ในที่สุด กรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ซ้ำรอยเดียวกันกับกรณี ของนายทักษิณ ชินวัตร
นั่นก็คือ ดำรงอยู่เหมือนเป็น”หนอน”ใน”หัวใจ”
เพียงแต่กรณีของ นายทักษิณ ชินวัตร เริ่มต้นจากก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นผลมาจากก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 และส่งผลสะเทือนอย่างรุนแรงหลังการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อเดือนสิงหาคม 2560
กล่าวสำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในเบื้องต้นก็เงียบเชียบไม่ปรากฎการเคลื่อนไหวใดๆ
แต่ ณ วันนี้ เริ่มมีการเคลื่อนไหว
เพียงการปรากฏตัวหน้าห้างสรรพสินค้า กรุงลอนดอน เพียงการปรากฎตัวบนถนนคนเดินกลางกรุงปักกิ่ง
ก็กลายเป็นข่าวครึกโครม
ไม่เพียงเป็นข่าวภายในประเทศ หากเป็นข่าวในระดับสากล กระจายออกไปทั่วโลก
ขนาดยังไม่ใกล้ “วันเลือกตั้ง”
การขยับขับเคลื่อนของ นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังสร้างความหวั่นไหวให้ได้อย่างลึกซึ้ง กว้างขวาง ระดับนี้
หากเป็นในสถานการณ์”เลือกตั้ง” การขยับ ขับเคลื่อนของ 2 คนนี้จะส่งผลสะเทือนได้ระดับไหน
ยากที่จะคิดคาดและประเมินสถานการณ์ได้
การหลุดคำว่า “ไอ้กระพี้” ออกมาจึงสะท้อนความละเอียดอ่อนของสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี
ทั้งหมดเท่ากับยืนยันให้เห็นว่ารัฐประหาร 2 ครั้งต่อเนื่องกันภายในรอบ 1 ทศวรรษดำรงอยู่อย่างไร
ที่ใช้คำว่า “เสียของ”
อาจหมายถึงรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 จึงจำเป็นต้องรัฐประหารในเดือนพฤษภาคม 2557
แทนที่จะต้องประมือกับ นายทักษิณ ชินวัตร คนเดียว ณ วันนี้ยังมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตามมาอีก กลายเป็นปีศาจระดับอดีตนายกรัฐมนตรีที่คอยหลอกหลอน
ไม่เพียงในการเลือกตั้งเดือนธันวาคม 2550 ไม่เพียงในการเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2554
หากยังตามมาในการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 อีก
