ไม่อยากป่วย‘มะเร็งตับ’ต้องลดปัจจัยเสี่ยง-หมั่นตรวจ : รายงานพิเศษ

ไม่อยากป่วย‘มะเร็งตับ’ – ‘มะเร็งตับเป็นโรคที่พบได้บ่อยและเป็นสาเหตุทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้มากที่สุดอีกโรค ซึ่งปัจจุบันมะเร็งตับพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง

นพ.กนกพจน์ จันทร์ภิวัฒน์ นายแพทย์ชำนาญการ งานโรคทางเดินอาหาร โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า สาเหตุของมะเร็งตับ เกิดจากภาวะตับแข็งที่มาจากสาเหตุต่างๆ ได้แก่ การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเรื้อรังทั้งบีและซี การดื่มแอลกอฮอล์ ไขมันเกาะตับ โรคเบาหวาน โรคอ้วน ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเหตุที่ทำให้เป็นโรคมะเร็งตับได้

ไม่อยากป่วย‘มะเร็งตับ’

นพ.กนกพจน์ จันทร์ภิวัฒน์

โดยโรคมะเร็งตับมักไม่มีสัญญาณหรืออาการบ่งบอกในระยะแรก จนพัฒนาถึงขั้นแสดงอาการ จึงจะสังเกตได้ดังนี้ คือ น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ, ไม่อยากอาหาร รู้สึกอิ่มแม้รับประทานไปเพียงเล็กน้อย, คลื่นไส้ อาเจียน, เจ็บช่องท้องส่วนบน

โดยมักจะปวดบริเวณด้านขวา, มีอาการบวมที่ช่องท้องหรือคลำพบก้อนใต้ชายโครงด้านขวา เนื่องจากตับโต, เมื่อคลำพบก้อนที่ชายโครงด้านซ้ายเนื่องจากม้ามโต, ผิวหนังและตาเหลือง (ดีซ่าน), อุจจาระอาจมีสีซีดลง, อ่อนแรงและเหนื่อยล้า, อาการคันตามร่างกาย, ไข้เรื้อรัง

การตรวจมะเร็งตับสามารถทำได้หลายวิธี คือ ตรวจเลือดเพื่อตรวจมะเร็งตับ เป็นวิธีตรวจหาค่าโปรตีนที่ผลิตจากเนื้องอกตับ สามารถตรวจหามะเร็งตับในผู้ป่วยได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ โดยผู้ป่วยโรคมะเร็งตับจะมีค่ามะเร็งตับ (AFP) สูงกว่าปกติ

ไม่อยากป่วย‘มะเร็งตับ’

ไม่อยากป่วย‘มะเร็งตับ’

ถ่ายภาพตับ การวินิจฉัยด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือซีทีสแกน หรือเครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า

เจาะชิ้นเนื้อตับ ทำได้โดยการเก็บตัวอย่างจากก้อนที่สงสัยที่ตับเพื่อส่งตรวจเพิ่มเติมว่าจะเป็นเซลล์มะเร็งหรือไม่ ในกรณีที่ผลตรวจการถ่ายภาพและการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ระบุแน่นอนแล้วว่าเป็นมะเร็งตับก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องเจาะชิ้นเนื้อตับเพื่อตรวจอีก

การรักษาโรคมะเร็งตับ แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการรักษาที่ทำได้ โดยพิจารณาจากสุขภาพของผู้ป่วย ระยะของโรคมะเร็งตับ ขนาดของก้อนมะเร็ง จำนวนของก้อนมะเร็ง ค่าการทำงานของตับ

โดยมีวิธีการรักษา ดังต่อไปนี้ ผ่าตัดในระยะเริ่มแรก, ผ่าตัดเปลี่ยนตับ, รังสีรักษา ด้วยการฉายรังสีพลังงานสูง, เคมีบำบัด, Ablative Therapy การฆ่าเซลล์มะเร็งโดยการฉีดสารเข้าไปที่ เนื้อร้ายโดยตรง และการให้ยาเจาะจงเซลล์มะเร็ง

นพ.กนกพจน์กล่าวอีกว่า การป้องกันโรคมะเร็งตับ โดยลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งโรคตับแข็ง การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี และไวรัสตับอักเสบซี ที่สัมพันธ์กับมะเร็งตับ

การตรวจสุขภาพเป็นประจำคือสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการตรวจไวรัสตับอักเสบบีและซี รวมถึงเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งตับได้เป็นอย่างดี

..ราชวิถี รักษาผู้ป่วยมะเร็งตับและมีผู้ป่วยมะเร็งฯ ที่ส่งต่อมาจากโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศจำนวนมาก แต่ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ บุคลากรทางการแพทย์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งที่จำเป็นต้องรักษาอาจต้องรอคิว การรักษายาวนาน ซึ่งการรอเพื่อรับการรักษาในผู้ป่วยโรคมะเร็งเหล่านี้ เป็นปัญหาสำคัญ หากผู้ป่วยได้รับการรักษาเร็วโอกาสที่จะหาย สามารถกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี

ดังนั้น จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธา ทุกท่าน มาร่วมต่อชีวิตให้กับผู้ป่วย ที่รอโอกาสทางการรักษาโรคมะเร็ง ในกองทุนพิชิตมะเร็ง มูลนิธิรพ.ราชวิถีโดยสามารถร่วมบริจาคได้ที่บัญชีมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถีหมายเลขบัญชี 0512163221 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาโรงพยาบาลราชวิถี หรือสอบถามเพิิ่มเติมได้ที่โทร.0-23547997-9 หรือ www.rajavithifoundation.com

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน