7 วัน ไม่อันตราย!!ช่วยกันดูแลเด็กช่วงปีใหม่

รายงานพิเศษ

7 วัน ไม่อันตราย – สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ร่วมกับ ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เรื่อง ‘7 วัน ไม่อันตราย ช่วยกันดูแลเด็กให้ปลอดภัยใน ช่วงเทศกาลปีใหม่ภายใต้การเฝ้าระวังความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563

7 วัน ไม่อันตราย

โดย รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผอ.สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็ก และครอบครัว กล่าวว่า สรุป 7 วันอันตราย สาเหตุการตายอันดับหนึ่ง คือ เมาแล้วขับ

7 วัน ไม่อันตราย

ตัวเลขการตายของเด็กตั้งแต่อายุตั้งแต่ 1-17 ปี ในปี 2561 สาเหตุการตายรวมกลุ่มโรคและการบาดเจ็บในเด็ก ในส่วนของเด็กเล็กจะตายเยอะ เช่น ปอดอักเสบ ท้องเสีย ในช่วง 1 ปี มีเด็กตาย 545 ราย ในช่วงปี 2561 และลดลง จนถึงช่วง .1-.2 และจะเห็นการตายในเด็กเยอะมากขึ้นในชั้น .5- .6 จะมีจำนวนสูงมากขึ้น และในช่วงวัยรุ่นมีสาเหตุการตายจากอุบัติเหตุเพิ่มมากขึ้น

เมื่อเทียบสัดส่วนการตายด้วยการบาดเจ็บและกลุ่มโรคอื่นๆ (เปรียบเทียบในเด็กอายุ 1-17 ปี) เด็กจะตายด้วยการบาดเจ็บสูงถึง 53.5% และจากสถิติสาเหตุการตายจากการบาดเจ็บทางถนน การจมน้ำเป็นเหตุการตายที่เพิ่มสูงชัดเจนในกลุ่มเด็กอายุ 11-12 ปี จนถึงวัยรุ่น

7 วัน ไม่อันตราย

จากการแยกสัดส่วนการเกิดอุบัติเหตุ แยกได้ดังนี้ 1.การจมน้ำ 2.ภัยทางถนน 3. ความรุนแรง และสาเหตุเด็กเล็กจมน้ำเป็นสาเหตุการตายเป็นอันดับ 1 และตั้งแต่ .5-.6 เป็นต้นไปเป็นช่วงเข้าสู่วัยรุ่น 11-12 ปี

ภัยทางถนนกลายเป็นสาเหตุการตายเป็นอันดับ 1 รองลงมาคือภัยจากความรุนแรง และกลุ่มอายุที่ต่ำกว่า 15 ปี เป็นการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ผิดกฎหมาย สาเหตุอีกประการได้แก่ภัยความรุนแรง ได้เกิดเพิ่มมากขึ้นเป็นอันดับ 2 และตายเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน

ในช่วง 7 วันอันตราย ในช่วงต้นปี 2562 ที่ผ่านมา ในเด็กอายุ 1-17 ปี ตายจากการบาดเจ็บถึง 3,756 คน ใน 1 ปี เฉลี่ย 10 คนต่อวัน ในช่วง 7 วันอันตรายของปีใหม่เฉลี่ย 14 คน/วัน และในช่วง 7 วัน อันตรายสงกรานต์ เฉลี่ย 23 คน ในเดือนเมษายน ตายเฉลี่ย 19 คน/วัน

7 วัน ไม่อันตราย

การตายจากการบาดเจ็บในเด็ก 1-17 ปี ในช่วง 7 วัน อันตราย 28 .. 61- 3 .. 62 ที่ผ่านมา ภัยจากถนน 54 ราย ความรุนแรง 16 ราย จมน้ำเสียชีวิต 14 ราย งูกัด 1 ราย ไฟฟ้าชอร์ต 1 ราย อื่นๆ 12 ราย และการตายที่เกิดมากในช่วงเยาวชนอายุ 12-17 ปี เป็นหลักจากการเกิดอุบัติเหตุทางถนน และความรุนแรงตามมาเป็นอันดับ 2 และการจมน้ำเป็นสาเหตุการตาย ในช่วงเด็กเล็ก

สรุปปัญหาใหญ่ในเด็กอายุมากกว่า 12 ปี จนถึงเยาวชน ได้แก่ การขับขี่ก่อนวัยก่อน 15 ปี ขับเร็ว ไม่สวมหมวกนิรภัย มีงานรื่นเริง เมาแล้วขับ เกิดอุบัติเหตุเส้นทางสายรองในชุมชน และเด็กนั่งรถปิกอัพในกระบะขนของ

ทางสถาบันมีข้อเสนอการใช้คาร์ซีต และสนับสนุนการใช้โดยการลดภาษี เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้คาร์ซีต

ปัญหาความรุนแรงของเด็กเป็นปัญหาใหญ่อันดับ 2 ในการดำเนินชีวิตปัญหามาจากครอบครัวอ่อนแอ และ การใช้สื่อที่ไม่เหมาะสม อินเตอร์เน็ตเสรี เกมส์ ความรุนแรง ยิง แทงทำร้ายร่างกายและภาพที่ไม่เหมาะสม กับวัย ถ้าทางหน่วยงานไปควบคุมทำให้โดนตำหนิ ทำให้เกิดผลเสียกับเด็ก สื่อต่างๆ เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง

การจมน้ำเป็นสาเหตุการตาย ในช่วง 12 ปี เป็นการตายอันดับ 1 และดูถึงช่วงอายุ 17 ปี เป็นสาเหตุการตายเป็นอันดับ 2 และนโยบายของประเทศได้รณรงค์ให้เกิดการลดอัตราการตายจาก 1,600 เหลือ 700 กว่าราย โดยเป้าเฉลี่ยใน 1 ปีไม่ควรมีเด็กตายเกิน 250 ราย ในปี 2565 ในการจัดพื้นที่เด็กเล่น พื้นที่สวนน้ำต้องขออนุญาตจากท้องถิ่นในการจัดการพื้นที่เล่นสวนน้ำ ในส่วนการเดินทางทางน้ำต้องมีเสื้อชูชีพ และปัจจุบันได้ออกกฎหมายควบคุมเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน