สองสาวติ่งทุ่มทุนสร้าง สวมวิญญาณติ่งตั้งแต่สมัยคอซอง จนกระทั่งวัยทำงาน พวกเธอยินดีเปิดใจทำไมเป็นติ่ง ในโลกแห่งความเป็นติ่งกับโลกแห่งการเรียนการทำงาน พวกเธอเจอความกดดันอะไรบ้าง ต้องมีสติในการเป็นติ่งอย่างไร ต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างไร เพื่อให้พ่อแม่ยอมรับและเข้าใจ แล้วภูมิใจดั่งทุกวันนี้

ติ่งเกาหลี หลงรักใครสักคนอย่างหัวปักหัวปำจนกลายเป็น“ติ่ง” วันๆ สิงอยู่ในทวิตเตอร์ ส่องแฮชแท็ก เซฟภาพ ดูคลิปดูรายการ เห็นอากัปกิริยาน่ารักๆ ก็ฟินเฟ่อร์ เปิดยูทูบช่วยปั่นยอดวิวในเอ็มวีอีกแน่ะ

ศิลปินมีคอนเสิร์ต-มาไทย ดีใจรัวๆ ถึงวันกดบัตรจริง ตาลีตาเหลือกตื่นแต่เช้านั่งเฝ้าเว็บ รัวนิ้วกดบัตร นกบ้างไม่นกบ้าง แต่ในที่สุดก็หาทางไปดูจนได้

พอมีข่าวศิลปินจะคัมแบ็ก ติ่งจำนวนไม่น้อยรอช้าอยู่ใย บินไปเกาหลีเลยจ้า

นี่คือส่วนหนึ่งของภาพชีวิตติ่ง ทว่าเบื้องหลังหาได้ราบเรียบไม่

สองสาวหัวใจติ่งสุดทุ่มเทด้วยความรักและเงิน บินไปถึงเกาหลีหลายครั้งหลายครา บางทริปมุ่งไปดูคอนเสิร์ตโดยเฉพาะ บางทริปตั้งใจไปเข้าชมเบื้องหลังศิลปินในดวงใจอัดรายการ live หรือบางทริปแค่ได้ไปยืนมองตึกที่ทำงานของศิลปิน ก็ลงทุนทุ่มใจทำมาหมดแล้ว

วันนี้สองสาวแซ่บมาเล่าเรื่องราวชีวิตวิถีติ่งของพวกเธอค่ะ

“จัน” อายุ 25 ปี อาชีพแอร์โฮสเตส สายการบินแห่งชาติ

“เริ่มติ่ง D2B ตั้งแต่ป.4 เป็นจุดเริ่มต้นของการรักใครสักคน ไม่ได้ทำอะไรมากมาย เพราะยังเด็ก ไม่มีเงิน พ่อแม่ยังไม่ค่อยเข้าใจ ตอนพี่บิ๊กเข้าโรงพยาบาล ก็แอบแม่ไปพับนก

ผ่านยุค D2B เป็นยุคกอล์ฟ-ไมค์ พ่อแม่รู้แล้วว่าเราชอบ แค่ไปดูคอนเสิร์ตที่พารากอน กลับถึงบ้านสี่ทุ่ม โดนเคอร์ฟิว ไม่ให้ไปไหนอีกเลย

ตอนป.6 ญี่ปุ่นเริ่มเข้ามา เราไม่อินญี่ปุ่น แต่พอถึงยุคเกาหลี เฮ้ย ชอบวงนี้”

เธอหมายถึง ดงบังชินกิ (Dong Bang Shin Ki) บอยแบนด์วงแรกๆ ที่ช่วยเปิดตลาด K-POP ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

“ดงบังฯ มี 5 คน สมัยเราจะเป็นดงบังฯ ก่อนทุกคน หลังจากดงบังฯ ก็เป็นเอสเจ

SJ หรือ Super Junior อีกบอยแบนด์เกาหลีรุ่นเดอะที่โด่งดังอย่างมากทั่วโลก เป็นอีกหนึ่งวงที่จุดกระแส Korean Wave ให้ลุกโชน วงนี้มีสมาชิกถึง 13 คน และดังทุกคน

“คนติ่งเอสเจเยอะ แต่เราก็ยังดงบังฯ ตอนพอม.2 เริ่มมีคอนเสิร์ตในไทย เราไม่มีตังค์ แต่อยากได้บัตร เพื่อนบอกหาบัตรฟรีให้ได้ ทีนี้ไปไง ไม่รู้จักอิมแพคฯ ก็ให้อาขับรถตู้มารับที่โรงเรียน ทั้งเราและเพื่อนขึ้นรถตู้ไปด้วยกัน”

สาวน้อยจันวัยมัธยมได้บัตรฟรีในการดูคอนเสิร์ตครั้งแรก ทว่าต่อมาดงบังฯ มาจัดคอนเสิร์ตในไทยทุกปี เธอหาบัตรคอนเสิร์ตได้จากที่ไหน

แต่ละปีเพิ่มความยิ่งใหญ่ เรารู้เดี๋ยวปีหน้ามา ตอนนั้นม.2 ได้เงินแค่วันละ 60 บาท เก็บทุกวันเลย ไม่ยอมเอาเงินมาใช้ โรงเรียนมีนมให้น้องประถม เราพี่มัธยมไม่ได้ แต่เด็กประถมไม่อยากกินนม เราเด็กมัธยมก็ไปขอนมของน้องๆ มากิน (หัวเราะ)

ตอนนั้นค่าบัตรคอนเสิร์ตแพงสุด 4,500 บาท เราเก็บเงินล่วงหน้า 1 ปี เก็บแต่แบงค์ 20 เป็นพันๆ พอใกล้วันคอนเสิร์ต จะเอาไปแลกกับแม่ แม่ถามแลกไปทำไร เราบอกเอาไปเก็บ ไม่บอกหรอกว่าไปซื้อตั๋ว พอถึงวันไปดูคอนเสิร์ต แม่ถามเอาเงินไปซื้อตั๋วเหรอ เราบอกเปล่า ได้ตั๋วฟรี

นอกจากแอบเก็บเงินค่าอาหารไว้ซื้อบัตรคอนเสิร์ตแล้ว ขั้นตอนการซื้อบัตรฯ ก็ต้องพากเพียรมาก

สมัยนั้นจองบัตรฯ ยาก ไม่มีเว็บ เราต้องไปอยู่หน้าเซ็นทรัลเวิล์ด ไปต่อคิว พอประตูห้างเปิดก็วิ่ง สมัยนั้นแค่รอประตูห้างเปิด ไม่ต้องไปรอเช้ามืด ไม่ต้องแคมป์ (ค้างคืน-บางห้างฯ อนุญาติให้นอนบริเวณด้านนอกที่จัดให้) ตอนนั้นเป็นติ่งที่ทุ่มเทมาก ไปคอนเสิร์ตทุกปี แม่ไม่ถามแล้วว่าค่าบัตรเท่าไร เหมือนแม่รู้แต่ไม่พูด เริ่มปล่อย คงเห็นว่าเราใช้ชีวิตเองได้

จริงๆ แล้ว สมัยก่อนติ่ง ผลคะเนนการเรียนของจันค่อนข้างไม่ดีและความประพฤติค่อนข้างเกเร

เรียนแย่และเกเร ไปซอยผมผิดระเบียบ แต่พอมาติ่งเกาฯ (เกาหลี) กลับเรียนดี มีศิลปินเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ต่อให้เราเกเร เราก็ไม่เกเรออกนอกลู่นอกทาง เพราะต้องกลับมาติ่งติดตามข้อมูลเขา เพราะฉะนั้นจะเถลไถลไปสนเรื่องอื่นไม่ได้

เมื่อดงบังฯ แยกวง สำหรับจัน ถ้าไม่ใช่สมาชิก 5 คน เธอก็ไม่อิน เธอหยุดติ่ง จังหวะเดียวกับสอบเข้ามหาวิทยาลัย เข้าไปเรียนปี 1 ก็มีแฟน จึงหายจากแวดวงติ่งไปเลย

“ย้อนกลับไปมองตัวเอง ณ เวลานั้น ไม่เสียดายนะ เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข ไม่เสียดายเวลา ไม่เสียดายเงินด้วย”

ครั้นเลิกกับแฟนปั๊บ ก็กลับมาติ่งวงดนตรีแนวร็อคอินดี้ ซีเอ็นบลู (CNBLUE) พักหนึ่ง ก่อนไปติ่งวงฮิปฮอปบอยแบนด์ มอนสตา เอ็กซ์ (Monsta X) ถึงปัจจุบัน

เลิกกับแฟน แล้วรู้สึกไม่รู้จะทำอะไร ไม่มีที่พึงทางใจ ก็กลับมาติ่ง ตอนนั้นชอบ พี่จงฮย็อน ซีเอ็นบลู ติ่งไม่นาน ก็มาชอบ มอนสตา เอ็กซ์ วงนี้มาจากรายการเซอร์ไวเวอร์ (Survivor) ที่ชื่อว่า NO.MERCY และเดบิวต์ (Debut) ออกมา

กลับมาติ่งในวัยอุดมศึกษา เธอเริ่มบินไปเที่ยวเกาหลี

เรียนปี 2 ชอบซีเอ็นบลู พอไปเที่ยวเกาหลี ก็ไปหน้าตึกเขา ไปดูวันนี้เขาเข้าตึกหรือเปล่านะ เห็นเขาเดินเข้าตึก เราสบายใจแล้ว ติ่งเกาหลีทุกคนจะเป็นแบบ เฮ้ย ตึกนี้ โอปป้าเราอยู่ตึกนี้นะ ไปเดินผ่านหน่อย บางวันก็ไปยืนมอง จริงๆ ทำแบบนี้ก็ไม่ดี ที่เกาหลีเรียกว่า ‘ซาแซง’ เหมือน stalking (ตามไปทุกหนแห่ง) แอบตาม ซึ่งคนเกาหลีไม่ชอบ แต่ด้วยความที่เราเป็นคนต่างชาติ ไม่ได้จู่โจม เราแค่ไปยืนมอง เห็นเขาเข้าตึกแล้วอ่ะ น่ารักดี

ซาแซง (사생) คือ กลุ่มแฟนคลับที่มีความต้องการอยากใกล้ชิด อยากรู้เรื่องราวของไอดอลเคป๊อปมาเกินขอบเขตความพอดี ตามจนรุกล้ำความเป็นส่วนตัว และมักมีพฤติกรรมน่ากลัว เช่น บุกเข้าบ้านสะกดรอยตามศิลปิน กรีดแขนเลาะเนื้อบอกรักศิลปิน ฯลฯ

มาพีคตอนเริ่มทำงาน มีรายได้เอง ก็ไปติ่งที่เกาหลี ไปดูมอนสตาเอ็กซ์อัด live ที่เกาหลี สมัยติ่งดงบังฯ เราไม่ได้เห็นเบื้องหลังขนาดนี้ แต่พอติ่งมองสตาเอ็กซ์ ได้เห็นอะไรแบบนี้ เรารู้สึกเราใกล้เขามากขึ้น

งานนี้ไม่ต้องเสียเงิน เพียงทำตาม 3 สิ่งที่ทางผู้จัดกำหนด ได้แก่ ซื้อผ้าเชียร์, ยืนยันตัวตนในเว็บและปริ้นท์เอาไป, ซื้อเพลงออนไลน์เขา แล้วไปยื่นยืนยันให้ผู้จัดดูว่าเธอมี 3 สิ่งนี้ ก็จะได้เข้าไปดู

“ทีนี้เหมือนคนที่ได้แล้วอยากได้อีก”

ปีที่แล้ว เธอกับเพื่อนสาวพากันบินไปติ่ง วอนนา วัน (WANNA ONE) วงที่มาจากรายการเซอร์ไวเวอร์ อย่าง Produce X 101 นำเด็กวัยรุ่นผู้ชายจำนวน 101 คนมาฝึกและหาคนที่ดีที่สุด 11 คน เพื่อเดบิวต์ ซึ่งจันปิ๊งกับ น้องคัง แดเนียล

แค่ปีครึ่ง เดี๋ยวพวกน้องก็แยกวง ทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องไป และอยู่ในช่วงที่เรามีเงิน เริ่มจากไปดูคอนเสิร์ตมั้ย ไปดู live มั้ย คุยกันในกลุ่มเพื่อน ก็จองตั๋วไปเลย

เธอยอมรับว่าทริปล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่าน ราคาบัตรแพงมาก

คนอื่นอาจมองว่าเยอะไปปะ เกินไปปะ โง่ปะ แต่มันคือความสุขของเรา คนซื้อกระเป๋าใบละแสนสองแสน เขารู้สึกพอใจ มันก็คือความสุขของเขา แต่อย่างเรา เราไม่อินกับกระเป๋าแบรนด์เนม สมมติเราซื้อบัตรคอนเสิร์ตราคาแสนสองแสน เราอิน ก็คือความสุขของเรา

แม้บัตรคอนเสิร์ตล่าสุดราคาแพง แต่ก็อยู่ในงบประมาณ เราจะตั้งงบประมาณไว้ก่อนแล้ว เราไม่เคยไปหยิบยืมขอเงินใคร ค่าใช้จ่ายไหนรูดบัตรเครดิตผ่อนได้ เราก็เลือกใช้วิธีผ่อน แต่เรื่องเที่ยวกิน เต็มที่มาก ไม่ทำให้ตัวเองอดอยาก ไม่ต้องต้มบะหมี่สำเร็จรูปกิน

สาวจัน ณ ตอนนี้ไม่ได้เป็นแค่ติ่งเกาหลี หากยังติ่งศิลปินไทยด้วย

น้องมีน พีระวิชญ์ น้องถือธงใหญ่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ 2018 เลยเกิดกระแสในทวิตเตอร์ว่าคนถือธงปีนี้หล่อ หน้าเหมือนเกาหลี

ติ่งไทยสะดวกตรงที่ข้อแรก คุยกันรู้เรื่อง ข้อสอง อยู่ในไทย ตามง่ายกว่า เข้าถึงง่าย คือ เกาหลีมี space ศิลปินกับแฟนคลับเยอะมาก ไม่มีการมาคุยมาเล่น ไม่มีไอจงไอจีไลฟ์แจกของ เป็นกฎของเขาว่าส่วนตัวไม่ได้เลย แต่ไทยเรา ทวิตฯ หาน้อง น้องทวิตฯ ตอบ กดหัวใจบ้าง เอารูปที่เราถ่ายไปใช้บ้าง

เธอเผยว่าโลกติ่งของเธอช่วยเป็นแรงผลักดันให้เธอประสบความสำเร็จในโลกการเรียนการทำงานด้วยซ้ำ

ดงบังฯ เป็นแรงบันดาลใจให้เราตั้งใจเรียน ไม่ไขว้เขวไปติดยาติดเหล้า สำหรับมอนสตาเอ็กซ์ เป็นแพสชัน (Passion) ให้เราอยากเป็นแอร์โฮสเตส

เราอยากเป็นแอร์ฯ มาก ไม่รู้จะหาแพสชันจากไหน ก็หาจากเขา

เขาต้องบินไปต่างประเทศเยอะ เรารู้สึกเราอยากเจอเขาใกล้ๆ ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าต้องเป็นแอร์สายไหน ตอนนั้นแค่รู้สึกว่าเราอยากเป็น เราจะเริ่มจากตรงไหนดี ก็เลยฝากน้องเข้าไปถาม ประมาณว่าพี่ส่าวอยากเป็นแอร์ฯ ขอกำลังใจหน่อยได้มั้ย เขาเขียนมาว่า ‘เจอกันบนเครื่องบินนะครับ’ หลังจากนั้นเราก็พยายาม เราเป็นคนอ้วน ก็พยายามลดน้ำหนัก เริ่มสมัครแอร์ฯ สอบ Toeic (วัดระดับภาษาอังกฤษ) พยายามทุกอย่างเพื่อยื่นสมัครแอร์ฯ แต่ละสายการบินได้

จนถึงวันนี้เราประสบความสำเร็จ เราอยากไปหาเขา อยากไปบอกว่า ‘ยูว์รู้มั้ย ยูว์เป็นแรงบันดาลใจให้ไอทำสิ่งนี้สำเร็จ’

“กิฟ” วัย 24 ปี อาชีพ Customer Support บริษัทมีเดียชื่อดัง

เริ่มติ่งตั้งแต่ม.1 จำได้ว่าเป็นเอ็มวีในช่องทรู ทุกวันกลับจากโรงเรียน เปิดทีวี เจอวงหนึ่งหล่อมาก (ลากเสียง) ตอนนั้นยังไม่มีโซเชียลมีเดีย ทีวีคือสื่อหลักในการดู และทรูก็เปิดทุกวัน หนูเจอเขาทุกวันเลย ทำไมคนนี้หล่อจัง คือ ดงบังฯ หนูก็เริ่มติดตาม เข้าบอร์ด ดูในสยามโซน ตอนนั้นเกาหลีเริ่มดังเข้ามาเรื่อยๆ

แล้วเอสเจ (SJ Super Junior) เข้ามา หนูเห็นคิมฮีชอล ทำไมวงนี้มีผู้หญิงด้วย เขาเป็นผู้ชายไว้ผมยาว หนูรู้สึกว่าวงนี้น่าสนใจ หนูเมน ทงเฮ (เมน มาจาก Main ความหมายคือ ชอบคนนี้ที่สุดในวง) ก็ไปค้นหาชื่อสมาชิก 13 คน หนูใช้เวลา 2 วันนั่งท่องชื่อสมาชิกวงนี้

แล้วเขาก็มาไทย ตอนนั้นเอสเจยังไม่มีคอนเสิร์ตของตัวเองที่ไทย แต่จะมาตามงานพัทยามิวสิกเฟสติวัล งานทรู งานเปิดตัวสินค้า หนูก็ขอแม่ไปดู จำได้ครั้งแรกที่เจอ ร้องไห้เลย มันเป็นรั้ว ทุกคนวุ่นวายมาก เหยียบกันจะตาย แต่หนูยืนอยู่คนเดียว ร้องไห้ เพราะว่าตื้นตันมาก มันดีใจ หนูชอบเขามาเป็นปีแล้ว ไม่เคยเจอเลย ตอนนี้ได้เจอแล้ว

กิฟรักเดียวใจเดียว เกาะติดตามข้อมูลข่าวสารของเอสเจเท่านั้น และเมื่อใดมีคอนเสิร์ตเอสเจในไทย เธอจะตามไปดู

จำได้ที่ไปดูครั้งแรก เก็บตังค์สมัยนั้น 4,500 บาทเพื่อดูผู้ชาย (หัวเราะ) ได้อาทิตย์ละ 100 บาท กินข้าวกับโรงเรียน ส่วนค่าเดินทาง BTS พ่อออกให้อยู่แล้ว หนูเก็บเงินอย่างเดียว ไม่ซื้อของไรเลย เพราะจะเอาไปดูคอนเสิร์ต

ทะเลาะกับพ่อ เพราะพ่อไม่เข้าใจ ทำไมต้องเก็บเงินเพื่อไปดูคอนเสิร์ต แต่ทั้งนี้อยู่ที่ตัวเรา เหมือนต้องแลกเปลี่ยน ไปดูคอนเสิร์ตได้ แต่ต้องสนใจเรียน หนูพิสูจน์ให้พ่อแม่เห็นว่าหนูสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ต่อมาหนูได้ไปเรียนที่ญี่ปุ่นในโครงการแลกเปลี่ยนของมหาวิทยาลัย ทำให้เห็นว่าการเป็นติ่งของเราไม่ได้กระทบต่อชีวิตการเรียนของเรา

วงเอสเจมีข่าวดราม่า สมาชิกออกจากวง ขณะเดียวกันช่วงเวลานั้นกิฟเธอต้องไปศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่น เธอจึงไม่ติ่งใครเลย

ตอนเด็กๆ หนูห้อยพวกกุญแจหน้าเอสเจยาวถึงเข่าเป็นพวงองุ่นไปสยามฯ รู้สึกเท่ห์ อยากโชว์ว่าฉันชอบ แต่พอโตมาเข้าทำงานที่แรก ตอนแรกๆ ทุกคนเงียบ ต่างคนต่างไม่กล้าบอกใครว่าตัวเองเคยเป็นติ่งมาก่อน คนที่เป็นติ่งจะไม่เปิดเผยตัวว่าเราเป็นติ่ง เพราะมีข่าวติ่งโดนโจมตีเยอะด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้

ทีนี้มีรายการเซอร์ไวเวอร์ Produce X 101 เพื่อนมา spoil กิฟดูสิ กิฟบอกไม่ดู เพราะถ้าดูแล้วจะติด และจะไม่หยุดแค่ดู แล้วอยู่ๆ เพื่อนส่งเป็นคลิปสั้นของวอนนาวัน (WANNA ONE) มา หนึ่งนาทีเท่านั้นเปลี่ยนชีวิตหนูเลย

เธอตามไปติ่งถึงเกาหลีเลยจ้า กับแก๊งค์เพื่อนสาวที่ปลื้มวอนนา วันเหมือนกัน

เรียนจบมีรายได้เป็นของตัวเอง หนูรู้สึกว่าอยากเติมเต็มความฝันของตัวเองสักครั้งในชีวิต เพราะตั้งแต่เป็นติ่งเอสเจมา รู้สึกอยากไปดูที่เกาหลีจังเลย

วอนนาวันเป็นวงที่มีอายุแค่ปีครึ่ง พอหมดสัญญา น้องก็จะแยกไป กลุ่มเราคุยกันแต่แรกว่าจะไป comeback stage อันนี้นะ ที่เหลือมีเงินมีเวลา อยากไปก็ไป

เกิร์ลแก๊งค์สายเปย์บินไปทั้งหมด 3 ทริป เมื่อปีแล้ว 2018 เดือนเมษายนกับเดือนพฤศจิกายน ล่าสุดต้นปี 2019 หมาดๆ เดือนมกราคม

ครั้งหลังโดนเทบัตร คือ เราไม่ได้ซื้อจากเว็บ แต่ไปซื้อในทวิตเตอร์ 3 ใบ ปรากฎว่าหน้างานก่อนเวลา 1 ชม. เขาไลน์มาบอกว่าได้แค่ใบเดียว ซึ่งเราบินไปแล้ว ก็ไม่ทำไง ทำอะไรไม่ได้ ทีนี้เราสามคนก็ตกลงกันว่าใครจะเข้า เพื่อนๆ ให้หนูได้เข้าไปดู เพราะเพื่อนคนหนึ่งเหมือนแม่ อีกคนเหมือนพี่สาว หนูเป็นเหมือนน้องคนเล็กในแก๊งค์

คนอาจมองว่าหนูโง่ก็ได้ ทำไมยอมจ่ายราคาบัตรที่แพงรุนแรงมากขนาดนี้ แต่สำหรับหนูคุ้ม เพราะเป็นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของน้อง

เธอกับเพื่อนช่วยกันจัดทริปราคาประหยัด ชมช้อปชิมอย่างชิวๆ ตลอด 8 วัน

เราซื้อทาง Airbnb เป็นอพาร์ทเม้นต์รวมมากับตั๋วเครื่องบิน ราคาถูกกว่า

ทริป 8 วัน คือ หนึ่งวันไปคอนเสิร์ต ที่เหลือเข้าคาเฟ่ ถ่ายรูป เดิน กิน ช้อปปิ้ง ตื่นสาย เหมือนไปพักผ่อนมากๆ หิวก็กิน เจอร้านไหนน่ากินก็กิน ไม่กินตามรีวิว

เธอบอกว่าเธอจะไม่เอาเวลาไปตามศิลปินทุกวัน หรือจ่ายแพงเพื่อได้ลายเซ็นหรือจับมือศิลปิน

ต้องมีสติมากๆ บางคนไม่พร้อม แต่เอาเงินพ่อแม่ไป หรือไม่ก็เป็นหนี้เป็นสิน เพื่อซื้อของแบรนด์เนมราคาเป็นแสนๆ ให้ศิลปิน เสียเงินเป็นแสนๆ เพื่อให้ได้เข้าไปให้ศิลปินเซ็นลายเซ็น จับมือศิลปิน

ต้องหักห้ามใจตัวเอง ไม่ใช่เห็นคนอื่นทำ แล้วตาม โดยไม่ดูตัวเองว่าพร้อมจริงหรือเปล่า

กลางเดือนมีนาคมที่เพิ่งผ่านมา กิฟไปงานแฟนมีตติ้งครั้งแรกของ อง ซองอู แห่ง วอนนา วัน เธอเล่าเทคนิคกดบัตรสายมู เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ

คนนี้คือเมนหนู ดังนั้นต้องเตรียมเงิน เตรียมเน็ต และเตรียมใจ บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้กดบัตรได้ หาคู่ยังไม่ยากเท่ากดบัตรเลยค่ะ (หัวเราะ) อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลล่ะกัน คนอาจมองว่างมงาย หนูมีแก๊งค์ช่วยกดบัตร เพราะบางทีเน็ตเราไม่ดี แล้วแต่ดวงใครดี มีเงินอย่างเดียวไม่ได้

ถ้ากดไม่ได้ ก็มีคนมาขาย แต่ราคาแพง

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองสาวมีความเห็นคล้ายกันว่า เมื่อสภาพการณ์ชีวิตเปลี่ยน ภาระหน้าที่การงานและครอบครัวเพิ่มขึ้น โลกแห่งความเป็นติ่งย่อมต้องค่อยๆ เลือนหายไป

การติ่งเป็นแค่ส่วนหนึ่งในชีวิต เรามีเขาในชีวิตก็จริง แต่เราไม่ได้เอาเขามาอยู่ในชีวิต เขาเหมือนเป็นแพสชันให้เรามากกว่า

ติ่ง 10 กว่าปีในวันนั้น คือ พวกหนูในวันนี้

วันที่เติบโตเป็นสาวทำงานรุ่นใหม่ มีอาชีพตามความฝัน และมีรายได้ที่เลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้

ด้วยความเป็นติ่ง ฝึกให้เธอทั้งสองติดนิสัยมุ่งมั่นจริงจัง มีวินัยเป็นตัวของตัวเองสูง

 

 

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน