ช่างแต่งหน้าตัวท็อป กว่าจะเป็นขุ่นแม่ของเหล่าซุปตาร์ ป้อม วินิจ จากยุคนิตยสารถึงยุคโซเชียล เผยเคล็ดลับรุ่ง ไม่ร่วง

ช่างแต่งหน้าตัวท็อป เกิดและดังมาพร้อมกับซุปตาร์ ชมพู่ อารยา เลยทีเดียว นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก ป้อม วินิจ บุญชัยศรี ช่างแต่งหน้าตัวแม่ของประเทศไทย เจ้าของสมญานาม “เซเลบริตี้เมกอัพ”

นอกจากฝีมือขั้นเทพ สะบัดแปรงเสกหนังหน้าสวยให้กับคนดังมานับไม่ถ้วนแล้ว ฝีปากก็จัดจ้าน โพสต์ข้อความลงโซเชียลจนเกิดดราม่าหลายครั้ง

ชมคลิป สัมภาษณ์ “ป้อม วินิจ” เขาเปิดอก..ทำไมต้องดราม่า รวมทั้งเบื้องหลังวงการเมกอัพ หวั่นมั้ยหากเด็กรุ่นหลังขึ้นมาแทนที่…

หลังคลิป มารู้จักอีกตัวตนที่แท้ทรู กว่าจะเป็น “ป้อม วินิจ” ขุ่นแม่ของเหล่าซุปตาร์ดั่งทุกวันนี้ เขาขัดใจพ่อแม่ที่อยากให้เรียนหมอ และฟันฝ่าจนได้เรียนศิลปะที่วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ (ชื่อเดิม โรงเรียนเพาะช่าง) สมัยเรียนก็บังเอิญจับผลัดจับผลูแต่งหน้าให้เพื่อนๆ เชียร์ลีดเดอร์ ปรากฎว่าพรสวรรค์เฉิดฉาย กลายเป็นมือแต่งหน้าให้เพื่อนฝูง กระทั่งสามารถประกอบเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้พิเศษ

หลังสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยเพาะช่าง เขาเคยทำงานออกแบบลายผ้า ก่อนมาทำงานแต่งหน้าให้กับสตูดิโอถ่ายภาพ และเข้าวงการบันเทิง

หนังสือทีวีพูลคือ นิตยสารเล่มแรกที่เขาทำ และ ก้อย นฤมล พงษ์สุภาพ คือ ดาราคนแรกที่เขาแต่งหน้าให้

ยุคนิตยสาร แต่งหน้าถ่ายเสร็จบวกอีก 3 เดือนถึงวางแผง

หากนับ ม้า อรนภา, ลูกน้ำ ฯลฯ เป็นช่างแต่งหน้ารุ่นแรกๆ แมว ทัศนพงษ์ ฯลฯ เป็นรุ่นสอง ป้อม วินิจ ก็น่าจะอยู่ในช่วงปลายรุ่นสอง ต่อมาถึงรุ่นสาม

“ถ้ารุ่นเดียวกันก็มี คุณป๊อก พรรวิษิษฐ์, คุณฮั้ว ทศพล, คุณเอ ทิวากร แต่บุคคลเหล่านี้เข้าวงการก่อนเราหมด เราคือ คนสุดท้ายที่เข้ามาทำงานทีหลัง”

พอเข้าไปแต่งหน้าให้กับนิตยสารผู้หญิง ก็เริ่มจากงานถ่ายเซตใน

“เมื่อก่อนจะเป็นรุ่นพี่แมว พี่ฟูก พี่ลูกน้ำ พี่เป็ด และอีกหลายคน คือ อาจารย์ของเราเลย ผลงานของเค้าขึ้นปก ส่วนป้อม วินิจ ทำเซตใน ถ่ายสัมภาษณ์ต่างๆ เต็มที่ก็คือ แฟชั่นเซ็ตใน”

เราก็ไม่คิดว่าเราจะได้ทำเซตปก

จนกระทั่งวันหนึ่ง ซึ่งเขาบอกว่าเป็นความบังเอิญ

“ตอนนั้นนิตยสารเปรียว พี่แมวแต่งเซตปก เราแต่งเซตใน แต่บังเอิญคอนเซ็ปต์การแต่งหน้านางแบบไปโดนใจลูกค้าที่ซื้อปก ผลงานที่เราแต่งเซตใน เลยเลื่อนมาเป็นเซ็ตปก ก็เท่ากับว่าป้อม วินิจ ได้แต่งหน้าปกหนังสือหัวใหญ่ครั้งแรก ก็คือ นิตยสารเปรียว โดยไม่ได้คาดหวังมาก่อน เพราะไม่ว่าเซตในหรือเซตปก เราทำเต็มฝีมือตามโจทย์ที่เราได้รับมา”

หลังจากนั้นมา ใครจะเรียกเราแต่งปก ก็ไม่มีการติดอะไรแล้ว คือเมื่อก่อนใครจะมาแต่งปก ต้องเป็นช่างใหญ่เท่านั้น อันนั้นจุดเปลี่ยนเลย ทำให้เราสามารถขึ้นไปทำเซตปกเลยทีนี้

เขาเล่าถึงขั้นตอนการทำงาน ซึ่งเด็กรุ่นใหม่ยุคโซเชียลที่คุ้นชินกับการแชะปั๊บ-ใช้แอฟแต่งหน่อย-ก็โพสต์ลงแล้ว คงไม่เข้าใจนัก ค่อยๆ นึกภาพตามค่ะ

ยุคสิ่งพิมพ์ เราถ่ายไปแล้ว กว่าจะลง ตั้ง 3 เดือนนับจากวันถ่าย ตั้งแต่กล้องโพลารอยด์นะ กว่าจะตีพิมพ์ ส่งโรงพิมพ์ ตีปรู๊ฟ ส่งปรู๊ฟ กว่าจะกลับมาตรวจปรู๊ฟ ก็ใช้เวลาเป็นอาทิตย์ ส่งบรู๊ฟกลับมาแก้ สั่งสี โน่นนี่นั่น ขบวนการออฟเซตอะไรอีก

ยุคโซเชียล แต่งปั๊บแชะปุ๊บ แค่เสี้ยววินาทีทั้งโลกเห็น

“เดี๋ยวนี้ แต่งเสร็จ ถ่ายปุ๊บ ลงปั๊บ ความเร็วต่างกันมาก”

เมื่อก่อนเป็นเดือน เดี๋ยวนี้เสี้ยววินาที ถ่ายแล้วลง พิมพ์ อยู่ที่เรากดอยู่ที่เราแชร์เลย มันเร็วมาก มันต่างกันมาก และมันก็เสี่ยงมากขยายภาพเห็นได้อีก คิ้วไม่เท่ากัน ลงรองพื้นสีไม่เนียน กรีดอายไลน์เนอร์ไม่เป๊ะ ฯลฯ ดังนั้นการแต่งหน้ายิ่งต้องละเอียดมาก

ป้อม วินิจ เป็นช่างแต่งหน้าคนแรกที่นิยมโพสต์ผลงานลงอินสตราแกรม โดยซุปตาร์คู่บุญ ชมพู่ อารยา เป็นคนชักชวน

“เค้าบอกพี่ป้อมต้องเล่นนะ ฉันไม่รู้จะลงรูปแรกอะไรดี ไหนลองถ่ายเซลฟี่ให้หน่อยซิ และเค้าก็เป็นคนลงให้เรารูปนั้น ใครเน็ตดีๆ ย้อนไปดูเลยรูปแรกที่ถ่ายลงเป็นรูปที่เซลฟี่กับคุณชม จากนั้นเราถ่ายลงตลอด เป็นพันๆ ภาพแล้ว”

ตอนนี้มีแบบตั้งไอจีเป็น business ให้ลูกค้าดู จึงไม่ควรมีการลบ แต่ว่าตัวเราไอจีเหมือนเฟซบุ๊ค เป็นเครื่องเตือนความจำ

นอกจากโซเชียลจะเป็นที่บันทึกเก็บภาพความทรงจำไลฟ์สไตล์หลากหลายมุมของเขาแล้ว ยังเสมือนแฟ้มสะสมผลงาน รวมทั้งไดอารี่ระบายความคับข้องใจในบางครั้ง ซึ่งเขายืนยันว่าอุดมการณ์ของเขาคือ แต่งหน้าให้ผู้หญิงสวย โดยยึดหลักความซื่อสัตย์เป็นสำคัญ

ใช้ลิปสติกหลักหมื่นก็ได้ หลักสิบก็ไม่มีปัญหา

“ถ้าย้อนดูในไอจีล่าสุด มีอันหนึ่งที่พิงค์กี้เป็นแบบ ลิปสติกกว่าจะโอเค พี่ให้น้องที่ทำลิปกลับไปทำมาใหม่ ประมาณเกือบ 3 เดือนกว่าจะได้”

เราไม่ติดเรื่องราคา เรารับแบบ 3 บาท 5 บาทได้ ถ้าคุณภาพได้ เพราะเราเป็นอินฟลูแอนเซอร์ (Influencer ผู้ทรงอิทธิพล) สำหรับคนที่มีงบฯ จะซื้อในราคา 3 บาท 5 บาทได้ หรือถ้า 5 หมื่น 6 หมื่น เราก็สามารถอธิบายได้ว่าข้างในเป็นอะไร ทำไมถึงต้องแพง

เมื่อป้อม วินิจ รับงานเครื่องสำอางแบรนด์ใดก็ตาม เขาก็จะใช้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นั้นในงานนั้นๆ ไม่สอดไส้หยิบยี่ห้ออื่นที่ตัวเองถนัดมาใช้

ไม่มีการใช้สีที่ตัวเองถนัดแล้วไปเทียบสีเด็ดขาด ไม่ใช้เด็ดขาด เมื่อก่อนมันมีนะ อุ้ย ไม่ดีเลย ให้เทียบสีเอาแล้วถ่าย ซี่งเราเจอตั้งแต่เด็ก แต่เราจะเป็นคนไม่ได้ ยังไงเราต้องขอยืนยัน เพราะหนึ่ง เรามีอุดมการณ์ ตัวเราเองก็เคยเป็นผู้ซื้อมาก่อน กว่าจะมาเป็น ‘ป้อม วินิจ’ เสียเงินซื้อเครื่องสำอางเป็นล้านๆ เพราะฉะนั้นเราเป็นอินฟลูแอนเซอร์ แล้วคนที่ซื้อตามเราหรือใช้ตามเรา เราจะหลอกเค้าไม่ได้

อยู่ยังไง ให้รุ่ง ไม่ร่วง

สำหรับเรา ต้องซื่อสัตย์ เป็นคนตรง ไม่โกง เราไม่ชอบอะไรที่ไม่เป็นนักกีฬา” เขาเล่าต่อว่า

อาจารย์ที่เพาะช่างเคยสอนเราว่า น้ำที่ตั้งอยู่ ถ้าไม่เทออกแล้วตักเข้ามาใหม่ น้ำจะขุ่นและเน่า มียุง แต่ถ้าเรารู้จักเทออก แก้วเราจะใส่ปิ๊งตลอด ก็ง่ายๆ หมายถึงว่าใครจะตามก็ตามไป เสร็จแล้ว เราคิดของเราใหม่ได้ ถ้าเป็นตัวจริง เราก็คิดใหม่ได้เรื่อยๆ เอง

ดังนั้นไม่ว่ายุคไหน ยิ่งสมัยนี้มีเมกอัพอาร์ติสต์เกิดขึ้นมากมาย ใครๆ ก็เป็นบิวตี้บล้อกเกอร์ได้ เกลื่อนโซเชียลเต็มไปหมด ป้อม วินิจ ก็ไม่หวั่น

ไม่กลัวนะ เพราะช่างแต่งหน้าไม่ใช่ดารา ยิ่งเรามีประสบการณ์สูง กระดูกยิ่งเคี่ยวเข้มข้น และก็เราเรียนถูกเรียนผิดมา เพียงแต่ว่ากลัวที่จะหยุดพัฒนาเท่านั้นเอง แต่ถามว่ากลัวที่จะมีเด็กรุ่นหลังมามั้ย ไม่กลัว เพราะว่าเรายังรู้สึกสนุก และไปได้อีกเยอะ เราบอกกับรุ่นน้องหรือรุ่นพี่ทุกคน ว่าแต่งหน้าเชยไม่ได้อยู่ที่อายุ อยู่ที่เปิดรับหรือเปล่า

เรายังอยากทำอะไรอีกเยอะมาก เหมือนไอเดียเรายังมีอีกเยอะ ยังสนุกกับงาน มีอะไรที่เรายังไม่เก่ง แล้วตัวเราเองอยากเก่งกว่านี้อีกเยอะ

เขาไม่ทำตัวเป็นน้ำล้นแก้ว ตรงกันข้าม คอยเทน้ำออกด้วยซ้ำ เพื่อเติมน้ำสะอาดใสๆ ปิ๊งๆ เข้ามาใหม่ตลอดเวลา

นี่คือ เคล็ดลับยืนหนึ่งของ ป้อม วินิจ เซเลบริตี้เมกอัพตัวท็อปของไทย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน