สนุกรู้สนุกธรรม ห้องเรียนธรรมะ 5 G : คอลัมน์ สดจากเยาวชน
สนุกรู้สนุกธรรม ห้องเรียนธรรมะ 5 G – “สติ สติ สติ ระลึกรับรู้ดำริ การจะทำ สิ่งใด ไม่พลาดพลั้งไป ต้องมีสติ…เย้!”
เสียงจากห้องอบรม โรงเรียนปัญญาวิทย์ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง พร้อมรอยยิ้ม เสียงหัวเราะและความภาคภูมิใจของเด็กๆ หลังปรบมือกับเพื่อนๆ ประกอบเพลงสติได้อย่างถูกต้อง เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าการเรียนรู้ธรรมะจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
ทานคือการแบ่งปัน มีน้ำใจโอบอ้อมอารี ปิยวาจาคือพูดจาดี จริงใจ ไม่มีถ้อยคำหยาบคาย ส่วนอัตถจริยา คือการช่วยเหลือพึ่งพาทำประโยชน์กันไว้ สมานัตตตา ความเสมอต้นเสมอปลาย เป็นกันเองได้กับทุกคน
เช่นเดียวกับเพลงสังคหวัตถุสี่ (ธรรมะในการอยู่ร่วมกัน) อีกหนึ่งเพลงธรรมะประกอบท่าทางของ “ธรรมะ 5G” หลักสูตรการเรียนรู้ธรรมะแบบบูรณาการ ที่ทำให้เด็กๆ มีความสุขสนุกสนาน ผ่านสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ที่ทันสมัยและกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย
ภายในระยะเวลาเพียง 2-3 ชั่วโมง เด็กๆ สามารถจดจำหัวข้อธรรมพร้อมความหมายได้อย่างรวดเร็ว เช่น เรื่องสติสัมปชัญญะ เบญจศีล เบญจธรรม อิทธิบาท พรหมวิหาร สังคหวัตถุ ฆราวาสธรรม สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เติบโตเป็นพลเมืองดีของชาติ เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน เป็นศิษย์ที่ดีของครู เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ และเป็นสาวกที่ดีของศาสนา
หลักสูตร “ธรรมะ 5G” เกิดขึ้นโดยทีมวิทยากร “ครูแว่นดำ พี่ธรรมะ” นำโดย นายชาตรี บุญมี ครูผู้พิการทางการมองเห็น และ นายภูวดล ชมช่วยธานี แห่งโรงเรียนเทศบาลบ้านคลองภาษี เทศบาลเมืองกันตัง จังหวัดตรัง ร่วมกับทีมงานศิษย์เก่าโรงเรียนมัธยม วัดควนวิเศษมูลนิธิ จังหวัดตรัง จำนวน 5 คน ซึ่งต่างเคยร่วมงานวิทยากรอบรมเยาวชนกันมาตั้งแต่ปี 2549 รวมระยะเวลา 12 ปี กว่า 250 กิจกรรม
กระทั่งต่อมาจึงมีการพัฒนาหลักสูตรการอบรมธรรมะให้ทันสมัยและเข้าถึงเด็กๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น เพื่อให้เท่าทันกับการมาของโลกยุค 5G โดยที่ผ่านมาทีมงานเดินทางไปทำกิจกรรมในหลายโรงเรียนทั้งในจังหวัดตรังและจังหวัดอื่นๆ บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน และทุกครั้งก่อน ลาจากกันจะปิดท้ายด้วยกิจกรรมแสงเทียนแด่แม่อันซาบซึ้งตราตรึงใจ เพื่อให้เด็กๆ ซาบซึ้งบุญคุณผู้ให้กำเนิด
“ตอนแรกคิดว่าการอบรมธรรมะคงจะเป็นการสวดมนต์ นั่งสมาธิ แต่เมื่อครูแว่นดำ พี่ธรรมะ และทีมวิทยากรปรากฏตัว จึงรู้ว่าไม่ใช่ เพราะเต็มไปด้วยเพลงธรรมะ มุขตลก และกิจกรรมที่สนุกสนาน” คำบอกเล่าของ ด.ญ.ปรียาดา ศรัทธานนท์ นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนปัญญาวิทย์
ขณะที่ ด.ช.กฤษณพงษ์ กอบกิจ นักเรียนชั้น ป.5 มองว่าการเรียนธรรมะผ่านบทเพลงและกิจกรรมประกอบท่าทางสนุกสนานและทำให้จดจำหัวข้อธรรมได้ง่ายขึ้น
ด้าน ด.ช.ยุติวิชญ์ จำปา นักเรียนชั้น ป.6 กล่าวว่า “ธรรมะ 5G” เปลี่ยนความคิดว่าการเรียนธรรมะไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป เพราะเมื่อก่อนเวลาเข้าอบรมธรรมะต้องนั่งฟังเทศน์ สวดมนต์ หรือเดินจงกรมเพียงเท่านั้น แต่พอได้มาทำกิจกรรมบูรณาการรู้สึกสนุกและเรียนรู้ธรรมะได้ง่ายขึ้น จำง่ายขึ้น เข้าใจมากขึ้น
นางภาวินี ทั่งจันทร์แดง ผู้จัดการโรงเรียนปัญญาวิทย์ กล่าวว่า นอกจากทางโรงเรียนจะเน้นด้านวิชาการแล้วยังส่งเสริมคุณธรรมให้เด็กๆ ทุกคน หลักสูตร “ธรรมะ 5G” ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นการเรียนธรรมะด้วยกิจกรรมบูรณาการที่ทำให้เด็กๆ สนุกสนาน เป็นการเรียนแบบธรรมชาติและยังทำให้เด็กๆ เรียนรู้และซึมซับหลักธรรมต่างๆ นำไปใช้ในการเรียนและการใช้ชีวิตได้
นายสยามพัชร์ ทิพสอน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตรัง ซึ่งสนับสนุนโครงการนี้ในด้านงบประมาณ วิเคราะห์ว่า “ธรรมะ 5G” นับเป็นหลักสูตรการเรียนรู้ธรรมะที่สมบูรณ์มาก เพราะเด็กๆ สามารถเรียนรู้ธรรมะผ่านเพลงและกิจกรรมประกอบท่าทาง วิธีการใช้จิตกายสัมพันธ์จะก่อให้เกิดปัญญาและช่วยสร้างสมาธิ เกิดเป็นประโยชน์แก่เด็กๆ ทุกคน
เสียงสะท้อนถึงผลที่ได้รับดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางของ นายชาตรี บุญมี หรือ “ครูแว่นดำ” และทีมงาน ที่ต้องการสอนธรรมะให้เป็นเรื่องสนุกตามธรรมชาติการเรียนรู้ของเด็กๆ เพราะเมื่อเด็กๆ ชอบก็จะเปิดใจให้ธรรมะ ทำให้เรียนรู้หลักธรรมที่ยากขึ้นได้ อีกทั้งในยุคที่สังคมเต็มไปด้วยภัยรอบตัว ธรรมะนับว่าเป็นสิ่งสำคัญในการเป็นเกราะป้องกันให้เด็กๆ เลือกเดินไปในเส้นทางที่ถูกที่ควร เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีคุณค่า นำพาตนเองและสังคมข้ามพ้นวิกฤตสู่สันติสุขอย่างแท้จริง