30 สาวงามโชว์กึ๋น ชิงมงฯยูนิเวิร์สไทย – หลังคัดตัวเลือกเฟ้นกันเข้มข้น บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด (TPN) ผู้ถือลิขสิทธิ์การจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ จัดงานเปิดตัวสาวงามรอบ 30 คนสุดท้าย มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 เป็นทางการครั้งแรก ที่เจริญนคร ฮอลล์ ไอคอนสยาม

สาวงามเปิดตัวในธีมชุดสีขาวในสไตล์ของตนเอง ก่อนแนะนำตัวท่ามกลางเสียงเชียร์ของแฟนนางงาม จากนั้นพิธีกรสาว เบ๊กกี้ ริสา หงส์หิรัญ นำเข้าสู่ช่วง “คีย์เวิร์ดส์ ชาลเลนจ์” หรือการอภิปรายชุดคำ เปิดเวทีให้สาวงามโชว์กึ๋นประลองความคิดกันอย่างท้าทาย

การอภิปรายที่เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนนางงาม คือ ซินดี้ อเล็กซานดร้า แฮงกี่ ซึ่งได้คีย์เวิร์ดส์คำว่า “การศึกษาระบบไทย” เธอกล่าวว่า “ในฐานะที่ซินดี้เรียนในระบบการศึกษาไทย ระบบการศึกษาไทยคือระบบที่มีความเหลื่อมล้ำสูงมาก เพราะเราต้องเรียนตลอดเวลา อีกทั้งการเรียนในมัธยมหลักสูตรไม่ตรงกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทำให้นักเรียนต้องออกไปเรียนพิเศษเพื่อเอาไปสอบเอาตัวรอดและเข้าคณะที่ต้องการ ขอตั้งคำถามกับทุกคนว่าถ้าระบบการศึกษาไทยดีทำไมเราต้องเรียนพิเศษ”

ขณะที่ ปาล์มมี่ ปฏิญญา ตริวิวัฒน์กุล ซึ่งได้คำว่า “การศึกษาระบบอินเตอร์” กล่าวว่า “การศึกษาในระบบอินเตอร์มีโอกาสหลายอย่างมากกว่าคนที่เรียนในระบบอินเตอร์มีโอกาสใช้ภาษาติดต่อกับคนต่างชาติมากกว่า ถ้าเมืองไทยนำโอกาสทักษะนี้มาให้ระบบการศึกษาไทย เราก็สามารถพัฒนาไปข้างหน้ายิ่งขึ้นอีก”

ได้เห็นมุมมองความคิดบนเวทีกันไปแล้ว ถึงคราวสาวงามให้สัมภาษณ์สื่อกันบ้าง

เฌอเอม ชญาธนุส ศรทัตต์ หนึ่งในผู้คว้ารางวัลโกลเด้นเทียร่า ให้สัมภาษณ์ว่าไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ที่ได้เข้ารอบ มากกว่าการมีคนรักคือการที่เดินออกมาแล้วได้พูดในสิ่งที่เชื่อ พูดทัศนคติของเราแล้วมีคนฟัง การเป็นนางงามคือคุณต้องอุทิศตนแล้วมีคนเห็น ไม่ใช่ไม่มีคนฟัง เวทีมิสยูนิเวิร์สทำให้เอมรู้สึกถึงคุณค่าของสิ่งนี้

“เวทีนางงามเป็นก้าวแรก เมื่อก่อนคนจะพูดถึงเรื่องมิติของสังคมแต่ไม่มีความตระหนักรู้ วันนี้ที่เปิดตัว 30 คนทุกคนคงเห็นแล้วว่าผู้หญิงสวยก็มีสมอง หลายคนมีความตระหนักรู้ มีทัศนคติที่ดีต่อสังคมมากๆ เอมอยากให้แนวคิดที่บอกว่าผู้หญิงสวยไม่มีสมอง หรือเวทีนางงาม ไม่กล้าพูด มันหายไป การได้โกลเด้นเทียร่าทำให้เราเป็นตัวเต็ง เรื่องที่ต้องปรับปรุงของเอมน่าจะเป็นเรื่องเดิน จากพื้นฐานการเดินมาจากการเป็นนางแบบ การเป็นนางงามเราต้องเชื่อมกับคนดู แม้การเดินก็ต้องปรับ

ตอนนี้มั่นใจในสิ่งที่ทำ เป้าหมายของเราคือการได้มงกุฎ แต่เราได้ไปเพื่ออะไร เราแค่ทำให้เต็มที่แล้วมงกุฎคือกำไร เอมไม่ได้คิดว่าการมาของเราครั้งนี้จะเปรี้ยง จะปัง เพียงแต่คิดว่าคือมงกุฎที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต ไม่ว่าเราสวมของจริงหรือไม่ได้สวมก็ตาม แต่พอเราเห็นว่าสิ่งที่เราเชื่อมีความหมาย มงกุฎก็ยิ่งมีค่าที่เราต้องเอามาให้ได้” เฌอเอมกล่าว

ด้าน อะแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม อีกหนึ่งผู้คว้ารางวัลโกลเด้นเทียร่า เล่าว่า ประกวดมาหลายเวทีค่ะ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2015 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2016 เคยเซ็นสัญญากับช่อง 7 3 ปี ปีนี้เราหมดสัญญาทุกอย่างแล้ว เราห่างเวทีไปนานก็มีแรงฮึดขึ้นมา ด้วยเวทีนางงามเปลี่ยนบริบทไปแล้ว ไม่ใช่แค่สวยและหุ่นดี แต่ มิสยูนิเวิร์สเขาต้องการคนที่พูดแทนผู้หญิงหลายๆ คนได้ ต้องเป็นผู้นำ เราอยากเป็นคนนั้นจึงเตรียมตัวมาประกวด ถือว่ายากกว่าเดิมด้วยบริบทนางงามที่เปลี่ยนไป เราเปลี่ยนไป โตขึ้นกว่าเดิม รู้จักการจัดการความรู้สึก รู้จักพูดมากขึ้น การประกวดเข้มข้นเราก็เครียดบ้าง แต่พยายามมีความสุข เรื่องที่ต้องปรับปรุงคงเป็นเรื่องข่าวสารที่เราต้องเรียนรู้ คิดว่า เรื่องนี้สำคัญที่สุด”

หลังจากนี้ 30 สาวงามจะเดินทางไปร่วมกิจกรรมเก็บตัวที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 22-24 ก.ย. สาวงามคนใดจะคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 แบรนด์ MOUAWAD และรางวัลพิเศษอีกมากมาย เพื่อไปชิงมงฯ มิสยูนิเวิร์สที่สามให้ประเทศไทย ติดตามการประกวดรอบตัดสินวันที่ 10 ต.ค.นี้ ที่ไอคอนสยาม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน