สกว.จับมือร.พ.จุฬาฯ โชว์รถพาร์กินสัน-ไม้เท้าเลเซอร์ : รายงานพิเศษสุขภาพ

สกว.จับมือร.พ.จุฬาฯ โชว์รถพาร์กินสัน-ไม้เท้าเลเซอร์ – สํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) จัดกิจกรรมสื่อสัญจร ‘ความปลอดภัยในการขับขี่รถยนต์ของผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน และไม้เท้าเลเซอร์ (รุ่นใหม่) สำหรับผู้สูงอายุที่เดินติดขัด’ ที่ ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคพาร์กินสันฯ ตึก สธ. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

โดยมีศ.นพ.รุ่งโรจน์ พิทยศิริ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคพาร์กินสันและกลุ่มโรคความเคลื่อนไหวผิดปกติ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และดร.พญ.อรอนงค์ โพธิ์แก้ววรางกูล อาจารย์ประจำศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคพาร์กินสันฯ ร่วมนำเสนอผลงานวิจัยและสาธิตการใช้งานไม้เท้าเลเซอร์และรถพาร์กินสันติดตั้งอุปกรณ์อัจฉริยะในการประเมินการขับขี่รถยนต์

ศ.นพ.รุ่งโรจน์กล่าวว่า คณะผู้วิจัยได้พัฒนาไม้เท้าเลเซอร์ช่วยเดินอย่างต่อเนื่องร่วมกับผู้ใช้งานตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนและสภากาชาดไทย ปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 8 ซึ่งผู้ป่วยสามารถบีบที่หัวไม้เท้าให้มีแสงเลเซอร์ออกมาเพื่อเป็นตัวกระตุ้นสายตาให้เริ่มเดินหรือก้าวเท้าต่อไปได้ และใช้ได้ทั้งในที่ร่มและนอกอาคาร มีน้ำหนักเบาเพียง 450 กรัม ใช้แหล่งพลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมชนิดก้อน 1 ก้อน ชาร์จไฟฟ้าหรือเครื่องสำรองไฟได้ รวมถึงออกแบบฐานให้กว้างขึ้น ไม้เท้าตั้งได้อย่างมั่นคง และมีความโค้งในส่วนล่างสำหรับผู้มีปัญหาข้อเข่าให้ก้าวเดินได้สะดวก และมีแผนงานในการขึ้นทะเบียนมาตรฐานอาหารและยาสำหรับการผลิตไม้เท้าเลเซอร์ด้วย

งานวิจัยนี้ได้จดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้วและอยู่ในระดับพร้อมถ่ายทอด ซึ่งเราต้องการผู้ประกอบการที่มีศักยภาพมาพัฒนาต่อยอดร่วมกันก่อนผลิตจำหน่ายเชิงพาณิชย์ โดยจะวางแผนหาเครือข่ายทั่วประเทศผ่านสภากาชาดไทย

ปัจจุบันมีผู้ป่วยกว่า 1 แสนรายทั่วประเทศ ร้อยละ 80 อยู่ในต่างจังหวัด และมีปัญหาการเข้าถึงการรักษา ไม้เท้าเลเซอร์นี้จะเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สามารถช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีปัญหาการเดินติดขัดลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ หกล้ม อันนำไปสู่การบาดเจ็บที่รุนแรงต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ลดสภาวะพึ่งพาคนในครอบครัว สามารถดำเนินกิจวัตรประจำวันได้ ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน”

รายงานพิเศษสุขภาพ

ด้านพญ.อรอนงค์ กล่าวว่า จากการวิจัยของทีมงานที่ได้ทดสอบการขับขี่ที่ใช้ข้อกำหนดตามมาตรฐานการสอบภาคปฏิบัติของกรมการขนส่งทางบก พบว่า ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันมีความสามารถในการขับขี่ลดลงอย่างชัดเจน ทั้งการควบคุมรถ และการตัดสินใจระหว่างขับขี่ งานวิจัยนี้จึงมีส่วนสำคัญในการช่วยประเมินความพร้อมในการขับขี่รถยนต์ของผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน ที่อาศัยเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ระดับสูงมาช่วยในการวิเคราะห์ และอาจจะนำมาใช้ประเมินความพร้อมขับขี่รถยนต์สำหรับกลุ่มผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง หรือกลุ่มผู้สูงวัยที่อาจจะมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนน

“โดยอุปกรณ์ของเรามีความน่าเชื่อถือสูง และเป็นแห่งเดียวของประเทศไทยที่มีระบบอัจฉริยะในการตรวจวัดหรือคัดกรองการขับขี่รถยนต์ของผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน” ดร.พญ.อรอนงค์กล่าว

รศ.ดร.พงศ์พันธ์ แก้วตาทิพย์ รองผอ.ด้านเครือข่ายองค์กรบริหารงานวิจัยและนวัตกรรม สกว. และผอ.ฝ่ายอุตสาหกรรม ระบุว่า สกว.สนับสนุนให้สร้าง‘นวัตกร’และเกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลในการทำวิจัยร่วมกับเครือข่ายวิจัยนานาชาติ ให้เกิดการพัฒนาอย่างเข้มแข็งและก้าวกระโดด รวมถึงหวังให้เกิดการขยายผลในภาคเอกชนที่สนใจทำธุรกิจเพื่อสังคม หรือเข้าบัญชีนวัตกรรมเพื่อให้โรงพยาบาลรัฐสามารถจัดซื้ออุปกรณ์อย่างไม้เท้าเลเซอร์ได้ในราคาถูกกว่านำเข้าจากต่างประเทศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน