เปิดตำนานคำสาปฟาโรห์ ใครรบกวนระวังถึงตาย หรือแค่สารพิษในสุสาน?
คาเล็ด อัล-อนานี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและโบราณวัตถุของอียิปต์ และมุสตาฟา วาซิรี เลขาธิการสภาสูงสุดด้านโบราณคดีได้ทำการแถลงข่าวเปิดโลงศพชาวอียิปต์โบราณที่มีอายุเก่าแก่ถึง 2,500 ปี ที่พิพิธภัณฑ์อียิปต์ในกรุงไคโร เมื่อวันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา
โลงศพโบราณเหล่านี้ถูกค้นพบโดยหน่วยงานทางโบราณคดีของประเทศอียิปต์ ถูกขุดพบที่บริเวณสุสานซัคคารา ที่อยู่ห่างจากทางทิศใต้ของตัวเมืองไคโรไปราวๆ 30 กิโลเมตร ซึ่งบริเวณนี้เคยเป็นที่ฝังศพของชาวเมืองเมมฟิส และยังเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรอียิปต์โบราณอีกด้วย
โลงศพโบราณดังกล่าวได้ถูกฝังลึกลงไปใต้ดินที่ความลึกราวๆ 10-12 เมตร นอกเหนือจากโลงศพโบราณแล้ว นักโบราณคดียังขุดพบรูปปั้นเทพเจ้าอียิปต์โบราณอีก 28 ชิ้น
นักโบราณคดีกล่าวว่าโลงศพเหล่านี้เป็นของนักบวชและเสมียนในช่วงราชวงศ์ที่ 26 ซึ่งการแถลงข่าวเปิดโลงศพมัมมี่ครั้งนี้ถือว่าเป็นการค้นพบครั้งใหญ่ท่ามกลางสถานการณ์โควิด -19 ขึ้นในประเทศอียิปต์
ซึ่งก่อนหน้านี้ทางหน่วยงานโบราณคดีของอียิปต์ได้ขุดพบมัมมี่ แมว จระเข้ งูเห่า และ นก ที่มีอายุกว่า 4,000 ปี ซึ่งชาวอียิปต์โบราณมีความเชื่อว่า แมวและสัตว์บางชนิด มีสถานะพิเศษในโลกหลังความตาย
โดยหนึ่งในหลุมศพที่ค้นพบนั้นมีเทพเจ้าแมวที่ทำมาจากทองสัมฤทธิ์รวมอยู่ด้วย รวมไปถึงมีการขุดค้นพบ “ด้วงสีดำ” ซึ่งตามความเชื่อของชาวอียิป์โบราณนั้น ด้วงสีดำ เปรียบเสมือนเทพเจ้ารา สุริยเทพในตำนานเทพเจ้าอียิปต์
คำสาปมัมมี่
ถ้าพูดถึงมัมมี่หลายๆคนก็คงนึกถึง “คำสาปฟาโรห์” ที่ดูเป็นของคู่กันมาโดยตลอด คำสาปฟาโรห์คือคาถาที่สาปแช่งผู้ที่มาคอยรบกวนร่างมัมมี่ของเหล่ากษัตริย์อียิปต์โบราณ โดยคำสาปฟาโรห์จะสาปแช่งให้ผู้ที่มารบกวนนั้นเจอแต่โชคร้าย เจ็บป่วย หรือแม้กระทั่งถึงแก่ชีวิต
คำสาปฟาโรห์ เกิดขึ้นหลังจากมีการเปิดสุสานเมื่อปี ค.ศ. 1922 ซึ่งในเวลานั้นมีข่าวลือว่าบรรดาคนที่เข้าไปรบกวนสุสานของพระองค์นั้นจะต้องมีเหตุให้เสียชีวิตลง และถ้าหากคำสาปมีจริงจะมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้มากถึง 22 คนเลยทีเดียว นาย จอ์จ เฮอร์เบิร์ต ผู้สนับสนุนทีมขุดค้นหาหลุมศพตุตันคาเมน ได้เสียชีวิตลงเป็นคนแรก หลังจากเปิดหลุมศพได้เพียง 4 เดือน
หรืออาจเป็นสารพิษในสุสาน ?
หลังจากที่ข่าวของคำสาปฟาโรห์ได้แพร่กระจายออกไป ก็ได้มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านชีววิทยาได้ออกมาอธิบายว่า มีโอกาสที่หลุมศพของฟาโรห์นั้นอาจมีจุลชีพอันตราย
เนื่องจากบริเวรหลุมศพนั้นไม่ได้มีเพียงซากศพ แต่ยังมีอาหารที่คนรุ่นหลังได้ทำการทิ้งไว้ให้เป็นเสบียงของคนตายด้วย ซึ่งมีมัมมี่หลายร่างบรรจุเชื้อราอันตรายที่เป็นสาเหตุให้เกิดการอุดตันหรือสภาวะเลือกออกในปอด แต่อย่างไรก็ตามก็ยังไม่คำตอบที่แน่ชัดเกี่ยวกับสาเหตุการตายของนักโบราณคดีอีก 22 คนออกมาแต่อย่างใด
ขอขอบคุณที่มา ngthai.com
