คอลัมน์ หลอน

นทธี ศศิวิมล

ผมเป็นคนปทุมธานี ริมคลองบางโพธิ์ใต้ ตำบลบางหลวง อำเภอเมืองนี่เอง อยากจะเล่าเรื่องของลุงชิตให้ฟัง คือว่า ลุงชิต อายุ 81 ปีแล้วตอนที่แกมีอาการที่ว่า คือร้องไห้ อาการร้องไห้ของแกเกิดขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ จู่ๆ แกก็จะเศร้า ซึมและน้ำตาก็จะไหล แกบอกกับทุกคนว่าเวลาอย่างนั้นแกจะไม่เป็นอันทำอะไรเลย เมื่อน้ำตาเริ่มไหล ก็จะห้ามจะหยุดไม่ได้ น้ำตาจะไหลเองราวกับก๊อกน้ำรั่ว แล้วแกจะร้องไห้ไปจนกว่ามันจะหยุดเอง

แกจะเศร้าอย่างไร้เหตุผล อาการเซื่องซึมจะปรากฏคู่กับความเศร้าที่แกก็ไม่รู้ที่มาที่ไป เป็นโรคประหลาดที่หมอก็หาสาเหตุไม่ได้ นอกจากพระธุดงค์รูปหนึ่งที่หลังจากตรวจดูดวงชะตาและนั่งสมาธิอยู่พักหนึ่งบอกแกว่า สองสามชาติภพติดต่อกันที่แกเป็น สาเหตุของไฟไหม้ใหญ่ที่ผู้คนเสียชีวิตครั้งละหลายสิบคน อาการเช่นนี้เป็นกรรมเก่าที่แกจำเป็นต้องชดใช้ นี่แหละที่ลุงชิตเฝ้าบอกใครๆ แม้แต่นักข่าวที่มาสัมภาษณ์

ข่าวของแกออกอากาศทางโทรทัศน์ช่องหนึ่ง มีคนมาดูแก มาเยี่ยมมองอยู่หน้าถนนผ่านต้นไม้ใหญ่หนาหลายสิบต้นที่ขึ้นอยู่แวดล้อมบ้าน ผ่านสายน้ำที่ไหลอยู่สวนหลังบ้าน แกไม่ให้เข้ามาดูแกใกล้ๆ แกบอกไม่ชอบ แกไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่ตัวประหลาด มักก่นด่าพวกนักข่าวซึ่งหลายคนมีวิธีแปลกๆ อย่างพายเรือ บ้างก็ดำน้ำแอบดูแกนั่งร้องไห้ พอถูกจับได้ ก็เจอแกด่ากราดทั้งๆ ที่ยังร้องไห้

จนวันหนึ่งแกไม่ออกจากบ้าน ไม่ได้ไปร้านกาแฟในตลาด ไม่ได้แทงหวยกับเจ๊โส่ย ไม่ได้พูดเล่นหัวกับเด็กในตลาด ผู้คนสังเกตเห็นลุงชิตหายไปก็ล่วงเข้าวันที่สี่แล้ว เมื่อลุงพรกับน้าถวิลไปหาที่บ้าน กลิ่นที่โชยออกมาทำให้ทั้งสองคนไปเรียกไอ้สมัครมาช่วยกันงัดประตู ศพลุงชิตนอนขึ้นอืดอยู่กลางบ้าน รถมูลนิธิเรียกชาวบ้านมามุงดู

ศพแกถูกมัดถูกห่อด้วยผ้าขาวและนำไปโรงพยาบาล ก่อนเพื่อนลุงชิตจะระดมเงินและแรงช่วยจัดงานศพให้แก เจ๊โส่ยเป็นคนแรกที่พูดว่าแกอยู่คนเดียวนี่ แล้วผู้คนก็พากันนึกหาญาติหาลูกหาหลานแก แต่ก็ไม่มีใครนึกออก ขนาดน้าโจ๊กที่อายุ 50 ปีแล้วก็ยังบอกว่าตั้งแต่เกิดมาจำความได้ก็เห็นแกอยู่บ้านคนเดียว บ้านเงียบสงบและไม่ค่อยมีใครอยากเข้าไปนักเพราะหญ้ารก

ทว่าทั้งหมดไม่ทำให้ลุงชิตมีชื่อเสียงโด่งดังเท่ากับภายหลังงานศพแกผ่านไปแล้วมีคนเห็นแกนั่งร้องไห้อยู่ริมน้ำ ก็ไอ้แดงนั่นแหละเป็นคนแรกที่พายเรือผ่านแล้วเห็นแกนั่งร้องไห้อยู่ตอนสามทุ่ม ตอนแรกมันก็เฉยๆ ไม่อยากพายไปใกล้ กลัวลุงแกจะตวาดด่าไล่อีก แต่เมื่อนึกได้ว่าลุงแกตายไปแล้ว พายในเมือก็จ้ำเสียจนทำลายสถิติโลกลงอย่างราบคาบ

อีซาร่าเป็นคนต่อมาที่ว่ายน้ำมารอพบผู้ชายใกล้ๆ ท่าน้ำบ้านลุงชิต อีซาร่าตั้งใจใช้จุดนี้ นัดผู้ชายที่มาจากกรุงเทพฯ และเพิ่งรู้จักมาพูดคุยกันแถวนี้ ตอนนั้นเป็นเวลาพลบค่ำ ไม่เพียงเงียบ ยังหลบตาได้ดีอีกด้วย ทว่าเมื่อมันค่อยๆ ว่ายน้ำผ่าน (ทำไมไม่พายเรือ คงคิดจะหลบแม่และพ่อ ละมั้ง) อีซาร่าเห็นลุงชิตนั่งร้องไห้อยู่ริมท่าน้ำ ของแก อีซาร่าก็ทำลายสถิติโลกเป็นคนต่อมา

ผมฟังมาจากอีซาร่าและไอ้แดงเองกับปาก ทั้งสองคนไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง โดยเฉพาะอีซาร่า มันเกือบเป็นตะคริวจมน้ำตายด้วยซ้ำ ถ้าไม่ได้ผมซึ่งเห็นมันโบกมือผุดโผล่ขอความช่วยเหลือ ผมจึงกระโดดพุ่งลงน้ำช่วยเหลือนาง

“เหมือนตอนลุงยังอยู่เลย” อีซาร่าพูดทันทีที่หายสำลักน้ำและพูดได้ ไม่ทันได้ขอบคุณผมเสียด้วยซ้ำ

จากนั้นก็มีคนเห็นลุงชิตนั่งร้องไห้ริมน้ำอีกหลายคน เห็นจนเป็นเรื่องปกติ สมัยนั้นยังไม่มีรายการโทรทัศน์ประเภทตามล่าหาผี พิสูจน์ผีอะไรทำนองนี้ แต่ขนาดนั้นแกก็ยังดังกว่าตอนแกร้องไห้แบบมีชีวิต แกดังขึ้นเพราะการร้องไห้ของแกอยู่ในร่างผี เรื่องของแกลงหนังสือพิมพ์ดังฉบับวันอาทิตย์ด้วย มีคนจากจังหวัดอื่น โดยเฉพาะจากกรุงเทพฯ แวะมาดูด้วย คนกรุงเทพฯ พวกนั้น คงไม่มีวาสนาร่วมกับแก พวกนั้นไม่เห็น จากนั้นเรื่องลุงชิตร้องไห้ก็เงียบหายไปพร้อมกับบ้านแกเปลี่ยนไปอีกสองเจ้าของ จนในที่สุดเมื่อปีที่แล้ว ก็กลายเป็นร้านอาหารริมน้ำของคนกรุงเทพฯ

ร้านอาหารได้รับการแนะนำในพันทิบและคนพูดถึงกันในโลกออนไลน์ ผมเองได้ย้ายจากบ้านเก่าหลังนั้นมาเกือบสามสิบปีแล้ว มีครอบครัวมีหลานสองคน เรื่องราวการร้องไห้ของลุงชิตทั้งขณะมีชีวิตและไร้ชีวิตนั้นเกือบลืมไปแล้ว ถ้าเมื่อเดือนก่อนอีซาร่าเพื่อนเก่าจะไม่แวะมาหาที่บ้านและการรำลึกความหลังก็ไหลผ่านเข้ามาจนลุงชิตแกเหมือนมานั่งอยู่ต่อผมกับอีซาร่า

“ลุงแกจะร้องไห้ได้ยังไง บ้านแกก็ไม่เหลือซาก ท่าน้ำของแกก็แปรสภาพไปหมดแล้ว คนก็พลุกพล่าน ถนนแปดก็ตัดเข้าไปถึง อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว แม้แต่กูกับมึง” ผมพูดกับซาร่า

“แต่ชั้นอยากไปดูอีกครั้งนะ ไม่ได้กลับไปนานมากแล้ว” อีซาร่าพูด “เราไปกันมั้ย แกว่างไม่ใช่หรือ”

ผมคิดสองสามนาทีก่อนตอบตกลง ผมอยากไปเห็นความเปลี่ยนเหล่านั้นด้วยตาตัวเองสักครั้ง ทว่าเมื่อไปถึงทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้วจริงๆ ผมอยากให้เรื่องของลุงชิตร้องไห้กลับมาอยู่ในความสนใจของผู้คนอีกครั้ง จึงเขียนเรื่องนี้เล่าให้คุณฟัง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน