คอลัมน์ รู้ไปโม้ด

น้าชาติ ประชาชื่น [email protected]

เครื่องสำอาง ออร์แกนิก เป็นยังไงคะ

กระจิบ

ตอบ กระจิบ

จากข้อเขียนของ จินตนา ศุภศรีวสุเศรษฐ์ กลุ่มควบคุมเครื่องสำอาง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

“ออร์แกนิก” หรือ เกษตรอินทรีย์ ในทางวิชาการเกษตร หมายถึงผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ยาปราบศัตรูพืช การฉายรังสีและไม่ใช้สายพันธุ์ที่ตัดต่อพันธุกรรม

ถ้าเป็นการปศุสัตว์แบบออร์แกนิก ก็ต้องเลี้ยงด้วยอาหารสัตว์ชนิดออร์แกนิกด้วยเช่นกัน ห้ามเจือปนอาหารจากแหล่งอื่นและห้ามใช้ยาปฏิชีวนะ

ความหมายดังกล่าวใช้แพร่หลายในหลายผลิตภัณฑ์รวมทั้งเครื่องสำอางด้วย แต่คำนิยามเกี่ยวกับเครื่องสำอางออร์แกนิกในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทยก็ยังคงไม่ชัดเจน

เมื่อยังไม่มีคำนิยามที่ชัดเจนของเครื่องสำอางออร์แกนิกจึงไม่สามารถกล่าวถึงข้อดี ข้อเสียของเครื่องสำอางชนิดนี้ได้

แต่ถ้ามองในมุมของผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกโดยทั่วไป ข้อดีของผลิตภัณฑ์ประเภทนี้คือการที่ผลิตภัณฑ์นั้นปลอดจากยาฆ่าแมลงที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในพืช ผักและผลไม้แทบทุกชนิด

ในระยะยาว แนวคิดออร์แกนิกมีประโยชน์และมีข้อดีมากต่อตัวเราและสิ่งแวดล้อม คือ

1.ช่วยลดการเพิ่มสารพิษในอากาศ น้ำ ดิน และร่างกายของเรา

2.ในกรณีที่ไม่สามารถกำจัดให้มลพิษนั้นหมดไป แต่ก็สามารถลดมลพิษทางเกษตรกรรมได้

3.ป้องกันสารพิษไม่ให้ตกทอดไปสู่เยาวชนรุ่นหลัง

4.ฟื้นฟูให้ดินกลับคืนสู่ความอุดมสมบูรณ์

และ 5.รสและกลิ่นของผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรดีขึ้น

ถึงแม้ว่าหลายประเทศจะยังไม่มีคำนิยามของเครื่องสำอาง ออร์แกนิก แต่ก็กำหนดให้การกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก หรือผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ รวมถึงการรับรองผลิตภัณฑ์ อยู่ภายใต้การดูแลของกรมวิชาการเกษตรของแต่ละประเทศ ที่กำหนดให้ คำว่า ออร์แกนิก ใช้ได้เฉพาะกับสินค้าเกษตร (รวมถึงสัตว์น้ำที่จับจากแหล่งธรรมชาติและที่มาจากการเพาะเลี้ยงและอาหารสำหรับเลี้ยงปศุสัตว์) ที่เป็นสินค้าดิบและที่ผ่านกระบวนการแล้ว ทั้งนี้รวมถึงผลิตภัณฑ์เกษตรที่นำมาใช้ลักษณะเป็นเครื่องปรุงที่ได้รับการผลิตและการจัดการเป็น ไปตามกฎระเบียบที่กรมวิชาการเกษตรได้กำหนดไว้แล้วเท่านั้น ได้แก่

1.เนื้อสัตว์เนื้อ สัตว์ปีกและไข่ มาจากสัตว์ที่ไม่ได้ถูกให้ฮอร์โมนช่วยในการเติบโตหรือยาปฏิชีวนะต่างๆ ยกเว้นการให้อาหารเสริมประเภทไวตามินหรือแร่ธาตุ เลี้ยงดูด้วยอาหารสัตว์ที่เป็นออร์แกนิก และในสภาพที่สัตว์มีเสรีภาพเคลื่อนที่ไปไหนๆ ได้อย่างเป็นอิสระ

2.เป็นสินค้าที่ไม่ผ่านการตกแต่งแก้ไขทางพันธุกรรมหรือการฆ่าเชื้อโรคโดยการฉายรังสี เป็นธัญพืชที่ได้รับการปลูกบนผืนดินที่ไม่มีการใส่ปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยที่เป็นมูลสัตว์ การรักษาสภาพของดินกระทำโดยการเปลี่ยนชนิดของธัญพืชที่ปลูก ปลูกพืชคลุมดินหรือการใช้ปุ๋ยที่มาจากพืชและสัตว์

3.กำจัดศัตรูพืชและโรคพืชโดยใช้แมลงที่เป็นศัตรูพืชของแมลงที่กำลังทำอันตรายต่อพืช หรือการดักจับ ไล่โดยวิธีทางธรรมชาติ

4.สารที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นและนำมาใช้ได้ในการผลิตพืชผลหรือการเลี้ยงสัตว์ที่เป็นออร์แกนิก เช่น Alcohol, Ethanol, Calcium hypochlorite, Chlorine dioxide,เป็นต้น

ทั้งนี้จะมีการกำหนดไว้ว่าสารชนิดใดใช้กับการผลิตสินค้าประเภทใด หรือใช้ในลักษณะใด

5.การกำจัดวัชพืชกระทำด้วยวิธีการพรวนดิน ใช้มือเก็บ ใช้เครื่องมือ หรือการคลุมดินและไม่ใช้สารเคมี

6.ไม่มีการผสมสาร Sulfites, Nitrates หรือ Nitrites ในระหว่างขบวนการผลิตหรือจัดการ ทั้งนี้ยกเว้นไวน์ที่มีการผสม Sulfites อาจจะระบุบนฉลากได้ว่า made withorganic grapes

7.ไม่มีการใช้เครื่องปรุงชนิดเดียวกันแต่ในรูปที่ต่างกัน คือ ทั้งที่เป็นออร์แกนิกและไม่ได้เป็นออร์แกนิก

สำหรับเครื่องสำอาง ยังไม่มีข้อกำหนดใดที่ห้ามผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ออร์แกนิกระบุบนฉลากว่าเป็นสินค้าออร์แกนิก แต่ฉลากและข้อมูลความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์นั้นที่นำมาใช้เป็นเครื่องสำอางจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายเครื่องสำอางให้ครบถ้วน

ส่วนของไทย พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ. 2535 ไม่ได้มีนิยามของเครื่องสำอางออร์แกนิก แต่ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทุกชนิด ทุกประเภทต้องปฏิบัติตามกฎหมายเครื่องสำอาง รวมถึง ข้อกำหนดเรื่องสารที่อาจใช้และสารห้ามใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน