สวยสตรองสไตล์ Fitbit คลาสพิเศษโยคะ-พิลาทิสสุดฟิต เบิร์นเร้าใจ
สวยสตรองสไตล์ Fitbit – ยุคนี้เทรนด์นี้ก็ต้องสายฟิตสายสุขภาพ ถึงจะเรียกว่ามาแรงไม่มีตก เราจึงได้เห็นเพื่อนๆคนรอบข้าง และเหล่าคนดังอัพโชว์รูปออกกำลังกาย ทั้งในยิมและกลางแจ้งกันรัวๆ
ล่าสุด Fitbit (ฟิตบิท) ผู้นำอุปกรณ์แวร์เอเบิ้ลระดับโลก เลยจัดคลาสพิเศษโยคะและพิลาทิส ในโอกาสเปิดตัวสมาร์ตวอตช์รุ่นใหม่ โดยเชิญสื่อมวลชนและเน็ตไอดอลที่รักการออกกำลังกายมาร่วมเวิร์กเอาต์
สอนโดย ครูโด่ง-วีระพงษ์ ฟุ้งสันเทียะ ครูโยคะชื่อดัง โดยงานจัดที่วัน สตูดิโอ ชั้น 2 ของสเตเดียม วัน เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา
โดยมี คุณหลุย ไล ผอ.ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่องกง และไต้หวัน ของฟิตบิท เป็นประธานเปิดงาน พร้อมแถลงข่าวให้ข้อมูลสินค้า
ระหว่างการฝึก ทางฟิตบิตให้ผู้ร่วมคลาสทดลองใส่นาฬิกา จะได้เรียนรู้เรื่องฟีเจอร์ต่างๆและการทำงานของนาฬิกาไปด้วย
ซึ่งครั้งนี้เป็นการฝึกท่าพื้นฐาน เน้นการหายใจเข้าออกให้ถูกหลัก ซึ่งในนาฬิกาก็มีฟีเจอร์ที่ฝึกการหายใจเข้าออกด้วย จากนั้นก็เน้นท่าสร้างความแข็งแรงทนทานของกล้ามเนื้อ บิดตัว ยืดเหยียด ก่อนปิดท้ายด้วยการฝึกพิลาทิส เน้นความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว กล้ามเนื้อมัดเล็ก และกระชับหน้าท้อง
คลาสนี้ใช้เวลาแค่ 30 นาที แต่อันแน่นด้วยเอนเนอร์จี เพราะครูโด่งเน้นการท่าค้างนานๆ ยิ่งพิลาทิสด้วยแล้ว การเล่นหน้าท้องแต่ละท่าเล่นเอาเหงื่อหยดรีดไขมัน
จบคลาสแต่ละคนก็เอาผลการเวิร์กเอาต์มาโชว์ ปรากฏว่าเผาผลาญได้ 100 กว่าๆ จนถึง 200 กว่าแคลอรี่กันเลยทีเดียว
เป็นประสบการณ์การออกกำลังกาย และเรียนรู้สินค้าใหม่ได้อย่างน่าประทับใจ
สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Fitbit นั้นจะออกมาด้วยกัน 4 รุ่น ได้แก่ Fitbit Versa Lite Edition, Fitbit Inspire HR, Fitbit Inspire และ Fitbit Ace 2
ทั้งหมดออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบแอคทีฟ และเข้าถึงความมีสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค และที่สำคัญในราคาที่เข้าถึงได้
โดยรุ่น Fitbit Versa Lite Edition
เป็นการต่อยอดจากความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ในตระกูล Fitbit Versa ซึ่งเป็นสมาร์ตวอตช์ที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน อัดแน่นด้วยฟีเจอร์เพื่อสุขภาพและฟิตเนสในแบบเดียวกับที่ Versa มี
ซึ่งรวมถึงฟีเจอร์การติดตามอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมงอย่าง PurePulse ฟีเจอร์ติดตามการนอนหลับ (Sleep Stages tracking) โหมดเพื่อการออกกำลังกายกว่า 15 แบบ แอพแสดงผลและแจ้งเตือนที่เชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน, แบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้นานกว่า 4 วัน,
และเซ็นเซอร์ SpO2 ที่มีความสามารถในการวัดระดับออกซิเจนในเลือดและสามารถติดตามการชี้วัดด้านสุขภาพ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
Fitbit Versa Lite Edition ได้รับการออกแบบให้ใช้งานได้ง่ายด้วยหนึ่งปุ่มสัมผัส น้ำหนักเบา กันน้ำได้ 50 เมตร และมาพร้อมกับสีสันสดใสเหมาะสำหรับผู้มีหัวใจวัยรุ่นทุกเพศทุกวัย ในราคา 6,690 บาท
Fitbit Inspire HR
เป็นอุปกรณ์แทรกเกอร์ที่สามารถติดตามอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอดทั้งวัน ราคาเข้าถึงได้มากที่สุดของฟิตบิท คือ 3,790 บาท
เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพในการติดตามผลการทำกิจกรรมตลอดวัน การออกกำลังกายและการติดตามการนอนหลับ โหมดเพื่อการออกกำลังกายกว่า 15 แบบ แอพแสดงผลและแจ้งเตือนที่เชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน และแอพ Relax สำหรับการฝึกหายใจ
รูปทรงสวยงาม บางเฉียบ เหมาะสำหรับผู้เริ่มใช้อุปกรณ์แวร์เอเบิ้ล และอยากทดลองแทรกเกอร์ที่ราคาไม่แพงและง่ายต่อการใช้งาน
ขณะที่รุ่น Fitbit Inspire (ไม่มี HR ต่อท้าย) คือ ไม่มีตัววัดอัตราการเต้นของหัวใจ ราคาก็จะถูกลงมา คือ 2,890 บาท
ทั้งสองรุ่นนี้ สามารถกันน้ำได้ 50 เมตร และแบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่า 5 วัน เพื่อการติดตามผลทั้งกลางวันและกลางคืน
Fitbit Ace 2
เป็นฟิตเนสแทรกเกอร์สำหรับเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป มุ่งเน้นส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้ขยับร่างกายและสนุกไปกับเพื่อนและครอบครัว รุ่นนี้มาพร้อมกับ swimproof design ช่วยกันน้ำ หน้าจอทำจากวัสดุกันกระแทก รองรับการทำกิจกรรมตลอดทั้งวันของเด็กๆ
จุดเด่นคือหน้าปัดนาฬิกาแนวอนิเมชั่น เน้นความสดใส เช่น รูปจะค่อยๆใหญ่ขึ้นเมื่อเด็กขยับร่างกายมากขึ้น ตรงนี้จะช่วยสร้างแรงจูงใจใหม่ๆให้กับเด็กได้
รุ่นนี้เตรียมจะวางขายในเมืองไทยในเร็วๆนี้
คุณหลุย ไล ผู้บริหารฟิตบิท ระบุว่า ขณะนี้ทางบริษัทปรับเปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่ของแอพ Fitbit ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างรูปแบบการดูแลสุขภาพและการออกกำลังกายแบบเฉพาะตัวได้บน Fitbit
โดยแอพรูปโฉมใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเช็กและทำความเข้าใจกับสถิติและข้อมูลต่างๆ ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายของตนเอง รวมไปถึงการค้นพบเนื้อหาด้านสุขภาพใหม่ๆ และความก้าวหน้าของตนในฟีเจอร์ Challenges ได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
และยังสามารถเชื่อมต่อกับชุมชนออนไลน์ด้านสุขภาพและการออกกำลังขนาดใหญ่ระดับโลก
พร้อมเพิ่มเติมเซ็กชั่นใหม่ Fitbit Focus ที่ด้านบนของแอพ นำเสนอเนื้อหาแลข้อมูลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อความและคำแนะนำต่างๆ เพื่อสร้างแรงกระตุ้นและแรงบันดาลใจให้ผู้ใช้งาน
นอกจานี้ Fitbit Community Feed ยังขยายการให้บริการในตลาดใหม่อีกกว่า 80 แห่ง รองรับได้ 9 ภาษา เพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้นของผู้บริโภคในเอเชีย ยุโรป และละตินอเมริกา
เพื่อให้สังคมออนไลน์นี้เป็นสื่อกลางที่ช่วยสนับสนุนและผลักดันให้ผู้ที่มีความชอบและความตั้งใจเดียวกัน และยังเป็นการเพิ่มศักยภาพการใช้งานแพลตฟอร์มของฟิตบิทอีกด้วย
#FitforEverybody