20ปี‘รังสิตฟาร์ม’บนเส้นทางออร์แกนิก

20ปี‘รังสิตฟาร์ม’บนเส้นทางออร์แกนิก – ในยุคที่ผู้บริโภคต่างให้ความสำคัญต่อสุขภาพ และหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีสารเคมีปนเปื้อน “เกษตรอินทรีย์” หรือ “เกษตรออร์แกนิก” จึงตอบโจทย์สิ่งที่ผู้คนต้องการ ส่งผลให้ผลผลิตทั้งหลายแหล่ของ “รังสิตฟาร์ม” ในพื้นที่ 40 ไร่ย่านคลอง 7 รังสิต จ.ปทุมธานี ที่มี คุณปริญญา พรศิริชัยวัฒนา เป็นเจ้าของ มีเสียงตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดย “รังสิตฟาร์ม” เป็นผู้ผลิตผักออร์แกนิกกว่า 100 ชนิดป้อนสู่ตลาด ถือเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการทำฟาร์มออร์แกนิกในประเทศไทยเมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมา

20ปี‘รังสิตฟาร์ม’บนเส้นทางออร์แกนิก

คุณปริญญา พรศิริชัยวัฒนา

คุณปริญญาเล่าให้ฟังว่า ก่อนมาก่อตั้งรังสิตฟาร์ม พื้นเพครอบครัวมาจาก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่รุ่นคุณพ่อคุณแม่ได้ย้ายมาตั้งรกรากที่ย่านรังสิต จ.ปทุมธานี ทำธุรกิจป้อนวัตถุดิบต่างๆ ให้กับโรงแรมห้าดาวมาก่อน ภายใต้ชื่อ “รังสิตฟาร์ม” โดยช่วยงานของที่บ้านกระทั่งคุณพ่อเสียชีวิตก็ให้น้องชายเข้ามาสานต่อธุรกิจดังกล่าวแทน

ขณะที่เขาเองหันไปทำธุรกิจอสังหาริม ทรัพย์จัดสรรที่ดินด้านการเกษตรแบ่งขายไปด้วย โดยเริ่มจากการพัฒนาสวนส้มที่มีอยู่แล้วให้เป็นสวนเกษตรภายใต้แนวคิด “บ้านหลังที่สองของทุกคน” และด้วยความที่สนใจเรื่องการปลูกพืช แบบไม่ใช้สารเคมี และอยากทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรมาโดยตลอด ทำให้สวนเกษตรที่แบ่งขายนั้นได้รับความสนใจเพราะพืชผักต้นไม้ทุกต้นที่ปลูกในพื้นที่นั้น ไม่มีการใช้สารเคมีเลย

20ปี‘รังสิตฟาร์ม’บนเส้นทางออร์แกนิก

แต่มาถึงจุดหนึ่งเมื่อเกิดวิกฤตด้านการเงินทั่วโลกในช่วงปี 2540 ขณะที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงริเริ่มเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงให้ประชาชนหันมาพึ่งพาตนเองประกอบกับการปล่อยสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์เริ่มลดลง บ่งบอกว่าธุรกิจด้านนี้เริ่มถดถอย เลยไม่ขยายโครงการต่อ จึงมุ่งเข้ามาสู่วงการเกษตรอินทรีย์อย่างเต็มตัวเร็วขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจด้านอาหารที่มีอัตราการเติบโตทุกปี

ฟาร์มปลูกพืชผักอินทรีย์แห่งนี้มีหน่วยงานจากต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เข้ามาดูงานในไทยและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็ส่งมาที่รังสิตฟาร์ม ซึ่งปัจจุบันขยายพื้นที่ไปยัง อ.วังน้ำเขียว จ.ปราจีนบุรี เพราะมองว่าในวันหนึ่งความเป็นเมืองจะขยายไปถึงรังสิต ประกอบกับที่ดินย่านนั้นเป็นดินเหนียวเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งของการทำเกษตรอินทรีย์เพราะดินมีความเป็นกรดสูง

เจ้าของรังสิตฟาร์มกล่าวอีกว่า สมัยที่ตราสัญลักษณ์ออร์แกนิกไทยแลนด์ออกมาใหม่ๆ ไม่มีใครใช้สัญลักษณ์นี้ “รังสิตฟาร์ม” เป็นรายแรกๆ ที่ใช้ และเป็นรายแรกที่เข้ามาทำตลาดกับท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ตในช่วงปี 2543-44 แต่คนก็ยังไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่ เพราะส่วนมากคนจะรู้จักแต่ผักอนามัยผักปลอดภัย กระทั่งมีการตรวจสอบแยกให้ชัดเจนให้ ผู้บริโภคเห็นถึงความแตกต่างระหว่างผักเหล่านี้กับผักอินทรีย์จนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจนถึงปัจจุบัน

20ปี‘รังสิตฟาร์ม’บนเส้นทางออร์แกนิก

นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้รังสิตฟาร์มเติบโตอย่างมั่นคงได้รับการตอบรับอย่างดีจาก ผู้บริโภค โดยเฉลี่ยมียอดขายปีละประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งกว่าจะถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะขาดทุนมานานหลายปี เนื่องจากการดูแลรักษาพืชผักในฟาร์มต้องใช้แรงงานคนต้องทำตามมาตรฐาน แต่สิ่งที่ทำให้ธุรกิจอยู่ได้ก็คือการบริหารความเสี่ยงคิดปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาให้ทันต่อกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกเช่นทำให้รูปลักษณ์แบรนด์น่าสนใจมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย โดยขณะนี้มีสาขาที่เซ็นทรัลชิดลมพระราม 9 เซ็นทรัลอีสต์วิลล์ เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งแต่ละที่จะมีรูปแบบแตกต่างกันตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เช่น ที่สาขาเซ็นทรัลชิดลมก็มีสลัดบาร์ น้ำผักผลไม้ นอกจากผักสดและการบริหารจัดการที่เน้นความคุ้มค่าหรือทำน้อยแต่ได้มาก

20ปี‘รังสิตฟาร์ม’บนเส้นทางออร์แกนิก

คุณปริญญายังกล่าวถึงแนวโน้มการตลาดของเกษตรอินทรีย์ในประเทศไทย ในฐานะประธานชมรมเกษตรอินทรีย์แห่งประเทศไทยว่า ตราบใดที่การผลิตในประเทศยังไม่เพียงพอก็อย่าเพิ่งพูดถึงการผลิตเพื่อส่งออก สิ่งที่ต้องทำขณะนี้คือ การทำให้เกษตรอินทรีย์ขยายตัวอย่างเข้มแข็งในไทยผลิตให้เพียงพอกับความต้องการก่อน

จากนั้นการส่งออกจะตามมาเพราะปัจจุบันตลาดต่างประเทศต้องการผลิตของไทย แต่เมื่อพูดถึงปริมาณการผลิตแล้วก็ไม่สามารถไปต่อได้ เนื่องจากผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด จึงมองว่าเกษตรอินทรีย์ของไทยไม่ควรเน้นการส่งออกในขณะนี้ จนกว่าทำให้เกษตรกรไทยเข้มแข็งมีการขยายพื้นที่การปลูก โดยกระทรวงที่มีบทบาทในการส่งเสริมการส่งออกคือกระทรวงพาณิชย์ที่เห็นโอกาสของการเติบโตของสินค้า แต่จะขายได้อย่างไรหากไม่มีสินค้าที่มีคุณภาพมากพอป้อนตลาด ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการผลักดัน

20ปี‘รังสิตฟาร์ม’บนเส้นทางออร์แกนิก

คุณปริญญาบอกด้วยว่า ที่ผ่านมาชมรม จัดงานแสดงสินค้า “รวมพลคนอินทรีย์” ในรูปแบบใหม่ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แทนการจัดที่กระทรวงพาณิชย์ ทำให้กลายเป็นงานที่ทุกคนรอคอยเพราะได้โชว์ความยิ่งใหญ่ของวงการเกษตรอินทรีย์ของไทย แม้ว่าหลายประเทศจะเริ่มตื่นตัวเรื่องเกษตรอินทรีย์ แต่ไทยถือว่าเป็นผู้นำในด้านนี้

20ปี‘รังสิตฟาร์ม’บนเส้นทางออร์แกนิก

ขณะเดียวกันชมรมมีบทบาทในการผลักดันเรื่อง “ระบบการรับรองแบบมีส่วนร่วม” โดยร่วมกับ The International Federation of Organic (IFOAM) หรือไอฟ่ม ซึ่งเป็นสหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ และได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากธนาคารพัฒนาเอเชียผ่านมาทางกระทรวงเกษตรฯ เพื่อให้มีเกษตรกรในระบบเกษตรอินทรีย์มากขึ้น

“ผมอยากชวนคนไทยให้ความตระหนักในเรื่องบริโภคอาหารอินทรีย์ เพื่อช่วยผลักดันให้เกิดการผลิตที่ขยายวงเพิ่มมากขึ้น เพราะเกษตรอินทรีย์ดีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของสรรพชีวิตเป็นมิตรต่อโลก”

20ปี‘รังสิตฟาร์ม’บนเส้นทางออร์แกนิก

นับเป็นผู้ประกอบการด้านการเกษตรอินทรีย์อีกคนที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ เพื่อให้เกษตรอินทรีย์บ้านเราเติบโตไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน

วรนุช มูลมานัส

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน