เมื่อเวลา 10.50 น.วันที่ 16 ต.ค. ประชาชนจำนวนมากยังหลั่งไหลมาที่พระบรมมหาราชวัง เพื่อรอเข้าถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามน้อมถวายบังคมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ณ ศาลาสหทัยสมาคม แม้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ประชาชนยังคงยืนกางร่มต่อแถวไม่หนีไปไหน โดยหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชนเร่งนำเต็นท์มาติดตั้งเพื่อช่วยป้องกันแดดฝนให้กับประชาชนที่มาร่วมงาน

ด้านนายศรไกร แน่นศรีนิล หรือช่างไก่ ช่างทำรองเท้าร้าน ก.เปรมศิลป์ ที่มีโอกาสถวายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนับ 10 ปี กล่าวว่า ตนเปิดร้านซ่อมรองเท้าเล็กๆอยู่สี่แยกวิชัย มานานแล้ว วันนั้นประมาณปี 2547 หรือ2548 ไม่แน่ใจมีรถตู้มา 1 คัน และมีคนหนึ่งประคองฉลองพระบาท ของพระองค์ท่าน มาวางไว้ที่โต๊ะ และบอกว่าไม่ทราบทำได้หรือเปล่า ตนขนลุกทันที เป็นเรื่องที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน จึงรีบตอบรับโดยไม่ลังเล เพราะต้องการรับใช้พระองค์ท่านอยู่แล้ว แต่ว่าขอเวลาทำนานหน่อย เพราะอยากให้ฉลองพระบาทอยู่ที่ร้านนานๆ ทั้งที่ความจริงใช้เวลาซ่อมแค่ 1 ชั่วโมง

ช่างไก่ กล่าวต่อว่า ฉลองพระบาทของพระองค์ท่านเก่ามาก และมีร่องรอยสึกหรอ ซึ่งถ้าเป็นเศรษฐีคนมีเงินคงไม่เอามาใช้แล้ว แต่ท่านทรงปฎิบัติให้เห็นว่าเป็นต้นแบบของความพอเพียง และมาทราบว่าเป็นฉลองพระบาทคู่ที่ท่านโปรด จึงตั้งใจซ่อมซัพในฉลองพระบาทของท่านที่หลุดออกมาอย่างสุดความสามารถ และเมื่อซ่อมฉลองพระบาทเสร็จ ได้ซื้อพาน และผ้าสีเหลืองมาใช้รองฉลองพระบาทของพระองค์ท่านและวางไว้ชั้นสูงสุดของร้าน เมื่อคนมาเห็นก็งงว่าทำไมนำฉลองพระบาทไว้บนพาน

“ประมาณ 1 เดือน มีเจ้าหน้าที่มารับ ผมจึงถามว่าจะขอทำฉลองพระบาทให้พระองค์ท่าน ในรูปทรงที่ใกล้เคียงกับที่พระองค์ท่านนำมาให้ซ่อม โดยปรับจากขนาด 42 เพิ่มเป็น 43 และหลังจากนั้นเป็นต้นมาก็มีโอกาสทำฉลองพระบาทถวายให้พระองค์ท่านถึง 15 คู่ โดยตั้งใจว่าจะทำถวายให้ถึง 19 คู่ แต่ก็ไม่มีโอกาสแล้ว”

“ปีติเป็นล้นพ้นได้รับใช้เบื้องพระยุคลบาท ภูมิใจมากที่ได้มีโอกาสรับใช้พระองค์ท่าน ทุกวันนี้ก็ยังยึดหลักคำสอนเรื่องความดี และเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะถือเป็นคำสอนที่คนทุกชนชั้น ทุกชาติสามารถทำได้จริง ทั้งนี้จะมาร่วมพระราชพิธีอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมส่งพระองค์ท่าน”ช่างไก่ เล่าอย่างภูมิใจ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน