ใส่หน้ากากก็ไม่รอด จีนพัฒนาระบบกล้องตรวจบุคคลใหม่สำเร็จ

ใส่หน้ากากก็ไม่รอด – วันที่ 9 มี.ค. สเตรทไทม์สรายงานว่า บริษัท ฮั่นหวัง เทคโนโลยี จากประเทศจีน ประสบความสำเร็จในการพัฒนาระบบกล้องตรวจใบหน้าบุคคลที่สามารถทำงานได้แม้บุคคลจะสวมใส่หน้ากาก ในช่วงการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19

ความสำเร็จดังกล่าวเกิดขึ้นหลังระบบกล้องติดตามบุคคลของทางการจีนประสบความยากลำบากในการสังเกตการณ์เนื่องจากชาวจีนส่วนใหญ่ใส่หน้ากากอนามัย โดยจีนเป็นชาติที่มีเทคโนโลยีการติดตามสอดแนมบุคคลชั้นนำของโลก และมักถูกชาติตะวันตกโจมตีว่าละเมิดสิทธิส่วนตัว

นายหวง เหลย รองประธาน ฮั่นหวัง เทคโนโลยี (ฮันวอน) กล่าวว่า ทางบริษัทเริ่มพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนม.ค. โดยปัจจุบันมีระบบสอดแนมให้บริการแล้ว ได้แก่ แบบแรกเป็นกล้องเดียว เหมาะสำหรับการตรวจวิเคราะห์ใบหน้าบุคคลที่ผ่านเข้าออกอาคาร

อีกแบบเป็นแบบใช้กล้องหลายตัวส่องจากมุมต่างๆ แล้วนำผลมาวิเคราะห์สามารถหาตำแหน่งของบุคคลที่ต้องการตัวได้แม้จะอยู่ในฝูงชนสูงสุด 30 คน ภายใน 1 วินาที ซึ่งด้วยเทคโนโลยีล่าสุด หากใส่หน้ากากความถูกต้องจะมากราวร้อยละ 95 หากไม่สวมใส่หน้ากากจะถูกต้องราวร้อยละ 99.5

หวง ระบุว่า ลูกค้าคนสำคัญของบริษัท คือ รัฐบาลจีน ภายใต้กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ (เทียบเท่ามหาดไทย) โดยเทคโนโลยีดังกล่าวใช้การประสานร่วมกันกับอุณหภูมิของร่างกาย ซึ่งทางบริษัทคาดว่าจะมีลูกค้าต่างชาติมาสนใจด้วยในอนาคต

“มันไม่ได้มีประโยชน์แต่เฉพาะกับคนจีนนะครับ หากนำไปใช้ในระดับโลกแล้ว ผมคิดว่าน่าจมะีประโยชน์ต่อชาวโลกด้วย” หวง ระบุ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน