โรค‘มือ-เท้า-ปาก’ ใกล้ตัวเด็กวัยเรียน
โรค‘มือ-เท้า-ปาก’ ใกล้ตัวเด็กวัยเรียน – ในช่วงฤดูฝนนอกจากไข้หวัดแล้ว อีกหนึ่งโรคที่ต้องระมัดระวังในเด็กเล็ก และเด็กวัยเรียน นั่นคือโรคมือเท้าปาก ที่แพร่ระบาดได้มาก
โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโรไวรัสในลำไส้คน ซึ่งทารก-เด็กเล็กมีโอกาสป่วยง่าย และจะรุนแรงกว่าเด็กโต มักพบในสถานรับเลี้ยงเด็ก และโรงเรียนอนุบาล
พญ.นงนภัส เก้าเอี้ยน กุมารแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า ลักษณะอาการของโรคนี้ทำให้มีตุ่มผื่นหรือแผลที่ผิวหนังบริเวณมือ เท้า หรือมีแผลภายในปาก ทำให้เด็กๆ เจ็บปาก จนรับประทานไม่ได้
นอกจากนี้อาจจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ไอ เจ็บคอ ไม่อยากอาหาร อ่อนเพลีย สามารถติดต่อกันได้ผ่านการไอหรือจาม น้ำมูก การสัมผัสตุ่มน้ำตามผิวหนัง น้ำลายหรืออุจจาระที่ปนเปื้อนเชื้อ โดยโรคมือเท้าปากมีระยะฟักตัว 3-6 วัน
หลังจากได้รับเชื้อ ผู้ป่วยจะเริ่มมีไข้ต่ำๆ เจ็บคอ ไม่อยากอาหาร อ่อนเพลีย หลังจากมีไข้ 1-2 วัน จะเริ่มมีตุ่ม ผื่น หรือแผลอักเสบที่ผิวหนังบริเวณมือ เท้า และมีแผลในปาก เช่น ที่กระพุ้งแก้ม เพดาน ลิ้น รวมถึงริมฝีปาก
ส่วนใหญ่แล้วผู้ปกครองหรือคุณครูที่โรงเรียนสามารถสังเกตอาการของเด็กในเบื้องต้นได้ เช่น มีไข้ ตุ่มหรือผื่นตามมือ เท้า และแผลในปาก
นอกจากแผลที่เกิดขึ้นตามตัวและในบริเวณปาก จะสร้างความเจ็บปวด รำคาญ ให้เด็กทรมานแล้ว โรคมือเท้าปากยังอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองอักเสบ อัมพาตกล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียก หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ไปจนถึงเสียชีวิตได้
“โดยคุณพ่อคุณแม่ควรพาเด็กๆ มาพบแพทย์เพื่อตรวจป้องกันภาวะแทรกซ้อน โดยแพทย์จะตรวจร่างกายเพื่อดูผื่นหรือตุ่มที่ผิวหนัง และแผลในปากเป็นหลัก ในบางรายที่มีอาการรุนแรงอาจนำตัวอย่างของเหลวภายในลำคอ หรืออุจจาระ ส่งตรวจในห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของอาการป่วยต่อไป” พญ.นงนภัสกล่าว
โรคมือ เท้า ปากอาการจะดีขึ้นและหายป่วยเองภายในเวลา 7-10 วัน โดยเฉพาะปัจจุบันโรคมือเท้าปากยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาดในทันที และยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคมือเท้าปากได้
พญ.นงนภัสกล่าวอีกว่า แนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อจึงเป็นวิธีการหลีกเลี่ยงโรคได้ อาทิ การรักษาความสะอาดของร่างกาย หมั่นล้างมือบ่อยๆ ไม่ใช้สิ่งของหรือภาชนะร่วมกัน เช็ดทำความสะอาดของเล่นบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการให้เด็กคลุกคลีหรือใกล้ชิดกับ ผู้ป่วย เมื่อเช็ดน้ำมูกหรือน้ำลายให้เด็กแล้วต้องล้างมือให้สะอาดโดยเร็ว
หากเด็กมีอาการของโรคมือเท้าปากให้รีบพาเด็กไปพบแพทย์ และเมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคมือเท้าปากต้องให้เด็กหยุดเรียนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะหาย หากมีเด็กในโรงเรียนป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปาก ต้องแยกเด็กที่ป่วยออก ให้ ผู้ปกครองรับกลับบ้าน และพักอยู่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ รวมถึงควรปิดโรงเรียนเพื่อทำความสะอาดหากพบเด็กติดเชื้อโรคมือเท้าปากพร้อมกันหลายคน
พญ.นงนภัสกล่าวด้วยว่า ถึงแม้โรคมือ เท้า ปากเป็นโรคที่ใกล้ตัวหนูน้อยอย่างมาก แต่หากพ่อแม่มีความใส่ใจ ดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิดและเฝ้าสังเกตอาการ หากพบว่ามีอาการผิดปกติ ดังที่กล่าวมาข้างต้น แนะนำให้รีบพาไปพบแพทย์ เพื่อจะได้ให้การดูแลรักษาอย่างทันท่วงที