญ่ สงขลา ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
ภาพ 1 เป็นการเคลื่อนไหวของ “สามมิตร”
เบื้องต้นคือการดูดกลางรีสอร์ทดัง จังหวัดเลย ต่อมา คือการเลี้ยงอดีตส.ส.อดีต ส.ว.ที่ไพน์เฮิร์ส กอล์ฟคลับ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กว่า 100
ภาพ 1 เป้าหมายคือภาคใต้ ภาพ 1 เป้าหมายคือภาคอีสาน
ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ภารกิจหลักย่อมเป็น “การดูด”
เพียงแต่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มุ่งไปยังภาคใต้
เพียงแต่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน มุ่งไปยังภาคอีสานและภาคเหนือ
ภาคใต้เป้าหมาย คือ พรรคประชาธิปัตย์
ภาคอีสานและภาคเหนือ เป้าหมายหลัก คือ พรรคเพื่อไทย แต่ถ้าหากมี พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา ติดปลายนวมมาด้วย ก็เป็นการดี
เมื่อประสบกับ “ยุทธศาสตร์” อันมาจากพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมพลังประชาชาติไทยเช่นนี้ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ อาจยังมั่นใจ
แม้จะเห็นชัดผ่านกรณี นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข แม้จะเห็นชัดผ่านกรณี นายธานี เทือกสุบรรณ
ทั้งหมดนั้นล้วนเป็นของจริงแท้ แน่นอน
จากการกำหนดยุทธศาสตร์ “แยกกันเดิน รวมกันตี”ของพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย เช่นนี้จึงมากด้วยความมั่นใจ
มั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้ไม่น้อยกว่า 150 มั่นใจว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทยจะได้ไม่น้อยกว่า 50
ผนวกรวมกับเครือข่ายอื่นๆอีก 251 ย่อมเป็นของ”คสช.”
นายกรัฐมนตรีเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แน่นอน ขณะเดียวกันพรรคเพื่อไทย เป็นฝ่ายค้านแน่นอน