รุ่นลิมิเต็ด ยลโฉมนาฬิกาลักชัวรี่ ที่มีจำนวนจำกัด

รุ่นลิมิเต็ด เรือนนาฬิกาหรูจาก PMT The Hour Glass ฉลองครบ 15 ปี

รุ่นลิมิเต็ด- เป็นที่กล่าวขานสำหรับการเปิดตัวนาฬิการุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นจาก Hublot, Ulysse Nardin, Girard-Perregaux, MB&F และ URWERK ที่ PMT The Hour Glass ฉลองครบรอบ 15 ปีแห่งความร่วมมือทางธุรกิจ หลังมีรายได้เติบโตขึ้น 12 เท่า จึงถือโอกาสนี้เปิดตัวนาฬิการุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นดังกล่าว ที่โรงแรม Waldorf Astoria กรุงเทพมหานคร

HUBLOT (อูโบลท์) นาฬิการุ่นไอคอนิกในลวดลายพรางสีเขียว สื่อถึงการเดินทางอันท้าทายจากเทือกเขาสวิสแอลป์สู่ป่าเขตร้อนอันเขียวชอุ่มของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เน้นย้ำวิสัยทัศน์แห่งปรัชญาศิลปะแห่งการผสมผสาน หรือ The Art of Fusion สู่บรรดาคนรักนาฬิกาและนักสะสมในประเทศไทย ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 30 เรือนเท่านั้น

Freak X Enamel Blue (ฟรีค เอ็กซ์ อีนาเมล บลู) จาก Ulysse Nardin ผลิตจำกัดเช่นกันเพียง 50 เรือน เป็นการหลอมรวมงานช่างฝีมือชั้นสูงอันเก่าแก่เข้ากับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ความชำนาญเฉพาะทางของแบรนด์ ตกแต่งด้วยเทคนิคการแกะสลักแบบกิโยเช่ เติมกลิ่นอายทันสมัยให้โฉมหน้าของนาฬิกา และตกแต่งด้วยเทคนิคการลงอีนาเมล หรือการลงยา อันเป็นเทคนิคที่ถ่ายทอดส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ในฐานะที่เป็นแบรนด์ที่อนุรักษ์งานช่างฝีมือเก่าแก่ที่ต้องอาศัยทักษะชั้นสูง

Girard-Perregaux (จีราร์ด-แพร์โกซ์) ผลิตนาฬิการุ่น Laureato Chronograph 42mm. เครื่องหมายหลักชั่วโมงและนาทีทรงบาตองเรืองแสงลอยเด่นอยู่เหนือหน้าปัดสีเขียวซันเรย์ ตกแต่งให้งดงามสมบูรณ์ด้วยลวดลาย Clous de Paris หน้าปัดสีเขียวเฉดดังกล่าวสอดคล้องกับการก่อกำเนิดสิ่งใหม่ การเริ่มต้นเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ของ PMT The Hour Glass

ส่วนคอลเลกชั่น Legacy Machine FlyingT เปิดตัวครั้งแรกในปีค.ศ. 2019 ครั้งแรกที่ MB&F ผลิตเครื่องบอกเวลาสามมิติที่ได้แรงบันดาลใจจากผู้หญิง ภายใต้ตัวเรือนทรงกลมทำจากทองหรือแพลทินัม ขอบตัวเรือนโค้งชันเรื่อยไปจนถึงหูตัวเรือนซึ่งยืดขยายและเพรียวบาง รายล้อมไปด้วยการประดับตกแต่งด้วยเพชรเต็มพื้นที่ กระจกคริสตัลแซฟไฟร์โค้งนูนแบบโดมยกสูงขึ้นจากขอบตัวเรือน ใต้กระจกโดมเป็นแผ่นหน้าปัดโค้ง ที่ตกแต่งอย่างประณีต

URWERK ร่วมเฉลิมฉลอง 15 ปี PMT The Hour Glass ด้วย Piece Unique 3 เวอร์ชั่นอันล้ำค่า มรกต ทับทิม และ แซฟไฟร์ มาในตัวเรือนไทเทเนียมและสตีล ประดับรอบขอบตัวเรือนด้วยเพชรและมรกตกว่า 482 เม็ด น้ำหนักร่วม 2 กะรัต ในเวอร์ชั่นมรกตสายสีเขียว เพชรและทับทิมกว่า 482 เม็ด น้ำหนักร่วม 2 กะรัต ในเวอร์ชั่นทับทิมสายสีแดง เพชรและบลูแซฟไฟร์กว่า 482 เม็ด น้ำหนักร่วม 2 กะรัต ในเวอร์ชั่นแซฟไฟร์สายสีน้ำเงิน

ภายในงานยังมีนิทรรศบอกเล่าไมล์สโตนและความสำเร็จของบริษัทมาตั้งแต่ปี 2551 ซึ่ง PMT The Hour Glass เริ่มต้นจากการจับมือระหว่าง ณรัณ ธรรมาวรานุคุปต์ และ ไมเคิล เทย์ โดยทั้งสองต่างมาจากครอบครัวที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับนาฬิกาจึงสร้างความสัมพันธ์ขึ้นจากความหลงใหลที่มีต่อเรือนเวลาเหมือนกัน และ PMT The Hour Glass ได้ถือกำเนิดขึ้น 1 เม.ย. 2551 นับเป็นจุดเริ่มต้นบทใหม่สำหรับสองนักธุรกิจหนุ่มในประเทศไทย

นับแต่เริ่มต้นความร่วมมือทางธุรกิจในปี 2551 PMT The Hour Glass ยังคงดำเนินกิจการอย่างแข็งแกร่งด้วยรายได้ที่เติบโตขึ้นมากถึง 12 เท่า อีกทั้งยังมีการขยายเครือข่ายจากแรกเริ่มเพียง 2 บูติกในกรุงเทพ ไปสู่ 15 บูติกใน 4 หัวเมืองใหญ่ทั้งในไทยและเวียดนาม โดยวางเป้าหมายในการขยายบูติกเพิ่มขึ้นเป็น 20 แห่งภายในสิ้นปี 2566