มะเร็งปากมดลูก ไวรัส‘HPV’คือตัวการร้าย

คอลัมน์ รายงานสุขภาพ

มะเร็งปากมดลูกมะเร็งปากมดลูก แค่ได้ยินชื่อบรรดาสาวๆ ก็รู้สึกกลัว และไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะเป็นโรคที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทยถึง 7 รายต่อวัน และในแต่ละปี มีการตรวจพบผู้หญิงป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูก ประมาณ 445,000 ราย

พญ.วิลาวัณย์ วัชรอาภาไพบูลย์ อายุรแพทย์มะเร็งวิทยา โรงพยาบาล พระรามเก้า กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่จะตรวจพบเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อได้จากการมีเพศสัมพันธ์ โดยสามารถติดต่อได้หลาย ช่องทางไม่ว่าจะเป็นทางปาก ช่องคลอด ทวารหนัก หรือการสัมผัสกับเชื้อโดยตรง ผู้ป่วยส่วนมากได้รับเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลที่ติดเชื้อ

การติดเชื้อ HPV ไม่มีวิธีการรักษาโดยเฉพาะ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HPV ส่วนใหญ่มักจะหายได้เอง และไม่มีอาการแสดง แต่เชื้อไวรัส HPV ที่ไม่ถูกกำจัดจากระบบภูมิคุ้มกัน สามารถพัฒนาเซลล์ปากมดลูกให้เจริญเติบโตผิดปกติ และพัฒนาไปเป็นมะเร็งปากมดลูกได้

การตรวจหาไวรัสชนิดความเสี่ยงสูงจะช่วยระบุได้ว่ามีความเสี่ยงหรือไม่ ก่อนที่จะพัฒนาไปถึงขั้นมะเร็ง

พญ.วิลาวัณย์กล่าวต่อว่า การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มีอยู่ 2 แบบ 1. PAP cytology เป็นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีทางเซลล์วิทยา โดยดูการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ก่อนที่จะพัฒนาไปสู่มะเร็ง ซึ่งวิธีนี้ไม่ใช่การตรวจหาเชื้อ HPV

แบบ 2. HPV DNA test เป็นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีการเจาะลึกระดับดีเอ็นเอ (DNA) เพื่อตรวจหาเชื้อ HPV ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นสาเหตุสูงถึง 99% ของมะเร็งปากมดลูก วิธีนี้สามารถตรวจหาเชื้อเอชพีวีกลุ่มเสี่ยงสูง จำนวน 14 สายพันธุ์ เช่น HPV สายพันธุ์ 16 HPV สายพันธุ์ 18 ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 70% และ HPV อีก 12 สายพันธุ์ วิธีนี้จะ บอกให้ทราบถึงความเสี่ยงของการเป็น มะเร็งปากมดลูกได้ก่อนจะตรวจพบการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้เชื้อ HPV ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกเท่านั้น ยังก่อให้เกิดโรคมะเร็งองคชาต มะเร็งทวารหนัก มะเร็งช่องปากและหลอดลมได้อีกด้วย

พญ.วิลาวัณย์กล่าวอีกว่า สำหรับวิธีป้องกันมะเร็งปากมดลูกที่ดีที่สุด คือ การไม่มีเพศสัมพันธ์ เพราะเพศสัมพันธ์เป็นช่องทางหลักของการติดเชื้อ HPV ถึง 99% แต่วิธีการนี้คงเป็นไปได้ยาก

ดังนั้นวิธีป้องกันการติดเชื้อ HPV สำหรับคนที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว มี 2 วิธี คือ 1.ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก 2.ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก เพื่อป้องกันการติดเชื้อ HPV ชนิดสำคัญซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งปากมดลูก

พญ.วิลาวัณย์กล่าวต่อว่า ดังนั้นผู้หญิงที่ได้รับวัคซีน HPV จึงสามารถลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ได้ โดยกลุ่มที่ควร ได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันโรคนี้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ เด็กผู้หญิงและผู้ชายอายุ 9-10 ขวบขึ้นไป รับวัคซีนจำนวน 2 เข็ม เนื่องจากร่างกายจะสามารถตอบสนองและสร้างภูมิคุ้มกันได้สูงคน ที่มีเพศสัมพันธ์แล้วและยังไม่มีการติดเชื้อเอชพีวีก็จะได้รับประโยชน์จากการฉีดวัคซีน โดยต้องฉีดวัคซีนให้ครบ 3 เข็มภายในระยะเวลา 6 เดือน โดยตัวยาจะมีฤทธิ์ป้องกันไวรัสภายใน 1 เดือนหลังฉีดครบแล้ว สามารถลดโอกาสที่จะเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 70% ทั้งนี้ไม่แนะนำสำหรับหญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ที่แพ้วัคซีนและส่วนประกอบในวัคซีน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน