แค่ใส่เดรส ส.ส.หญิงเกาหลีใต้สวมชุดกระโปรงลายตารางสดใสเข้าประชุมสภา เกิดดราม่า เหยียดเหมือนสาวนั่งดริ๊งค์ อีกฝ่ายบอกเป็นสิทธิ เถียงกันแซ่บรัว สรุป ชุดนี้ขายหมดเกลี้ยงทันที
แค่ใส่เดรส จากการประชุมสภาเกาหลีใต้ เมื่อวันอังคารที่ 4 สิงหาคม ที่ผ่านมา ภาพ ส.ส.หญิง “รยู โฮจอง (Ryu Ho-jeong)” ในชุดเดรสสั้นพลิ้วลายตารางสีสันสดใส พร้อมรองเท้าผ้าใบ แชร์ว่อนในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตกิมจิวิพากษ์วิจารณ์กันหนัก
รยูโฮจอง อายุ 28 ปี เป็นส.ส.ที่อายุน้อยที่สุดในสภา สังกัดพรรคยุติธรรม (Justice Party) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน มี 6 ที่นั่งในสภาฯ
ที่มาของเรื่องคือ กลุ่มผู้สนับสนุนพรรครัฐบาล (Democratic Party) นำภาพของส.ส.รยูไปเผยแพร่ในเฟซบุ๊กเพจของกลุ่ม โพสต์ตำหนิว่าการสวมเดรสชุดนี้ไม่เหมาะสม และกลายเป็นชนวนให้เกิดการถกเถียงเรื่องกฎระเบียบด้านการแต่งกายของส.ส.ในสภาฯ
ภาพของส.ส.รยูกลายเป็นไวรัล แชร์กระหน่ำในสื่อสังคมออนไลน์ ขึ้นแท่นข่าวดังออกทีวี มีทีมรังเกียจ โพสต์โจมตีว่าเธอต้องการเรียกร้องความสนใจบ้างล่ะ จำนวนไม่น้อยใช้ถ้อยคำเหยียดเพศว่าเธอแต่งกายเหมือนผู้หญิงในบาร์ “นี่ทำงานที่บาร์รึเปล่าเนี่ย?” “เธอมาแฟชั่นโชว์หรือยังไง?” ฯลฯ บ้างก็โพสต์รูปส.ส.หญิงอื่นๆ ที่สวมสูทกับกางเกงสแล็กไปลงพื้นที่และประชุมในสภาฯ แล้วสั่งสอนส.ส.รยูว่าต้องแต่งตัวแบบนี้
ฝ่ายทีมชื่นชม เริ่มจากส.ส.หญิงด้วยกันเอง ไม่ว่าจากพรรคไหน ต่างพร้อมใจกันออกมาปกป้องการสวมเดรสของส.ส.รยู โดยรวมพลังย้ำว่า ไม่มีกฎใดๆ ห้ามการสวมชุดกระโปรงในสภา แถมโต้กลับการโจมตีของผู้คนในโลกออนไลน์และ ส.ส.ฝ่ายอนุรักษนิยมว่า สะท้อนความคิดยุคเก่าที่ยึดแนวคิดเรื่องชายเป็นใหญ่ในสังคม ซึ่งถึงเวลาที่ควรจะเปลี่ยนแปลงได้แล้ว
ขนาดส.ส.หญิง 2 คนของพรรคแกนนำรัฐบาล ยังโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กสนับสนุน กล่าวขอบคุณส.ส.รยูที่ทำลายความเคร่งขรึมของสภาฯ ที่เต็มไปด้วย ส.ส.ชายวัยกลางคน
ด้านพรรคยุติธรรม ต้นสังกัดส.ส.รยู ออกออกแถลงการณ์ ขอคัดค้านเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ตัดสินนักการเมืองหญิงว่าย่อหย่อนคุณสมบัติ ด้วยการประเมินจากภาพลักษณ์ภายนอก โดยไม่คำนึงถึงการปฏิบัติหน้าที่ในสภา ย้ำว่าควรตัดสินกันที่การทำงาน ไม่ใช่เครื่องแต่งกาย
ในแถลงการณ์ระบุด้วยว่า ส.ส.หญิงจำนวนมากยังตกเป็นเป้าถกเถียง เพียงเพราะสวมกางเกงหรือสวมเสื้อผ้าสีสันสดใส “ปีนี้เป็นปี 2020 แล้ว ควรรับฟังเสียงของคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น”
ส.ส.รยู ให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้ว่า ที่ผ่านมา ส.ส.ในสภาฯ ส่วนใหญ่ คือ ผู้ชายวัยกลางคนที่สวมชุดสูทสีเข้ม เธอจึงต้องการจะสลายภาพเดิมๆ เหล่านั้น เพราะ “อำนาจหน้าที่ของสภาไม่ได้สร้างขึ้นมาจากชุดสูท”
“ถึงจะไม่ใช่แค่เรื่องเสื้อผ้า คุณคิดว่าชายวัยกลางคนอายุ 50 ปีเศษ ๆ ในสภาจะสามารถเป็นตัวแทนของประชาชนทุกคนได้อย่างนั้นหรือ?”
แซ่บนัวขึ้นไปอีก เธอชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว อาทิ
“ทุกครั้งที่มีการประชุม เหล่าผู้ชายวัยกลางคนจะเป็นจุดศูนย์กลาง ใส่ชุดสูทกับเนคไท แต่ฉันอยากจะทำลายขนบธรรมเนียมเดิมๆ และทำให้มันพัฒนาขึ้นด้วยการแต่งตัว”
“ไม่ได้จะทำลายเกียรติของรัฐสภาด้วยเสื้อผ้า”
“ชุดนี้ก็เป็นชุดเดรสที่เห็นได้ทั่วไป สำหรับผู้หญิงแล้ว ก็เหมือนกับการใช้ชีวิตประจำวันปกติทั่วไป”
“ฉันไม่คิดว่าความสามารถในสภาขึ้นอยู่กับการแต่งตัวใส่สูท”
พร้อมโต้กลับบรรดาเกรียนคีย์บอร์ดหัวโบราณและอคติทางเพศว่า
“พวกข้อความคุกคามทางเพศหรือข้อความด่าท่อที่เกิดจากชุดนั้นของฉัน แสดงให้เห็นถึงความไม่พัฒนาในด้านการเมืองของเรา”
“พอได้เห็นข้อความเกลียดชังที่มีให้กับหญิงสาวแล้ว ก็คิดว่าคงจะดีถ้าสังคมของเราจะมีโอกาสในการไตร่ตรองและพิจารณามากกว่านี้”
โพสต์จุดยืน ย้ำเป้าหมายหน้าที่ของตัวเอง
“การทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่แบบนี้เป็นสิ่งที่ฉันต้องทำ”
“แค่ชุดเดียวยังเป็นประเด็นขนาดนี้ ประเทศเราเต็มไปด้วยคนแก่หงำเหงือกที่เอาแต่วิจารณ์ผู้หญิงนะ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะทบทวนเรื่องนี้เลยล่ะ ว่ามั้ย?”
“ด้วยเหตุการณ์ครั้งนี้ ดิฉันหวังว่าเหล่าผู้หญิงทั้งหลายจะไม่ปกปิดตัวตนของตนเองเกี่ยวกับการแต่งกาย”
ฯลฯ
และแล้ว หลังจากเกิดกระแสดังกล่าว ชุดเดรสที่ส.ส.รยูใส่ ก็ได้ขายหมดเกลี้ยงภายในช่วงเวลาเพียง 1 วันค่ะ
ขอบคุณข้อมูลและภาพ : News1, Yonhap News Agency, Tellerreport.com, creatrip.com และ เพจอาจุมม่าบ้าเกาหลี
