โรคปวดหลัง สัญญาณเตือนอันตราย

โรคปวดหลัง – อาการปวดหลัง คนส่วนใหญ่มักเพิกเฉยหรือหายาแก้ปวดมารับประทานเอง เพราะคิดว่าไม่ใช่อาการร้ายแรง

โรคปวดหลัง สัญญาณเตือนอันตราย : รายงานพิเศษ

นพ.พูนศักดิ์ อาจอำนวยวิภาส

นพ.พูนศักดิ์ อาจอำนวยวิภาส แพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลสุขุมวิท กล่าวว่า บางครั้งอาการปวดหลังก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความผิดปกติทั่วไปเท่านั้น แต่อาจบ่งบอกถึงสัญญาณอันตรายบางอย่างที่เกิดขึ้นกับร่างกาย สาเหตุของการปวดหลังที่เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะโครงสร้างของกระดูกสันหลังที่มีตั้งแต่โครงสร้างของผิวหนัง กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูกสันหลัง กระดูกสันหลัง เส้นประสาท

ปัจจุบันมีการพูดถึงเรื่องของกระดูกสันหลังเส้นประสาทค่อนข้างมาก เนื่องจากเมื่อเป็นแล้วจะมีความรุนแรง และอันตรายมากกว่าระบบอื่นๆ

สำหรับปัญหาของกระดูกสันหลังแบ่งออกได้หลายรูปแบบอาจจะเกิดจากอุบัติเหตุทำให้กระดูกสันหลังหัก เคลื่อน เสื่อม และกระดูกพรุน นอกจากนี้ ยังมีหมอนรองกระดูกมีปัญหา เช่น หมอนรองกระดูกเสื่อม เคลื่อน อักเสบ ติดเชื้อ ขณะที่เส้นประสาทก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่จะทำให้เกิดอาการปวดหลังโดยอาจจะถูกกดทับจากภาวะกระดูกเสื่อม มีก้อนถุงน้ำหรือก้อนเนื้อ

แต่สาเหตุที่พบได้บ่อยจนทำให้เกิดอาการปวดหลังก็คือ ปัญหาเรื่องของหมอนรองกระดูกโดยเฉพาะปัญหาหมอนรองกระดูกเคลื่อน ซึ่งมีอาการตั้งแต่เล็กน้อยปวดเป็นครั้งคราวไปจนถึงปวดมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระดูกเคลื่อนและไปทับเส้นประสาท แต่ในกรณีที่หมอนรองกระดูกแตกจะมีอาการปวดอย่างรุนแรง ขาชา ขาอ่อนแรง หากมีอาการเหล่านี้ต้องรีบเข้ามาพบแพทย์เพื่อทำการผ่าตัดทันที

ส่วนหมอนรองกระดูกสันหลังจะมีอาการตั้งแต่กระดูกสันหลังหัก กระดูกสันหลังเสื่อม ข้อต่อกระดูกสันหลังอักเสบ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดอาการปวดหลัง แต่ที่พบได้บ่อยคืออาการของกระดูกสันหลังเสื่อมทับเส้นประสาท จนทำให้กระดูกทรุดลงมา

คำว่าเสื่อมหมายความว่ากระดูกและ ข้อต่อต่างๆ เสื่อมสภาพลง ความยืดหยุ่นน้อยลงทำให้กระดูกสันหลังหลวมมากขึ้นก็เริ่มมีการทรุดตัวลงทำให้มีอาการปวด มีอาการชา โดยส่วนมากจะพบได้ในผู้สูงอายุ ส่วนในกลุ่มที่อาการหมอนรองกระดูกแตก กระดูกเคลื่อนจะพบได้ในคนที่อายุน้อยกว่า

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการปวดหลัง 1.พฤติกรรมที่เกิดจากการใช้งาน เช่น การยกของ ก้มๆ เงยๆ ลักษณะอาชีพที่ต้องก้มตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมได้เร็ว 2.พฤติกรรมไม่ออกกำลังกาย 3.พฤติกรรมการรับประทานอาหารจนน้ำหนักเพิ่มขึ้นก็ทำให้กระดูกสันหลังเสื่อมไวได้เช่นกัน 4.พฤติกรรมการเล่นกีฬาที่รุนแรงจนทำให้เกิดการบาดเจ็บที่หลัง

อาการปวดจะปวดได้ตั้งแต่บริเวณรอบๆ หลังจนปวดร้าวลงมาที่ขาร่วมกับอาการชาและอาการอ่อนแรง ในกรณีที่มีอาการรุนแรงจะทำให้มีภาวะปัสสาวะไม่ออกและทำให้เกิดอัมพาตครึ่งตัวได้

สำหรับอาการปวดหลังอย่างรุนแรง เช่น ผู้ป่วยที่เป็นหมอนรองกระดูกแตกจะมีอาการปวดหลังอย่างรุนแรง และร้าวลงขาอย่างรุนแรง ลุกนั่งไม่ไหวต้องนอนเพียงอย่างเดียว

ทั้งนี้ หากมีอาการปวดรุนแรงการรับประทานยาแก้ปวดจะสามารถช่วยได้แค่ในช่วงแรกเท่านั้น ทางที่ดีควรรีบมาพบแพทย์เพื่อจะให้การวินิจฉัยที่ถูกต้อง

การรักษาในอดีตจะเน้นไปที่เรื่องกายภาพบำบัด แต่ถ้ามีอาการค่อนข้างรุนแรงก็อาจจะต้องเข้าผ่าตัดทำให้มีแผลค่อนข้างใหญ่ แต่ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีรักษารูปแบบใหม่ด้วยการผ่าตัดผ่านกล้อง โดยใช้กล้องขนาดเล็กไม่เกิน 1 เซนติเมตร สอดเข้าไปที่ตำแหน่งที่มีหมอนรองกระดูกเคลื่อนและสามารถเอาออกได้ทันที แผลบาดเจ็บจากการผ่าตัดมีขนาดเล็ก ทั้งนี้ ยังสามารถทำร่วมกับการใส่นอตผ่านทางผิวหนังได้ด้วยโดยที่ไม่ต้องเปิดแผลขนาดใหญ่

สำหรับแนวทางป้องกัน ควรออกกำลังเป็นประจำจะช่วยลดอาการปวดหลังและช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บที่หลังได้ดี ควบคุมน้ำหนักอย่าให้กระดูกสันหลังทำงานหนัก รวมทั้งปรับพฤติกรรม การนั่ง การนอน การยืน และการทำงานที่ไม่ทำให้กระดูกสันหลังต้องบาดเจ็บ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน