ให้สาระความรู้คู่เกษตรกรไทยจนครบ 29 ปีแล้วสำหรับนิตยสารเกษตรชั้นแนวหน้า “เทคโนโลยีชาวบ้าน” ร่วมเทิดพระเกียรติและร่วมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ในฐานะ “กษัตริย์เกษตร” นักพัฒนาผู้ทรงงานเพื่อปวงชนชาวไทยมากว่า 70 ปีแห่งการครองราชย์
นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านในเครือมติชน จึงได้ร่วมกับองค์กรหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน จัดงาน “มหัศจรรย์พันธุ์ข้าวมงคล พืชผลของพ่อ” ขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 24-27 พฤศจิกายน 2559 ที่เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ
พานิชย์ ยศปัญญา บรรณา ธิการนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 29 ปี นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเกษตรทฤษฎีใหม่ และแนวทางการเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียง โดยยึดหลักพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาโดยตลอด เพื่อร่วมสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ที่ทรงงานเพื่อเหล่าพสกนิกรเกษตรกรไทย และนำไปใช้ได้ผลเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง
เช่น การจัดสรรพื้นที่ในการทำการเกษตร ซึ่งก็มีเกษตรกรหลายจังหวัดอ่านแล้วนำไปลงมือทำตามก็ได้ผลและสามารถอยู่ได้ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงจริงๆ หรือเกษตรกรจังหวัดโคราชที่เดิมเน้นปลูกมันสำปะหลังแต่รายได้ไม่เพียงพอ หลังจากที่ได้นำเกษตรทฤษฎีใหม่ไปทดลองทำตาม มีการปลูกหญ้าแฝกและไม้ผล เลี้ยงสัตว์ ก็สามารถเพิ่มรายได้ให้ครอบครัวอีกทางหนึ่ง
อีกตัวอย่างคือโครงการลุ่มน้ำปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อครั้งที่เกิดปัญหาน้ำท่วม และมีความเค็ม ในหลวงรัชกาล ที่ 9 ทรงเข้าไปปรับปรุงพื้นที่ และพระราชทานคำแนะนำให้ปลูกพืชผลต่างๆ เช่น ส้มโอทับทิมสยาม ซึ่งเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงมากในเวลานั้น ก็มีการปลูกขึ้นมากว่า 2 พันไร่ ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ไร่ละ 1 แสนบาท อีกทั้งพระองค์ยังมีพระราชดำริให้สร้างเขื่อนกั้นไม่ให้น้ำเข้ามา ปรับปรุงดินให้ปลูกพืชได้ เกษตรกรมีรายได้สร้างชื่อเสียงจนเป็นเกษตรกรตัวอย่าง ซึ่งทุกอย่างล้วนมาจากการน้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาใช้ในการทำเกษตรโดยทั้งสิ้น
งาน “มหัศจรรย์พันธุ์ข้าวมงคล พืชผลของพ่อ” จึงจัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติและร่วมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ไฮไลต์สำคัญจะแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ เริ่มจาก นิทรรศการ “9 พันธุ์ข้าวมงคล” จัดแสดง 9 พันธุ์ข้าวทรงปลูกที่พระราชทาน ในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญและแจกจ่ายในพิธีต่างๆ อาทิ ข้าวพันธุ์ปทุมธานี 1 ข้าวสังข์หยด พัทลุง ข้าวหอมมะลิ 105 เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีในส่วนนิทรรศการ “9 เรื่องราวข้าวของพ่อ” รวบรวม 9 เรื่องราวที่บอกเล่าพระราชจริยวัตรในด้านต่างๆ ที่คนไทยควรรู้ โดยเชิญพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสที่สำคัญเกี่ยวกับข้าวมาให้ประชาชนที่เข้าร่วมงานได้รำลึกและตระหนักถึงความห่วงใยที่ทรงมีต่อเกษตรกรและชาวนาไทย
จากนั้นเป็นโซนนิทรรศการ “พืชผลของพ่อ” เพื่อบอกเล่าเรื่องราวพระมหากรุณาธิคุณด้านการเกษตรของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช เช่น การชลประทาน การแก้ปัญหาเรื่องดิน หญ้าแฝก เศรษฐกิจพอเพียง และทฤษฎีใหม่ นำเสนอผ่านนิตยสารเทคโน โลยีชาวบ้านมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ในโซนนิทรรศการนี้ยังนำเสนอเนื้อหาของ “โครงการหลวง” พร้อมทั้งจัดแสดงพืชผลนานาชนิดมากกว่า 70 สายพันธุ์ที่เกิดจากน้ำพระราชหฤทัยของพ่อแห่งแผ่นดินที่ได้พระราชทานพืชพันธุ์ให้แก่เกษตรกร นำไปปลูกเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตด้านต่างๆ ของพสกนิกรในชนบทให้ดีขึ้น
พืชพันธุ์ดังกล่าวมีทั้งผัก ผลไม้ สมุนไพร ดอกไม้เมืองหนาว และอื่นๆ แสดงให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อเกษตรกรและประชาชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้
จุดเด่นอีกมุมในงานนี้ ได้แก่ “นิทรรศการมหัศจรรย์พันธุ์ข้าวทั่วไทย” รวบรวมพันธุ์ข้าวหายากของไทยจากทั่วประเทศกว่า 199 สายพันธุ์ คัดจากตัวอย่างพันธุ์ข้าว 24,000 ตัวอย่างในประเทศไทย โดยทั้ง 199 สายพันธุ์ ทีมงานได้คัดสรรนำมาจากทั่วภูมิภาค เพื่อจัดแสดงให้ความรู้แก่ประชาชน เพื่อประโยชน์ในด้านการอนุรักษ์ และสนองพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช “พระบิดาแห่งการวิจัยและพัฒนาข้าวไทย” ที่ทรงมีพระราชประสงค์ให้คนไทยช่วยกันอนุรักษ์พันธุ์ข้าวพื้นเมืองของไทยให้คงอยู่สืบต่อไปถึงลูกหลานและป้องกันชาติอื่นนำไป จดสิทธิบัตรรับรองเป็นพันธุ์ข้าวของตัวเอง
โซนนิทรรศการ “9 เรื่องราวข้าวกับชาวนาไทย” บอกเล่าทุกเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ “ข้าว” ผ่านนิทรรศการ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ อาทิ การคัดสรรพันธุ์ข้าวหายากระดับพรีเมียม 6 สายพันธุ์ เป็นต้นว่า ทับทิมชุมแพ สังข์หยดพัทลุง ฯลฯ มาหุงกันใหม่ๆ ให้ชิมฟรีตลอดทั้งงาน มีการแจกเมล็ดพันธุ์ข้าวมงคล และโปสเตอร์ในหลวงรัชกาลที่ 9 การสาธิตเมนูอร่อยจากข้าว โดยทีมเชฟของมติชนอคาเดมี เป็นต้น”
อีกหนึ่งกิจกรรมพิเศษในปีนี้คือการคัดสรร “3 เกษตรกรผู้เดินตามรอยพ่อ” ผู้มีผลงานดีเด่น หรือเกษตรกรดีเด่นแห่งปี (Farmers of The Year) นำเสนอเป็นแบบอย่างเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวความสำเร็จในการน้อมนำพระราชดำริไปลงมือทำจริง และเกิดผลสำเร็จในการทำการเกษตร
คนแรก ณรงค์ สังขะโห เจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส. จังหวัดชัยนาท ที่ศึกษาการปลูกยางนาตั้งแต่ปี 2504 ปัจจุบันมีผู้สนใจเข้ามาศึกษาจากคุณณรงค์ถึงกว่า 500,000 คน พร้อมๆ กับจำนวนต้นยางนาเกิดใหม่ขึ้นอีกกว่า 10 ล้านต้นในประเทศไทย
คนที่สอง สุธรรม จันทร์อ่อน เกษตรกร อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ที่ไม่เพียงน้อมนำแนวทางพระราชดำริมาประยุกต์ใช้ในการทำเกษตรจนประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน แต่ยังมีคนจำนวนมากไปเรียนรู้และลงมือฝึกงานเรื่องไร่นา-สวนผสม สร้างเกษตรกรเยาวชนคนรุ่นใหม่ต่อยอดอาชีพทำนาจากคนรุ่นเก่า
คนที่สาม ขวัญชัย รักษาพันธ์ ปราชญ์ข้าวอินทรีย์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ที่ได้ดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จนประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักในวงการเกษตร
ทั้ง 3 ท่านจะมาร่วมพูดคุยและให้ความรู้บนเวทีเสวนาภายในงานนี้อีกด้วย
ในงานยังมีการจำหน่ายพันธุ์พืช ไม้ผล ไม้ดอก ไม้ประดับ คัดสรรของดีจากสวนดังทั่วไทย อาทิ ชมพู่มะเหมี่ยวโบราณ ชมพู่ยักษ์ไต้หวัน ชมพู่ สตรอว์เบอร์รี่ มะม่วงสายพันธุ์ต่างประเทศ แก้วมังกรสีเหลือง ต้นฟิก (มะเดื่อฝรั่ง) ส้มโอแดงเวียดนาม มะไฟทองสยาม ฝรั่งพิจิตร 1-2 ลำไยจัมโบ้ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีสินค้ากลุ่มเกษตรและอุปกรณ์ตกแต่งสวน ของกินของใช้ระดับ 5 ดาวจากผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศ และอาหารดังอาหารเด็ด รวมแล้วกว่า 150 ร้านค้า พร้อมกับนำพระบรมฉายาลักษณ์ที่ทรงงานด้านการเกษตรหายาก และเมล็ดพืชผักพอเพียง คนเมืองปลูกง่าย เช่น บวบงู แตงกวา พริก เป็นต้น มาแจกฟรีให้แก่ผู้มาร่วมชมงานทุกวัน
ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมใหญ่ประจำปีที่จะทำให้คนไทยได้ร่วมแสดงความอาลัย และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีต่อเกษตรกรและชาวนาไทย รวมทั้งน้อมนำตามแนวทางตามพระราชปณิธานมาใช้ในการพัฒนาระบบเกษตรกรรมและวิถีชีวิตเพื่อสร้างสุขอย่างยั่งยืน ตามรอยพระยุคลบาท “พ่อของแผ่นดิน”
ย้ำอีกครั้งพบกันวันที่ 24-27 พ.ย. ที่เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ