คอลัมน์ สวรรค์ในครัว
เขียง มะขาม
รกรากทางแม่เป็นคนอ่างทองครับ
เพราะฉะนั้นทุกปีก็จะต้องมีงานทำบุญรวมญาติกันอย่างน้อยหนึ่งหน
สมัยที่ยังเป็นเด็ก เหตุผลที่ทำให้ตั้งตารอคอยงานนี้ นอกจากจะได้ไปเก็บลูกยางนามาทำเป็นเฮลิคอปเตอร์เล่นแล้ว
ยังเพราะตั้งใจจะมากินก๋วยเตี๋ยวฝีมือป้าคนกลางด้วย
ไม่ได้เป็นก๋วยเตี๋ยววิเศษวิโสอะไรมาแต่ไหน
ก๋วยเตี๋ยวแบบบ้านๆ นี่แหละครับ
แต่สมัยนั้นรู้สึกว่าอร่อยเหลือเกิน
แม้จนกระทั่งสมัยนี้ ที่ตระเวนไปกินโน่นกินนี่มาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ก็ยังรู้สึกว่าอร่อยอยู่
ถึง “ฟีลลิ่ง” จะต่างจากเดิมไปบ้างก็ตาม
บางบ้านบางถิ่นอาจจะเป็นก๋วยเตี๋ยวไก่ ตามวัตถุดิบใกล้มือ
แต่ก๋วยเตี๋ยวสูตรของป้าเขาเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูครับ
เคล็ด(ไม่)ลับความอร่อยมีอยู่ไม่กี่ข้อ
อย่างแรกก็คือ ต้องเคี่ยวน้ำซุปกระดูกให้หวาน ด้วยน้ำจากไขกระดูกที่ออกมาผสมกับไชเท้าที่หั่นชิ้นใหญ่ใส่ลงไปแบบไม่ยั้ง
ก๋วยเตี๋ยวถ้าน้ำซุปอร่อยแล้วจบเลย
อย่างต่อมาก็คือ ควรจะเป็นหมูสับ ไม่ใช่หมูบด
เพราะให้อารมณ์ผิดกันมาก
และถ้าจะให้ดีกว่านั้นต้องมีชามปรุงแยก
เอาหมูแผ่ลงในชามก่อน จะปรุงรส ล่วงหน้าก็ได้หรือปรุงทีหลังก็ได้
แต่สำคัญน้ำซุปต้องร้อนสุดยอด เอามาขยี้กับหมูสับในจานนี่จบเลย
ให้หมูสุกแบบยังแดงเหมือนกึ่งสุกกึ่งดิบอยู่นิดๆ
ถ้ากินเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำ เดี๋ยวจะไปสุกต่อพอดีในชามเราเอง
ถ้าก๋วยเตี๋ยวแห้งก็ลวกนานกว่านิดหนึ่ง
ส่วนหมูชิ้นหรือลูกชิ้นปลา ฮื่อก๊วย อะไรนั่น เป็นของมาทีหลัง
สมัยก่อนถือเป็นของฟุ่มเฟือยเอาทีเดียว
ใส่แล้วไม่ใช่ก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา จะกลายเป็นก๋วยเตี๋ยวชาวกรุงไปนั่น
และอย่างสุดท้ายก็คือ ต้องมีกุ้งแห้งตัวเล็กจนเกือบฝอย ที่ย้อมสีแดงแจ๋เอาไว้โรยหน้า
โตขึ้นมากลัวอันตรายจากสีผสมอาหาร จะใช้กุ้งแห้งที่โตขึ้นกว่านั้นอีกนิด แต่สีสดน้อยลงอีกหน่อย(และราคาก็แพงขึ้นด้วย)ก็ไม่ว่ากัน
เท่านั้นก็ “ฟิน” แล้ว
ที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาก็เพราะเพิ่งไปฟิน มานี่แหละครับ