เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีกำหนดที่จะปรับค่าแรงขั้นต่ำขึ้นเป็น 3,500 ปอนด์ (ราว 140,000 บาท) ต่อเดือน จากรายงานแล้วเป็น ค่าแรงขั้นต่ำ ที่สูงที่สุดในโลก เพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้น
มาตรการนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เมืองในสวิตเซอร์แลนด์รายได้ส่วนใหญ่นั้นมาจากนักท่องเที่ยว และผู้ที่มาติดต่อธุรกิจ ซึ่งตอนนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยความกังวลดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนคนที่ต่อคิวรอรับอาหารจากธนาคารอาหาร
ประธานสมาคมอิสระอย่าง Groupement transfrontalier européen องค์กรที่สนับสนุนกลุ่มคนที่อาศัย และทำงานข้ามพรมแดนฝรั่งเศส – สวิสเซอร์แลนด์ กล่าวว่า โควิด-19 ทำให้เห็นได้ชัดมากขึ้นว่ามีประชาชนบางส่วนที่ไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในเจนีวาได้ แต่ด้วยเงิน 4,000 ฟรังก์สวิส (ราว 136,000 บาท) ต่อเดือนนี้ จะเป็นจำนวนเงินขั้นต่ำที่จะทำให้ทุกคนไม่อยู่ภายใต้ความยากจน และสถานการณ์ที่ยากลำบาก และมาตรการนี้จะแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน กับผู้อยู่อาศัยที่ยากจนในเจนีวา
มาตรการนี้ได้รับการอนุมัติจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเจนีวากว่า 58% และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 17 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งค่าแรงขั้นต่ำจะอยู่ประมาณ 23 ฟรังก์สวิสต่อชั่วโมง (ราว 780 บาท) สาเหตุสำคัญที่ทำให้ทางรัฐตัดสินใจโหวตผ่านมติการปรับค่าแรงนี้ เป็นผลมาจากการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ประชาชนจำนวนมากประสบกับปัญหาปากท้อง ทั้งๆ ที่ในการโหวตปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่เคยมี 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ทั้งในปี 2011 และ 2014 แต่ก็ถูกรัฐเจนีวาปัดตกไปทั้งหมด
โดยที่ค่าจ้างรายชั่วโมงจะถูกกำหนดไว้ที่ 19.50 ปอนด์ต่อชั่วโมง (ราว 780 บาท) ซึ่งมากกว่าสองเท่าของเพื่อนบ้านอย่างฝรั่งเศส ซึ่งจะมีการรับประกันเงินเดือนอยู่ที่ 3,457 ปอนด์ (ราว 139,000 บาท) ตามพื้นฐานการทำงาน 41 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือ 41,430 ปอนด์ (ราว 1.6 ล้านบาท) ต่อปีภายในเมืองที่มีค่าครองชีพสูงอีกหนึ่งแห่งในโลก
ค่าแรงขั้นต่ำใหม่ของเจนีวา นั้นมากกว่าสหรัฐอเมริการถึงสามเท่า ซึ่งมีค่าแรงขั้นต่ำต่อชั่วโมงอยู่ที่ 7.25 ดอลลาร์ (ราว 225 บาท) และมากกว่าสหราชอาณาจักรเป็นสองเท่า ซึ่งมีค่าแรงขั้นต่ำต่อชั่วโมงอยู่ที่ 8.72 ปอนด์ (ราว 350 บาท)
เป็นที่รู้กันดีว่า เจนีวา เป็นหนึ่งในเมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก เพราะจากเว็บ costof.live ได้ระบุว่าค่าของชีพของเจนีวาต่อเดือนนั้นอยู่ที่ 3,817 ดอลลาร์ (ราว 118,700 บาท) ซึ่งดูเหมือนจะไม่แพงหากเทียบกับเงินเฉลี่ยที่ได้รับในแต่ละเดือนซึ่งอยู่ที่ราวๆ 5,760 ดอลลาร์ (ราว 179,000 บาท)
ในขณะที่เว็บไซต์ numbeo.com ระบุว่า เจนีวาเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดเป็นลำดับที่ 4 ของโลก ต่อจาก ซูริก, ลูกาโน และบาเซิล ซึ่ง 6 จาก 10 อันดับแรกของโลก ล้วนแล้วแต่เป็นเมืองจากสวิตเซอร์แลนด์ทั้งสิ้น
เมื่อเทียบกับประเทศไทยเราแล้วนั้น เรียกได้ว่าห่างกันลิบลับ เพราะหากอ้างอิงจากเว็บ costof.live และเราอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ แล้วนั้น ค่าครองชีพเฉลี่ยต่อเดือนของคนไทยจะอยู่ที่ 40,300 บาท ซึ่งสวนทางเป็นอย่างมากกับเงินเดือนเฉลี่ยที่เราได้รับเพียง 25,400 บาท เมื่อดูจากตัวเลขข้างต้นแล้วนั้นก็ทำให้อดสงสัยไม่ได้เลยว่า มันเกิดอะไรขึ้นทำไมค่าครองชีพจึงสวนทางกับรายได้ขนาดนี้ และคนไทยใช้ชีวิตกันอย่างไรถ้าจะใช้ชีวิตแบบติดลบทุกเดือน
ที่มา : theguardian / cnbc
