คอลัมน์ ข่าวสดหรรษา

เมธี เมืองแก้ว

“วังเทพทาโร” แห่ง จ.ตรัง ก่อเกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นตั้งใจของ “อาจารย์จรูญ แก้วละเอียด” ครูวิชาภาษาอังกฤษ โรงเรียนห้วยยอด อ.ห้วยยอด และศิลปินพื้นบ้าน จ.ตรัง สาขานันทนาการ เมื่อปีพ.ศ.2543

ด้วยการนำ “ไม้เทพทาโร” หรือมีชื่อพื้นบ้านว่า “ไม้จวง” หรือ “ไม้จวงหอม” เนื่องจากเป็นไม้ที่มีกลิ่นหอม และชาวบ้านต่างเชื่อว่าเป็นไม้มงคล จึงนำมาทำเป็นมวลสารเพื่อสร้างวัตถุมงคล

โดยเฉพาะ “จตุคามรามเทพ” ที่โด่งดังกระฉ่อนไปทั่วประเทศไทยเมื่อราว 20-30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันกระแสจะซาลง แต่ยังมีผู้นิยมสะสมไม่น้อย

นอกจากทำมวลสารจัดสร้างวัตถุมงคลแล้ว ไม้เทพทาโรยังนำไปแกะสลักประดับสถานที่ หรือบ้านเรือนต่างๆ

ไม้เทพทาโร จัดเป็นไม้ยืนต้นเนื้ออ่อน เมื่อโตเต็มที่จะสูงถึง 40 เมตร ปลูกง่าย เพียงปีเดียวก็เริ่มนำส่วนต่างๆ มาใช้ประโยชน์ได้แล้ว

อีกทั้งรับประทานเป็นผักจิ้ม แกะสลักเป็นประติมากรรม สกัดน้ำมาดื่ม หรือทำน้ำมันหอม เนื่องจากมีกลิ่นเฉพาะตัวยิ่งกว่าไม้กฤษณาเสียอีก อาทิ กลิ่นตะไคร้หอม รูตเบียร์ เสม็ดขาว กุหลาบ และราชาวดี

ที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อน คือมีคุณค่าทางสมุนไพรหลายอย่าง เช่น แก้ท้องร่วง วิงเวียนศีรษะ และหืดหอบ เป็นต้น

เมื่อครั้งอดีตบริเวณ ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และใกล้เคียง นับเป็นแหล่งป่าเทพทาโรขนาดใหญ่ในระดับประเทศ และระดับโลก

แต่หลังจากนำยางพาราเข้ามาปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจ จึงส่งผลให้ไม้ชนิดนี้ค่อยๆ ถูกตัดโค่น จนเหลือแค่ตอฝังอยู่ใต้ดิน ก่อนจะถูกขุดนำขึ้นมาเผาทิ้งเป็นจำนวนมาก กระทั่งเมื่อประมาณ 10 ปีมานี้ ได้มีผู้ที่มองเห็นคุณค่านำไม้เทพทาโร มาแกะสลักเป็นอาชีพสร้างรายได้จนโด่งดัง

และเนื่องจากยังคงมีตอไม้ หรือรากไม้เทพทาโร ถูกขุดขึ้นมาทิ้งอีกเกลื่อนกลาด อาจารย์จรูญจึงไปตระเวนซื้อหามาเก็บสะสมเอาไว้ นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 จนถึงปัจจุบันรวมกว่า 600,000 กิโลกรัม ใช้เงินตัวเองไปกว่า 2,500,000 บาท ก่อนจะนำมาประดิษฐ์สร้างสรรค์เป็นงานประติมากรรมรูปต่างๆ

โดยเฉพาะรูปมังกร ถือเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในเทพนิยาย และมีความยิ่งใหญ่ตามความเชื่อของชาวจีน

หลังจากใช้เวลาเตรียมการมาประมาณ 3 ปีกว่า ในที่สุด “วังเทพทาโร” จึงเปิดขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ม.ค.2557 เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้

นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้สำคัญเกี่ยวกับไม้เทพทาโร ทั้งด้านประวัติความเป็นมา คุณประโยชน์ หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมทั้งการสร้างแหล่งป่าเทพทาโรขึ้นมาอีกครั้ง

สำหรับลานสนามหญ้ากว้างด้านหน้า ประดับไปด้วยงานประติมากรรมไม้เทพทาโรต่างๆ พร้อมป้ายข้อความ “กราบแผ่นดิน” วางอยู่ตรงกลาง เพื่อเป็นการแสดงความคารวะต่อผืนแผ่นดิน

โดยมีไฮไลต์จัดทำเส้นทางเดินลอดใต้ท้องประตูมังกร 9 ช่อง เป็นมังกรกำลังเลื้อยตัวโค้งงอเป็นจังหวะสวยงาม ด้วยความเชื่อเป็นสิริมงคล พร้อมช่วยเสริมพลัง อำนาจ บารมี มั่งมี ให้เกิดความยิ่งใหญ่

ขณะที่บริเวณโดยรอบมีงานประติมากรรมมังกรไม้เทพทาโร รวม 88 ตัว ตรงกับพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวง รัชกาลที่ 9

โดยเฉพาะมังกรไม้ตัวที่ 87 มีลักษณะพ่นน้ำออกมาจากปาก แบบสิงโตที่ประเทศสิงคโปร์ และมังกรไม้ตัวที่ 88 มีขนาดใหญ่ที่สุดภายในวังเทพทาโร มีความยาวถึง 39 เมตร จึงเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

ไม่เท่านั้นยังจัดให้มีกิจกรรมอื่นๆ อีกหลากหลายต้อนรับผู้มาเยือน อาทิ จิบชาจวง พิสูจน์กลิ่นใบเทพทาโร 4 กลิ่น การศึกษา ฐานการเรียนรู้ เช่น ทำธูปหอมเทพทาโร ทำน้ำส้มควันไม้เทพทาโร ทำน้ำมันหอมระเหยจากเทพทาโร แกะสลักไม้เทพทาโร จำหน่ายผลิตภัณฑ์โอท็อป การแสดงตีกลองยาว และขับร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน

“วังเทพทาโร” ตั้งอยู่ในเนื้อที่กว่า 25 ไร่ พื้นที่หมู่ 5 บ้านนาเหมร ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หรืออยู่ห่างจากแยกอันดามัน มาตามเส้นทางตรัง-กระบี่ ประมาณ 2 กิโลเมตร เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30-18.00 น. ไม่เก็บค่าใช้จ่าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน